ASTVผู้จัดการรายวัน-“คมนาคม”ไล่บี้ ร.ฟ.ท.และกรมทางหลวง เคลียร์ปัญหาก่อสร้างรถไฟทางคู่ แหลมฉบัง หวั่นไม่เสร็จตามสัญญา หลังเจอปัญหากรมทางหลวงส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ยอมรับเป็นปัญหาความร่วมมือของหน่วยงาน โดยผลงานล่าสุดคืบหน้า 93 % ยังล่าช้ากว่าแผน 2% ขณะที่สัญญาก่อสร้างจะสิ้นสุด 19 ก.ค.นี้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกตอนฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบังว่า ขณะนี้ยังมีความล่าช้า เนื่องจากกรมทางหลวงส่งมอบพื้นที่ล่าช้า โดยบริเวณดังกล่าวเป็นสะพานข้ามทางรถไฟซึ่งกรมทางหลวงจะต้องปรับแก้ระยะห่างของตอม่อสะพานให้พ้นแนวของเส้นทางรถไฟทางคู่และรองรับแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในอนาคตด้วย ดังนั้นในวันนี้ (31 พ.ค.) จะเรียกผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)และกรมทางหลวงมาชี้แจงและเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวรวมถึงปัญหาการก่อสร้างในจุดอื่นๆ ด้วย
“เรื่องนี้เป็นปัญหาความร่วมมือของหน่วยงานถ้าต่างคนต่างทำงานของตนเองไม่สนใจคนอื่น ก็จะส่งผลกระทบทำให้การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ล่าช้า วิธีการก่อสร้างถนน รถไฟ หรือรถไฟฟ้า เป็นคนลรูปแบบดังนั้น หากมีจุดที่ต้องทำด้วยกันหน่วยงานจะต้องร่วมกันวางแผนก่อสร้างอย่างดี ซึ่งถ้าลงไปติดตามเร่งรัดก็จะไม่เกิดปัญหา เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ต้องก่อสร้างบนพื้นที่ของกรมทางหลวงแต่ไม่มีปัญหาเพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรมทางหลวงประสานงานกันดี”นายสุพจน์กล่าว
ด้านนายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังกล่าวว่า หลังจากติดตามเร่งรัดปัญหากรมทางหลวงส่งมอบพื้นที่ให้ร.ฟ.ท.ล่าช้ามาแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้ส่งมอบพื้นที่ให้ร.ฟ.ท.แล้ว หลังจากกรมทางหลวงได้ตอกเสาเข็มในส่วนของสะพานข้ามทางรถไฟที่ปรับใหม่เรียบร้อย ซึ่งอยู่ที่จุดตัด กม.137 กับถนนหมายเลข 3 (สุขุมวิท) ช่วงทางแยกเข้าไทยออยล์
สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ตอน ฉะเชิงเทรา-ศรีราช-แหลมฉบังฉบังมี ระยะทาง 78 กม. ค่าก่อสร้าง 3,926 ล้านบาท งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 830,889,501 ผลงานในเดือนพ.ค.งานโยธา มีความคืบหน้า 93 % ล่าช้ากว่าแผน 2% โดยสัญญาสิ้นสุด วันที่ 19 ก.ค. 2554 ขยายสัญญาจากเดิมที่สิ้นสุด วันที่ 8 มี.ค. 2554 กิจการร่วมค่า ที เอส ซี จำกัด เป็นผู้รับเหมา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมจะติดตามความคืบหน้าและหาทางแก้ปัญหาที่ยังเหลืออยู่ เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญา
“ร.ฟ.ท.และบริษัทที่ปรึกษาจะต้องรายงานผลการทำงานและปัญหาที่มี เพื่อช่วยกันแก้ไข หากไม่ติดตามใกล้ชิด ระยะเวลาตามสัญญาที่เหลืออีกประมาณ 1 เดือนครึ่งอาจจะเสร็จไม่ทันได้”นายจำรูญกล่าว
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกตอนฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบังว่า ขณะนี้ยังมีความล่าช้า เนื่องจากกรมทางหลวงส่งมอบพื้นที่ล่าช้า โดยบริเวณดังกล่าวเป็นสะพานข้ามทางรถไฟซึ่งกรมทางหลวงจะต้องปรับแก้ระยะห่างของตอม่อสะพานให้พ้นแนวของเส้นทางรถไฟทางคู่และรองรับแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในอนาคตด้วย ดังนั้นในวันนี้ (31 พ.ค.) จะเรียกผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)และกรมทางหลวงมาชี้แจงและเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวรวมถึงปัญหาการก่อสร้างในจุดอื่นๆ ด้วย
“เรื่องนี้เป็นปัญหาความร่วมมือของหน่วยงานถ้าต่างคนต่างทำงานของตนเองไม่สนใจคนอื่น ก็จะส่งผลกระทบทำให้การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ล่าช้า วิธีการก่อสร้างถนน รถไฟ หรือรถไฟฟ้า เป็นคนลรูปแบบดังนั้น หากมีจุดที่ต้องทำด้วยกันหน่วยงานจะต้องร่วมกันวางแผนก่อสร้างอย่างดี ซึ่งถ้าลงไปติดตามเร่งรัดก็จะไม่เกิดปัญหา เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ต้องก่อสร้างบนพื้นที่ของกรมทางหลวงแต่ไม่มีปัญหาเพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรมทางหลวงประสานงานกันดี”นายสุพจน์กล่าว
ด้านนายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังกล่าวว่า หลังจากติดตามเร่งรัดปัญหากรมทางหลวงส่งมอบพื้นที่ให้ร.ฟ.ท.ล่าช้ามาแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมทางหลวงได้ส่งมอบพื้นที่ให้ร.ฟ.ท.แล้ว หลังจากกรมทางหลวงได้ตอกเสาเข็มในส่วนของสะพานข้ามทางรถไฟที่ปรับใหม่เรียบร้อย ซึ่งอยู่ที่จุดตัด กม.137 กับถนนหมายเลข 3 (สุขุมวิท) ช่วงทางแยกเข้าไทยออยล์
สำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ตอน ฉะเชิงเทรา-ศรีราช-แหลมฉบังฉบังมี ระยะทาง 78 กม. ค่าก่อสร้าง 3,926 ล้านบาท งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 830,889,501 ผลงานในเดือนพ.ค.งานโยธา มีความคืบหน้า 93 % ล่าช้ากว่าแผน 2% โดยสัญญาสิ้นสุด วันที่ 19 ก.ค. 2554 ขยายสัญญาจากเดิมที่สิ้นสุด วันที่ 8 มี.ค. 2554 กิจการร่วมค่า ที เอส ซี จำกัด เป็นผู้รับเหมา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมจะติดตามความคืบหน้าและหาทางแก้ปัญหาที่ยังเหลืออยู่ เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญา
“ร.ฟ.ท.และบริษัทที่ปรึกษาจะต้องรายงานผลการทำงานและปัญหาที่มี เพื่อช่วยกันแก้ไข หากไม่ติดตามใกล้ชิด ระยะเวลาตามสัญญาที่เหลืออีกประมาณ 1 เดือนครึ่งอาจจะเสร็จไม่ทันได้”นายจำรูญกล่าว
