xs
xsm
sm
md
lg

ไรมอนฯเปิดทางรับผู้ร่วมทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ไรมอนแลนด์” ปฏิเสธข่าวขายกิจการบิ๊กอสังหาฯ ยัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องการลงทุนระยะยาว พร้อมเปิดทางรับผู้ร่วมทุนใหม่เพิ่ม แจงแผน 4 ปีผุด 5 โครงการ มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ยันสภาพคล่องเพียงพอก่อสร้างโครงการในมือแล้วเสร็จ แจงรายได้ไตรมาส 1 ขาดทุนเหตุไม่สามารถรับรู้รายได้จากยอดขายในมือเกือบ 1.44 หมื่นล้านบาท ยันภายใน 1-2 ปีรายได้คงที่ตามการส่งมอบโครงการ

นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ถึงกรณีกระกระแสข่าวการเจรจาขอซื้อกิจการบริษัทไรมอนแลนด์ จากกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่เป็นเพียงข่าวลือที่เกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ หากมีการเจรจาขอซื้อจะต้องติดต่อผ่านผู้ถือหุ้นรายใหญ่ IFA Hotels & Resorts 3 Ltd. ซึ่งที่ผ่านมา IFA ยืนยันที่จะลงทุนระยะยาวโดยหวังผลตอบแทนรายได้จากการลงทุน จึงไม่ต้องการขายกิจการ แต่พร้อมที่จะเปิดรับผู้ร่วมทุนรายใหม่เข้ามา หรือร่วมลงทุนเป็นรายโครงการ

ทั้งนี้ ไรมอนแลนด์ฯมีแผนการดำเนินงานระยะยาวของบริษัทใน 4 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2555-2558 บริษัทมีแผนพัฒนาประมาณ 5 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท หรือปีละอย่างน้อย 1 โครงการๆ ละ 3,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯและพัทยา โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับบนราคา 90,000-150,000 บาท/ตร.ม. และระดับไฮเอ็น ราคา150,000-250,000 บาท/ตร.ม. อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีนโยบายซื้อที่ดินรอการพัฒนา เพราะราคาที่ดินโดยเฉพาะในกรุงเทพฯไม่มีความผันผวนหรือปรับขึ้นหวือหวาจึงไม่มีความจำเป็นต้องซื้อที่ดินรอการพัฒนา

ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเปิดขาย 1 โครงการที่พัทยา บนเนื้อที่ 7 ไร่ โดยจะพัฒนาในระดับเดียวกับโครงการ ซายร์ วงศ์มาตย์ ประมาณ 1 แสนบาท/ตร.ม. อย่างไรก็ตามดครงการดังกล่าวจะต้องรอดูภาวะตลาดอีกครั้งและดูกระแสตอบรับโครงการซายร์อีกครั้ง

นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนการก่อสร้างโครงการให้สอดคล้องกับรายได้ตามมาตรฐานการบัญชีใหม่ที่กำหนดให้การรับรู้รายได้เมื่อโอนส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องภายใน 1-2 ปีข้างหน้านี้ ต่างจากในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนแม้ว่าจะมียอดขายอยู่ในมือแล้ว 14,354 ล้านบาท โดยยอดขายดังกล่าวจะสามารถรับรู้ในปีนี้ 376 ล้านบาท และทะยอยรับรู้ในปี 2555 จำนวน 10,279 ล้านบาท, ปี 2556 จำนวน 3,120 ล้านบาท และปี 2557 จำนวน 579 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังเพิ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาว จากธุรกิจให้เช่าช็อปปิ้งมอลล์ภายใต้ชื่อ วิว (Vue) พื้นที่ 3,900 ตร.ม.และเดอะริเวอร์ พรอเมอนาด พื้นที่ 4,150 ตร.ม.ไลฟ์สไตล์มอลล์ ประกอบไปด้วยร้านอาคารชั้นนำ คลับ สปา ห้องออกกำลังกายและร้านกาแฟ ซึ่งอยู่ติดโครงการเดอะริเวอร์

สำหรับยอดขายที่ยังไม่รับรู้รายได้(Backlog)ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม 2554 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท โดยเป็นยอดขายจากโครงการเดอะริเวอร์ในกรุงเทพฯ จำนวน 1.03 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น 73% ของมูลค่าโครงการ) ซึ่งภายใต้มาตรฐานบัญชีใหม่นั้น มูลค่า Backlog นี้จะรับรู้เมื่อมีการโอนห้องชุด โดยโครงการเดอะริเวอร์จะสามารถโอนให้กับลูกค้าได้ในปี 55

ส่วนโครงการ 185 ราชดำริในกรุงเทพฯ ณ สิ้นเดือนมีนาคมมียอดขาย (ทำสัญญาแล้ว) กว่า35% ของพื้นที่ขายทั้งหมดของโครงการ ส่วนโครงการนอร์ทพ้อยท์ในพัทยา มียอดขายร้อยละ 75 ณ สิ้นสุดไตรมาส 1/54 และโครงการใหม่ ซายร์ วงศ์อมาตย์ มียอดขาย 22%

"การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานทางบัญชีส่งผลต่องบการเงินของบริษัทในปี 54 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสด ประกอบกับปัจจุบัน สถานะทางการเงินของบริษัทมีความเข้มแข็งมากกว่าหลายปีก่อน โดยจะเห็นได้จากในปัจจุบัน บริษัทมี Backlog เกือบ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งความแข็งแกร่งนี้เองจะช่วยหนุนให้บริษัทสามารถทำกำไรในปี 55 และปีต่อ ๆ ไปได้เป็นอย่างดี" นายอูแบร์ กล่าวและว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น