จู่ๆ นาย วันชัย สุระกุล ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการรักษาการเพื่อรอให้มีการสรรหาผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลคนใหม่ ออกมาจุดประเด็นร้อนกับการเสนอแนวคิดให้กระทรวงการคลังพิจารณาแก้ไขพรบ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 บางมาตรา เพื่อเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับสำนักงานสลากฯ ในการไปบริหารกิจการอื่นๆ นอกเหนือจากแค่การออกสลากกินแบ่งรัฐบาล
ทั้งนี้ นายวันชัย เน้นเจาะจงลงมาเลย ก็คือหากแก้กฎหมายแล้ว สำนักสลากฯจะเป็นผู้บุกเบิกการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” แห่งแรกในประเทศไทย ที่จะมีครบหมด
เป็นคอมเพล็กซ์ที่รวมทั้งช็อปปิ้งมอลล์ โรงเรียนกวดวิชา สนามกอล์ฟ ธุรกิจบันเทิงรูปแบบต่างๆ โดยเลียนแบบ “มาเก๊าโมเดล”
จึงไม่ใช่เรื่องต้องแปลกใจ ที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่โดดรับลูกข้อเสนอของนายวันชัย เพราะหากยิ่งลักษณ์รีบเออออเอาด้วย มีหวังโดนด่าจมธรณี ยิ่งเธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง การจะเอาด้วยกับเรื่องอบายมุขและเป็นเรื่องอ่อนไหวยิ่งสำหรับสังคมไทยทำในเรื่องล่อแหลมเช่นเปิดบ่อนการพนันแบบนี้ มีหวังอยู่ไม่ยืดแน่นอน
ยิ่งลักษณ์เลยออกมาบอกตามฟอร์มว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ยังไม่ใช่เรื่องนโยบายของรัฐบาล หากจะทำจริงก็ต้องขอศึกษาผลดี-ผลเสียและรับฟังความคิดเห็นประชาชนก่อน เช่นเดียวกับผู้บริหารของกระทรวงการคลังคนอื่นๆ ทั้งธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รมว.คลัง-นางเบญจา หลุยเจริญ รองปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานบอร์ดสำนักงานสลากฯที่ประสานเสียงมาว่า ยังไม่มีนโยบายของกระทรวงและสำนักงานสลากฯ
การที่นายกรัฐมนตรีออกมาปฏิเสธทันที ก็ใช่ว่าจะเชื่อ100 เปอร์เซนต์ได้ว่า รัฐบาลเพื่อไทยที่มีทักษิณ ชินวัตร คิด และเพื่อไทย -ยิ่งลักษณ์ จะไม่เปิดบ่อนคาสิโนในไทย ความคิดที่จะตอกเสาเข็ม เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้ถูกปิดตายและย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากได้จังหวะเวลาอันเหมาะสม ในรัฐบาลเพื่อไทย
เนื่องจากหากดูท่าทีและแนวคิด-การทำธุรกิจของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีและแม้แต่ตอนนี้จะพบว่า ทักษิณ เคยพูดถึงเรื่องแนวคิดการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาแล้วตั้งแต่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยตอนนั้นมีข่าวว่ารัฐบาลทักษิณมีแนวคิดจะนำเงินของกองสลากฯที่มีจำนวนมากไปลงทุนในธุรกิจอย่างอื่น
เช่นการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลและทักษิณยังเคยพูดถึงแนวคิดเรื่องการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในแหล่งท่องเที่ยว แม้ไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ก็แสดงท่าทีสนใจ แต่เรื่องก็เงียบหายไป
จนมามีข่าวเมื่อช่วงที่ทักษิณ บินเข้า-บินออกกัมพูชาไปหาฮุน เซน บ่อยๆ ในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมาสมัยรัฐบาลพลังประชาชน ทางพล.อ.เตียบัณห์ รมว.กลาโหมของกัมพูชาก็เคยบอกว่าว่า ทักษิณให้ความสนใจในการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เกาะกง พร้อมๆกับการลงทุนด้านธุรกิจพลังงานในพื้นที่ทางทะเลไทย-กัมพูชาโดยจะนำเงินมาลงทุน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลคือประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแทนพลังประชาชน ทำให้การเจรจาเรื่องผลประโยชน์ธุรกิจทางทะเลหยุดชะงัก ข่าวเรื่องทักษิณจะลงทุนที่เกาะกงก็เงียบหายไป
ทว่าต่อมา ทักษิณ ก็เปิดเผยผ่านสื่อต่างประเทศและในการวีดีโอลิงค์ไปยังเวทีเสื้อแดงหลายครั้งในช่วงการชุมนุมปี 52 และ 53 ว่าได้เข้าไปลงทุนทำธุรกิจขุดสัมปทานเหมืองแร่ในหลายประเทศของกลุ่มทวีปแอฟริกา และยังมีธุรกิจพวกสลากกินแบ่ง-ล็อตโตในบางประเทศด้วย
คาดกันว่า คนที่ช่วยดูแลธุรกิจนี้ให้กับทักษิณในต่างประเทศ น่าจะเป็น พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้การกองปราบปราม -อดีตผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อนร่วมรุ่นนรต. 26 กับทักษิณ ที่เป็นคนโครงการหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งที่ผ่านมา สุรสิทธิ์เห็นได้ชัดว่าไม่เคยห่างจากทักษิณเลยในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมาก่อนการเลือกตั้ง มักจะมีภาพสุรสิทธิ์อยู่เคียงข้างกับทักษิณในประเทศที่ทักษิณเข้าไปทำธุรกิจอยู่บ่อยๆ
ที่สำคัญเวลานี้ เมื่อเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง สุรสิทธิ์ก็เดินทางกลับไทย และครม.ยิ่งลักษณ์ก็มีมติตั้งให้เป็นบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มี นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมบัญชีกลาง สายตรงจันทร์ส่องหล้าเป็นประธานบอร์ดรวมทั้งยังมี นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ทั้งสามคนเป็นบอร์ดสำนักงานสลากฯ
แค่นี้ ก็พอเห็นแล้วว่า การที่ นายวันชัย พูดเรื่องนี้น่าจะหวังโยนหินถามทางวัดกระแสสังคมว่าจะเอาด้วยไหม กับโครงการเปิดบ่อนกาสิโนที่ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือหากโดนแรงต้านจากคนในพื้นที่ ก็พร้อมย้ายโครงการจากทุ่งกุลาร้องไห้ไปที่อื่น
เรื่องที่ตั้งบ่อนกาสิโน พวกคนในกองสลากฯคงคิดว่าไม่ใช่ปัญหา สำคัญแค่ว่าขอให้หลักการนี้คนเอาด้วย สำนักงานสลากฯทั้ง วันชัย-สุรสิทธิ์-เบญจา-วีรภัทร ก็พร้อมสนอง
เพราะของแบบนี้ คนหนุนก็มี คนต้านก็มาก ขอแค่ให้หลักการผ่าน เรื่องจะให้เอาบ่อนไปลงที่ไหน ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากพวกต้องการเดินหน้าให้เปิดบ่อนเชื่อด้วยความคิดที่ว่า ก็แค่บอกคนในสังคมและคนในพื้นที่ซึ่งจะสร้างบ่อนกาสิโนว่าหากทำแล้วจะมีการจ้างงาน สร้างรายได้ มีนักท่องเที่ยว นักเล่นมาในพื้นที่ มีการลงทุน ทำให้เงินสะพัด แถมมีการตกลงแบ่งปันรายได้ให้ท้องถิ่นแบบสมน้ำสมเนื้อ
คนพยายามจะให้มีบ่อนกาสิโนจึงมั่นใจว่า ถ้ามีเงื่อนไขดีๆ มีหรือใครไม่อยากเอาด้วยเพราะโครงการลงทุน-การก่อสร้าง-การพัฒนาสาธารณูปโภค เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของโครงการไม่ใช่แค่พันล้านแต่เป็นหมื่นล้าน ลำพังแค่พัฒนาสร้างถนนหนทางให้เจริญเพื่อพาคน-ขนคณะเข้าไปในโครงการก็เป็นเงินจำนวนมากแล้ว คนในพื้นที่ก็ได้ประโยชน์ ไหนจะแบ่งปันรายได้ของโครงการให้กับพื้นที่-ท้องถิ่นอีก
เหล่านี้คือวิธีคิดแบบง่ายๆ ของพวกคนในสำนักงานสลากฯ-นักการเมือง-นักธุรกิจบางคนที่ยกมาอ้างว่าควรแล้วที่ไทยต้องมีบ่อนกาสิโน โดยไม่ได้คิดถึงผลเสีย-ผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต
“ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการ”ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดเรื่องเปิดบ่อนกาสิโนอย่างยิ่ง
การที่กลุ่มคนบางกลุ่มพยายามสนับสนุนแนวคิดนี้โดยอ้างว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามยังมีบ่อนกาสิโนหรือสิงคโปร์-กัมพูชาก็มี แล้วทำไมประเทศไทยถึงไม่ยอมให้มี จะมามัวมือถือสากปากถือศีลกันทำไม
เราอยากถามกลับไปว่า แล้วตัวอย่างดีๆของต่างประเทศ ทำไมเราไม่เอามา ไปเอาสิ่งที่ไม่ดีอย่างเปิดบ่อน-สร้างอบายมุขในบ้านเมืองมาไว้ในประเทศไทยทำไม
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยว มีจุดขายที่คนทั่วโลกรู้จัก และชื่นชมทั้งโบราณสถาน -แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ-อารยธรรม-วัฒนธรรม-ประเพณี-วิถีชีวิตแบบไทยๆ จนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยแต่ละปีเป็นจำนวนปีละหลายสิบล้านคนติดต่อกันจนไทยเป็นหนึ่งในประเทศเมืองท่องเที่ยวของโลกที่หลายประเทศพากันอิจฉา
ทำไมไม่คิดกันบ้างว่า ที่ผ่านมาชาวต่างชาติ-นักท่องเที่ยวทั่วโลก เขามาเมืองไทยเพื่อจะมาเล่นการพนัน เข้าบ่อนหรือก็ไม่ใช่
คนต่างชาติรู้จักเมืองไทยและเที่ยวเมืองไทย สร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละจำนวนมาก จนธุรกิจท่องเที่ยวคือธุรกิจหลักที่นำรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ก็เพราะสิ่งดีๆที่เมืองไทยมีแต่หลายประเทศไม่มี นั่นคือ ความเป็น
“สังคมไทย”
ที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น แค่นี้ก็เป็นจุดขายที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากแล้ว แถมเป็นการสร้างรายได้แบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ที่เป็นระบบเศรษฐกิจซึ่งไม่ได้หวังพึ่งพา
“เงินร้อน-เงินบาป”จากการธุรกิจการพนันที่แฝงในรูปการท่องเที่ยว อันสวนทางกับหลักปรัชญาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
อย่าง กัมพูชา ใครก็เห็นว่าไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรที่เทียบกับไทยได้เลย กัมพูชา จึงต้องสนับสนุนการเปิดบ่อน เพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ก็ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรนอกจากช็อปปิ้ง-แหล่งรับประทานอาหาร สิงคโปร์จึงต้องสนับสนุนการเปิดบ่อนกาสิโน แต่เวลานี้มีข่าวว่าเริ่มมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการแล้ว
หรืออย่าง มาเก๊า ก็กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนติดอยู่กับภาพลักษณ์ความเป็นเมืองการพนัน ทั้งที่มาเก๊าก็มีแหล่งท่องเที่ยวดีๆ หลายอย่างแต่ก็ถูกภาพลักษณ์เรื่องบ่อนกาสิโนกลบหมด จนเวลาคนพูดว่าจะไปเที่ยวมาเก๊าก็ต้องคิดว่าไปเล่นการพนัน ทั้งที่อาจจะไปเที่ยวอย่างอื่น
การท่องเที่ยวของประเทศไทย ระบบเศรษฐกิจของไทย จึงไม่จำเป็นเลยแม้แต่นิดเดียวที่ต้องให้ บ่อนกาสิโน มาช่วยโอบอุ้ม หรือเติมเม็ดเงินให้กับประเทศ
ถ้า วันชัย ผอ.สำนักงานสลากฯ คิดได้แค่นี้ หรือรับลูกจากใครในรัฐบาลหรือบอร์ดกองสลากมาโยนหินถามทาง ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้
ก็น่าเสียดายจริงๆ ที่สำนักงานสลากฯ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังว่าจ้างให้เป็นผอ.กินเงินเดือนสูงๆ ได้ตั้งนาน แต่มีวิสัยทัศน์การพัฒนาองค์กรและการหาเงินเข้าสำนักงานสลากฯได้แค่นี้
เอวัง!
ทั้งนี้ นายวันชัย เน้นเจาะจงลงมาเลย ก็คือหากแก้กฎหมายแล้ว สำนักสลากฯจะเป็นผู้บุกเบิกการสร้าง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” แห่งแรกในประเทศไทย ที่จะมีครบหมด
เป็นคอมเพล็กซ์ที่รวมทั้งช็อปปิ้งมอลล์ โรงเรียนกวดวิชา สนามกอล์ฟ ธุรกิจบันเทิงรูปแบบต่างๆ โดยเลียนแบบ “มาเก๊าโมเดล”
จึงไม่ใช่เรื่องต้องแปลกใจ ที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่โดดรับลูกข้อเสนอของนายวันชัย เพราะหากยิ่งลักษณ์รีบเออออเอาด้วย มีหวังโดนด่าจมธรณี ยิ่งเธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง การจะเอาด้วยกับเรื่องอบายมุขและเป็นเรื่องอ่อนไหวยิ่งสำหรับสังคมไทยทำในเรื่องล่อแหลมเช่นเปิดบ่อนการพนันแบบนี้ มีหวังอยู่ไม่ยืดแน่นอน
ยิ่งลักษณ์เลยออกมาบอกตามฟอร์มว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ยังไม่ใช่เรื่องนโยบายของรัฐบาล หากจะทำจริงก็ต้องขอศึกษาผลดี-ผลเสียและรับฟังความคิดเห็นประชาชนก่อน เช่นเดียวกับผู้บริหารของกระทรวงการคลังคนอื่นๆ ทั้งธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รมว.คลัง-นางเบญจา หลุยเจริญ รองปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานบอร์ดสำนักงานสลากฯที่ประสานเสียงมาว่า ยังไม่มีนโยบายของกระทรวงและสำนักงานสลากฯ
การที่นายกรัฐมนตรีออกมาปฏิเสธทันที ก็ใช่ว่าจะเชื่อ100 เปอร์เซนต์ได้ว่า รัฐบาลเพื่อไทยที่มีทักษิณ ชินวัตร คิด และเพื่อไทย -ยิ่งลักษณ์ จะไม่เปิดบ่อนคาสิโนในไทย ความคิดที่จะตอกเสาเข็ม เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้ถูกปิดตายและย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากได้จังหวะเวลาอันเหมาะสม ในรัฐบาลเพื่อไทย
เนื่องจากหากดูท่าทีและแนวคิด-การทำธุรกิจของ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีและแม้แต่ตอนนี้จะพบว่า ทักษิณ เคยพูดถึงเรื่องแนวคิดการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาแล้วตั้งแต่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยตอนนั้นมีข่าวว่ารัฐบาลทักษิณมีแนวคิดจะนำเงินของกองสลากฯที่มีจำนวนมากไปลงทุนในธุรกิจอย่างอื่น
เช่นการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลและทักษิณยังเคยพูดถึงแนวคิดเรื่องการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในแหล่งท่องเที่ยว แม้ไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ก็แสดงท่าทีสนใจ แต่เรื่องก็เงียบหายไป
จนมามีข่าวเมื่อช่วงที่ทักษิณ บินเข้า-บินออกกัมพูชาไปหาฮุน เซน บ่อยๆ ในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมาสมัยรัฐบาลพลังประชาชน ทางพล.อ.เตียบัณห์ รมว.กลาโหมของกัมพูชาก็เคยบอกว่าว่า ทักษิณให้ความสนใจในการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เกาะกง พร้อมๆกับการลงทุนด้านธุรกิจพลังงานในพื้นที่ทางทะเลไทย-กัมพูชาโดยจะนำเงินมาลงทุน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลคือประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลแทนพลังประชาชน ทำให้การเจรจาเรื่องผลประโยชน์ธุรกิจทางทะเลหยุดชะงัก ข่าวเรื่องทักษิณจะลงทุนที่เกาะกงก็เงียบหายไป
ทว่าต่อมา ทักษิณ ก็เปิดเผยผ่านสื่อต่างประเทศและในการวีดีโอลิงค์ไปยังเวทีเสื้อแดงหลายครั้งในช่วงการชุมนุมปี 52 และ 53 ว่าได้เข้าไปลงทุนทำธุรกิจขุดสัมปทานเหมืองแร่ในหลายประเทศของกลุ่มทวีปแอฟริกา และยังมีธุรกิจพวกสลากกินแบ่ง-ล็อตโตในบางประเทศด้วย
คาดกันว่า คนที่ช่วยดูแลธุรกิจนี้ให้กับทักษิณในต่างประเทศ น่าจะเป็น พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้การกองปราบปราม -อดีตผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อนร่วมรุ่นนรต. 26 กับทักษิณ ที่เป็นคนโครงการหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งที่ผ่านมา สุรสิทธิ์เห็นได้ชัดว่าไม่เคยห่างจากทักษิณเลยในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมาก่อนการเลือกตั้ง มักจะมีภาพสุรสิทธิ์อยู่เคียงข้างกับทักษิณในประเทศที่ทักษิณเข้าไปทำธุรกิจอยู่บ่อยๆ
ที่สำคัญเวลานี้ เมื่อเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง สุรสิทธิ์ก็เดินทางกลับไทย และครม.ยิ่งลักษณ์ก็มีมติตั้งให้เป็นบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มี นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมบัญชีกลาง สายตรงจันทร์ส่องหล้าเป็นประธานบอร์ดรวมทั้งยังมี นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ทั้งสามคนเป็นบอร์ดสำนักงานสลากฯ
แค่นี้ ก็พอเห็นแล้วว่า การที่ นายวันชัย พูดเรื่องนี้น่าจะหวังโยนหินถามทางวัดกระแสสังคมว่าจะเอาด้วยไหม กับโครงการเปิดบ่อนกาสิโนที่ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือหากโดนแรงต้านจากคนในพื้นที่ ก็พร้อมย้ายโครงการจากทุ่งกุลาร้องไห้ไปที่อื่น
เรื่องที่ตั้งบ่อนกาสิโน พวกคนในกองสลากฯคงคิดว่าไม่ใช่ปัญหา สำคัญแค่ว่าขอให้หลักการนี้คนเอาด้วย สำนักงานสลากฯทั้ง วันชัย-สุรสิทธิ์-เบญจา-วีรภัทร ก็พร้อมสนอง
เพราะของแบบนี้ คนหนุนก็มี คนต้านก็มาก ขอแค่ให้หลักการผ่าน เรื่องจะให้เอาบ่อนไปลงที่ไหน ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากพวกต้องการเดินหน้าให้เปิดบ่อนเชื่อด้วยความคิดที่ว่า ก็แค่บอกคนในสังคมและคนในพื้นที่ซึ่งจะสร้างบ่อนกาสิโนว่าหากทำแล้วจะมีการจ้างงาน สร้างรายได้ มีนักท่องเที่ยว นักเล่นมาในพื้นที่ มีการลงทุน ทำให้เงินสะพัด แถมมีการตกลงแบ่งปันรายได้ให้ท้องถิ่นแบบสมน้ำสมเนื้อ
คนพยายามจะให้มีบ่อนกาสิโนจึงมั่นใจว่า ถ้ามีเงื่อนไขดีๆ มีหรือใครไม่อยากเอาด้วยเพราะโครงการลงทุน-การก่อสร้าง-การพัฒนาสาธารณูปโภค เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของโครงการไม่ใช่แค่พันล้านแต่เป็นหมื่นล้าน ลำพังแค่พัฒนาสร้างถนนหนทางให้เจริญเพื่อพาคน-ขนคณะเข้าไปในโครงการก็เป็นเงินจำนวนมากแล้ว คนในพื้นที่ก็ได้ประโยชน์ ไหนจะแบ่งปันรายได้ของโครงการให้กับพื้นที่-ท้องถิ่นอีก
เหล่านี้คือวิธีคิดแบบง่ายๆ ของพวกคนในสำนักงานสลากฯ-นักการเมือง-นักธุรกิจบางคนที่ยกมาอ้างว่าควรแล้วที่ไทยต้องมีบ่อนกาสิโน โดยไม่ได้คิดถึงผลเสีย-ผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต
“ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการ”ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดเรื่องเปิดบ่อนกาสิโนอย่างยิ่ง
การที่กลุ่มคนบางกลุ่มพยายามสนับสนุนแนวคิดนี้โดยอ้างว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามยังมีบ่อนกาสิโนหรือสิงคโปร์-กัมพูชาก็มี แล้วทำไมประเทศไทยถึงไม่ยอมให้มี จะมามัวมือถือสากปากถือศีลกันทำไม
เราอยากถามกลับไปว่า แล้วตัวอย่างดีๆของต่างประเทศ ทำไมเราไม่เอามา ไปเอาสิ่งที่ไม่ดีอย่างเปิดบ่อน-สร้างอบายมุขในบ้านเมืองมาไว้ในประเทศไทยทำไม
ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยว มีจุดขายที่คนทั่วโลกรู้จัก และชื่นชมทั้งโบราณสถาน -แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ-อารยธรรม-วัฒนธรรม-ประเพณี-วิถีชีวิตแบบไทยๆ จนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยแต่ละปีเป็นจำนวนปีละหลายสิบล้านคนติดต่อกันจนไทยเป็นหนึ่งในประเทศเมืองท่องเที่ยวของโลกที่หลายประเทศพากันอิจฉา
ทำไมไม่คิดกันบ้างว่า ที่ผ่านมาชาวต่างชาติ-นักท่องเที่ยวทั่วโลก เขามาเมืองไทยเพื่อจะมาเล่นการพนัน เข้าบ่อนหรือก็ไม่ใช่
คนต่างชาติรู้จักเมืองไทยและเที่ยวเมืองไทย สร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละจำนวนมาก จนธุรกิจท่องเที่ยวคือธุรกิจหลักที่นำรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ก็เพราะสิ่งดีๆที่เมืองไทยมีแต่หลายประเทศไม่มี นั่นคือ ความเป็น
“สังคมไทย”
ที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น แค่นี้ก็เป็นจุดขายที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากแล้ว แถมเป็นการสร้างรายได้แบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ที่เป็นระบบเศรษฐกิจซึ่งไม่ได้หวังพึ่งพา
“เงินร้อน-เงินบาป”จากการธุรกิจการพนันที่แฝงในรูปการท่องเที่ยว อันสวนทางกับหลักปรัชญาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
อย่าง กัมพูชา ใครก็เห็นว่าไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรที่เทียบกับไทยได้เลย กัมพูชา จึงต้องสนับสนุนการเปิดบ่อน เพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ก็ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรนอกจากช็อปปิ้ง-แหล่งรับประทานอาหาร สิงคโปร์จึงต้องสนับสนุนการเปิดบ่อนกาสิโน แต่เวลานี้มีข่าวว่าเริ่มมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการแล้ว
หรืออย่าง มาเก๊า ก็กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนติดอยู่กับภาพลักษณ์ความเป็นเมืองการพนัน ทั้งที่มาเก๊าก็มีแหล่งท่องเที่ยวดีๆ หลายอย่างแต่ก็ถูกภาพลักษณ์เรื่องบ่อนกาสิโนกลบหมด จนเวลาคนพูดว่าจะไปเที่ยวมาเก๊าก็ต้องคิดว่าไปเล่นการพนัน ทั้งที่อาจจะไปเที่ยวอย่างอื่น
การท่องเที่ยวของประเทศไทย ระบบเศรษฐกิจของไทย จึงไม่จำเป็นเลยแม้แต่นิดเดียวที่ต้องให้ บ่อนกาสิโน มาช่วยโอบอุ้ม หรือเติมเม็ดเงินให้กับประเทศ
ถ้า วันชัย ผอ.สำนักงานสลากฯ คิดได้แค่นี้ หรือรับลูกจากใครในรัฐบาลหรือบอร์ดกองสลากมาโยนหินถามทาง ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้
ก็น่าเสียดายจริงๆ ที่สำนักงานสลากฯ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังว่าจ้างให้เป็นผอ.กินเงินเดือนสูงๆ ได้ตั้งนาน แต่มีวิสัยทัศน์การพัฒนาองค์กรและการหาเงินเข้าสำนักงานสลากฯได้แค่นี้
เอวัง!
