นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.กำลังตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 แบบ คือ แบบบัญชีรายชื่อ ( ปาร์ตี้ลิสต์ ) และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีขั้นตอนตามกฎหมายอยู่ หาก กกต.ประกาศรายชื่อผู้สมัครแล้ว ผู้สมัครคนใดไม่มีชื่อ ก็สามารถร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งได้ อีกทั้งในช่วงนี้ กกต.ต้องเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องการลงทะเบียนเลือกตั้ง ของผู้มีสิทธิ์ เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวังหวัด ซึ่งจะครบในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องการที่จะมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ก็ต้องมาลงทะเบียนตามกำหนดดังกล่าว
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของการร่วมมือการหลายฝ่าย ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ กกต.จะมีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแนะนำเรื่องของข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ และในช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค. ทาง กกต.จะเชิญสื่อมวลชน และตัวแทนของพรรคการเมือง ลงพื้นที่ดูสถานที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แห่ง คือ ที่โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และโรงพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล หากมีข้อซักถามอะไร ก็ขอให้ถามมา เพื่อให้บรรยากาศเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครเข้ามาที่ กกต.หรือยัง เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาบางส่วนแล้ว แต่ไม่มากโดยส่วนใหญ่จะไปเปิดประเด็นเรื่องของการไม่เชื่อใจ หวาดระแวงกรรมการที่ดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการ จึงขอเตือนให้ระมัดระวัง ในเรื่องการแสดงความคิดเห็นที่สามารถทำได้ในกรอบ หากอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ที่จะให้โทษ ให้คุณกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองไม่ได้
" ผมอยากให้บรรยากาศครั้งนี้ไปอย่างสร้างสรรค์ ในส่วนของการทำงานของกกต. และหน่วยที่รับผิดชอบ ขอยืนยันว่า จะทำไปในสิ่งที่ดีที่สุด ให้เป็นไปอย่างสุจริต และเที่ยงธรรม" นายสุทธิพล กล่าว
นายสุทธิพล กล่าวถึงผลสำรวจคะแนนความนิยม ที่สำนักโพลต่างๆ ออกมาในขณะนี้ ว่า การสำรวจความคิดเห็นในแต่ละครั้งที่ผ่านมา ก็จะเป็นการสำรวจแค่ความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง และคนกลุ่มนั้น ก็อาจจะมีพรรคในดวงใจเรียบร้อยแล้ว แต่ว่ายังเหลือมีคนกลุ่มใหญ่ ที่มีกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เวลานี้บรรยากาศการเตรียมการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยพื้นฐานคนส่วนใหญ่นั้นเบื่อการเมืองอยู่แล้ว ถ้าหากว่ามีใครมาจุดประเด็น หรือบอกให้หวาดระแวง เขาก็คงไม่คิดจะออกไปเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่ นายประเกียรติ นาสิมมา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวอ้างว่านายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้เดินทางไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศน์นั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า การออกมาให้ข่าวนั้นก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าขาดการตรวจสอบ ซึ่งคนที่ได้ข่าวมา พูดแต่เพียงว่า " ได้ข่าวว่า" แบบนี้ก็ทำให้เสียหาย ซึ่งเรื่องนี้นั้น กกต.ก็เปรียบเสมือนกรรมการที่จัดการแข่งขัน แล้วเกิดมีผู้เล่นลงมาวิ่ง และต่อยกรรมการ ถ้ากรรมการลงไปต่อยด้วย ก็คงไม่เหมาะสม
** กลโกแบบเก่ามาใช้กับกกต.ไม่ได้
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงมาตรการในการดูแลจัดการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน หลังจากมีผู้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าจะมีกลโกงการเลือกตั้งว่า กรณีใบรวมคะแนนที่ตามกฎหมายกำหนดให้ มีทั้งหมด 3 ชุดนั้น สามารถตรวจสอบได้ว่า คะแนนตรงกันหรือไม่ เพราะในการนับคะแนนที่หน่วย มีประชาชนจำนวนมาก และตัวแทนพรรคการเมืองสังเกตการณ์อยู่ และรู้ว่าคะแนนที่นับเสร็จสิ้นได้เท่าไร ใครแพ้ใครชนะ และหลังจากนับคะแนนเสร็จ กรรมการประจำหน่วย (กปน.) ลงชื่อกำกับ และจะติดใบรวมคะแนนไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง หากไม่ตรงกับความเป็นจริง ผู้ที่สังเกตการณ์ก็ต้องมีการร้องเรียนอย่างแน่นอน รวมไปใบรวมคะแนนที่อยู่ในหีบ และใบรวมคะแนนที่ส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งกลาง ที่หากไม่ตรงกับที่ประชาชน หรือผู้สังเกตการณ์ก็จะต้องมีคนรู้ ไม่สามารถโกงกันได้
" ส่วนการเติมบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าลงในหีบที่ปิดแล้ว เพื่อเพิ่มคะแนนก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นกลโกงแบบโบราณ ก่อนที่จะมีกกต.เกิดขึ้นมา เพราะการลงคะแนนก็จะมีหลักฐานลายมือชื่อของผู้มาใช้สิทธิ หากจำนวนบัตรไม่ตรงกับจำนวนของประชาชนที่มาลงหลักฐานลายมือชื่อ ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า มีการทุจริต" นายสุทธิพล กล่าว
สำหรับกรณีการขนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ที่จะต้องขนหีบบัตรจากหน่วยเลือกตั้งนอกเขต ไปนับที่เขตนั้น ก็มีระบบการดำเนินการที่เชื่อถือได้ มีกรรมการส่ง และรับหีบบัตรเลือกตั้ง ในรถไปรษณีย์ขนส่งก็จะมีตำรวจนั่งรถไปด้วย รวมถึงบนรถยังมีระบบนำทางและค้นหา (GPS) ที่จะตรวจสอบได้ว่า รถไปอยู่ที่ไหน ไปจอดที่ไหน ออกนอกเส้นทางหรือไม่ เมื่อไปถึงปลายทางก็ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดอีก มีการกำกับดูแลกันทุกขั้นตอน
** จี้กกต.เร่งชี้แจงการใช้สิทธินอกเขต
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยจะกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 มิ.ย.54 ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ที่ตนเองมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้าน ต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธิดังกล่าว ภายในวันที่ 2 มิ.ย.54 โดยปัญหาในขณะนี้คือ ประชาชนเกิดความสับสน และไม่เข้าใจในรายละเอียดเรื่องดังกล่าว เพราะฉะนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ กกต.ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธเลือกตั้งเหล่านั้นข้าใจในวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ด้วย มิฉะนั้นประชาชนจำนวนมากอาจจะไปลงคะแนนผิดที่เลือกตั้งได้ และที่สำตัญอาจจะทำให้ถูกสวมสิทธิในการเลือกตั้งได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การพิมพ์บัตรเลือกตั้งจำนวนกว่า 53 ล้านใบ แต่ทางพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบพบว่า มีประชาชนสามารถใช้สิทธิได้ประมาณ 47 ล้านคน ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตให้ กกต. สามารถพิมพ์บัตรเกินได้ 7 % เท่านั้น เพราะฉะนั้น บัตรเลือกตั้งที่ทาง กกต.กำลังดำเนินการจัดพิมพ์นั้น ถือว่าเกินกว่าที่กำหนดถึง 5 ล้านใบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการนำบัตรไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และอาจจะนำมาซึ่งความไม่ยุติธรรมในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ทาง กกต.อนุญาต ให้ทางตัวแทนของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ภาคสื่อมวลชน และประชาชนสามารถตรวจสอบการพิมพ์บัตรเลือกตั้งในครั้งนี้ได้
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของการร่วมมือการหลายฝ่าย ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ กกต.จะมีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแนะนำเรื่องของข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ และในช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค. ทาง กกต.จะเชิญสื่อมวลชน และตัวแทนของพรรคการเมือง ลงพื้นที่ดูสถานที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งทั้ง 2 แห่ง คือ ที่โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และโรงพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล หากมีข้อซักถามอะไร ก็ขอให้ถามมา เพื่อให้บรรยากาศเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครเข้ามาที่ กกต.หรือยัง เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาบางส่วนแล้ว แต่ไม่มากโดยส่วนใหญ่จะไปเปิดประเด็นเรื่องของการไม่เชื่อใจ หวาดระแวงกรรมการที่ดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการ จึงขอเตือนให้ระมัดระวัง ในเรื่องการแสดงความคิดเห็นที่สามารถทำได้ในกรอบ หากอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ที่จะให้โทษ ให้คุณกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองไม่ได้
" ผมอยากให้บรรยากาศครั้งนี้ไปอย่างสร้างสรรค์ ในส่วนของการทำงานของกกต. และหน่วยที่รับผิดชอบ ขอยืนยันว่า จะทำไปในสิ่งที่ดีที่สุด ให้เป็นไปอย่างสุจริต และเที่ยงธรรม" นายสุทธิพล กล่าว
นายสุทธิพล กล่าวถึงผลสำรวจคะแนนความนิยม ที่สำนักโพลต่างๆ ออกมาในขณะนี้ ว่า การสำรวจความคิดเห็นในแต่ละครั้งที่ผ่านมา ก็จะเป็นการสำรวจแค่ความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง และคนกลุ่มนั้น ก็อาจจะมีพรรคในดวงใจเรียบร้อยแล้ว แต่ว่ายังเหลือมีคนกลุ่มใหญ่ ที่มีกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เวลานี้บรรยากาศการเตรียมการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยพื้นฐานคนส่วนใหญ่นั้นเบื่อการเมืองอยู่แล้ว ถ้าหากว่ามีใครมาจุดประเด็น หรือบอกให้หวาดระแวง เขาก็คงไม่คิดจะออกไปเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่ นายประเกียรติ นาสิมมา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวอ้างว่านายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้เดินทางไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศน์นั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า การออกมาให้ข่าวนั้นก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าขาดการตรวจสอบ ซึ่งคนที่ได้ข่าวมา พูดแต่เพียงว่า " ได้ข่าวว่า" แบบนี้ก็ทำให้เสียหาย ซึ่งเรื่องนี้นั้น กกต.ก็เปรียบเสมือนกรรมการที่จัดการแข่งขัน แล้วเกิดมีผู้เล่นลงมาวิ่ง และต่อยกรรมการ ถ้ากรรมการลงไปต่อยด้วย ก็คงไม่เหมาะสม
** กลโกแบบเก่ามาใช้กับกกต.ไม่ได้
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงมาตรการในการดูแลจัดการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน หลังจากมีผู้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าจะมีกลโกงการเลือกตั้งว่า กรณีใบรวมคะแนนที่ตามกฎหมายกำหนดให้ มีทั้งหมด 3 ชุดนั้น สามารถตรวจสอบได้ว่า คะแนนตรงกันหรือไม่ เพราะในการนับคะแนนที่หน่วย มีประชาชนจำนวนมาก และตัวแทนพรรคการเมืองสังเกตการณ์อยู่ และรู้ว่าคะแนนที่นับเสร็จสิ้นได้เท่าไร ใครแพ้ใครชนะ และหลังจากนับคะแนนเสร็จ กรรมการประจำหน่วย (กปน.) ลงชื่อกำกับ และจะติดใบรวมคะแนนไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง หากไม่ตรงกับความเป็นจริง ผู้ที่สังเกตการณ์ก็ต้องมีการร้องเรียนอย่างแน่นอน รวมไปใบรวมคะแนนที่อยู่ในหีบ และใบรวมคะแนนที่ส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งกลาง ที่หากไม่ตรงกับที่ประชาชน หรือผู้สังเกตการณ์ก็จะต้องมีคนรู้ ไม่สามารถโกงกันได้
" ส่วนการเติมบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าลงในหีบที่ปิดแล้ว เพื่อเพิ่มคะแนนก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นกลโกงแบบโบราณ ก่อนที่จะมีกกต.เกิดขึ้นมา เพราะการลงคะแนนก็จะมีหลักฐานลายมือชื่อของผู้มาใช้สิทธิ หากจำนวนบัตรไม่ตรงกับจำนวนของประชาชนที่มาลงหลักฐานลายมือชื่อ ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า มีการทุจริต" นายสุทธิพล กล่าว
สำหรับกรณีการขนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ที่จะต้องขนหีบบัตรจากหน่วยเลือกตั้งนอกเขต ไปนับที่เขตนั้น ก็มีระบบการดำเนินการที่เชื่อถือได้ มีกรรมการส่ง และรับหีบบัตรเลือกตั้ง ในรถไปรษณีย์ขนส่งก็จะมีตำรวจนั่งรถไปด้วย รวมถึงบนรถยังมีระบบนำทางและค้นหา (GPS) ที่จะตรวจสอบได้ว่า รถไปอยู่ที่ไหน ไปจอดที่ไหน ออกนอกเส้นทางหรือไม่ เมื่อไปถึงปลายทางก็ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดอีก มีการกำกับดูแลกันทุกขั้นตอน
** จี้กกต.เร่งชี้แจงการใช้สิทธินอกเขต
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยจะกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 มิ.ย.54 ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ที่ตนเองมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้าน ต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธิดังกล่าว ภายในวันที่ 2 มิ.ย.54 โดยปัญหาในขณะนี้คือ ประชาชนเกิดความสับสน และไม่เข้าใจในรายละเอียดเรื่องดังกล่าว เพราะฉะนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ กกต.ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธเลือกตั้งเหล่านั้นข้าใจในวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ด้วย มิฉะนั้นประชาชนจำนวนมากอาจจะไปลงคะแนนผิดที่เลือกตั้งได้ และที่สำตัญอาจจะทำให้ถูกสวมสิทธิในการเลือกตั้งได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การพิมพ์บัตรเลือกตั้งจำนวนกว่า 53 ล้านใบ แต่ทางพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบพบว่า มีประชาชนสามารถใช้สิทธิได้ประมาณ 47 ล้านคน ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตให้ กกต. สามารถพิมพ์บัตรเกินได้ 7 % เท่านั้น เพราะฉะนั้น บัตรเลือกตั้งที่ทาง กกต.กำลังดำเนินการจัดพิมพ์นั้น ถือว่าเกินกว่าที่กำหนดถึง 5 ล้านใบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการนำบัตรไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และอาจจะนำมาซึ่งความไม่ยุติธรรมในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ทาง กกต.อนุญาต ให้ทางตัวแทนของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ภาคสื่อมวลชน และประชาชนสามารถตรวจสอบการพิมพ์บัตรเลือกตั้งในครั้งนี้ได้