พท.ขอ กกต.ดูบัตรลงคะแนน จี้พีอาร์เลือกตั้งล่วงหน้า ประณามมือปาไข่ใส่เวที

“เด็จพี่” จี้ กกต.ประชาสัมพันธ์ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เล็งขอตรวจบัตรลงคะแนนอ้างพิมพ์เกินกำหนดมากกว่า 7% ประณามมือปาไข่ไก่ใส่เวที “ยิ่งลักษณ์” จี้ตำรวจเข้ม โวคนกรุงนิยมแก๊งเผาเมืองเพิ่ม ด้าน “ไอ้เต้น” ยันชู “ปู” นายกฯ หญิงแน่ จี้ ปชป.ยอมพรรคอันดับ 1 ตั้ง รบ. ซัด “มาร์ค” ใช้แหวนยายเนียมหาเสียงอีสานค้ากำไรเกินควร แย้มลงใต้แน่ แนะกกต.สอบ มท.ไม่เป็นกลาง

วันนี้ (29 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยจะมีการกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย.54 ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดที่ตนเองมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธิดังกล่าวภายในวันที่ 2 มิ.ย.54 โดยปัญหาในขณะนี้คือประชาชนเกิดความสับสนและไม่เข้าใจในรายละเอียดเรื่องดังกล่าว เพราะฉะนั้นตนจึงขอเรียกร้องให้ กกต.ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธเลือกตั้งเหล่านั้นเข้าใจในวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ด้วย มิฉะนั้นประชาชนจำนวนมากอาจจะไปลงคะแนนผิดที่เลือกตั้งได้ และที่สำตัญอาจจะทำให้ถูกสวมสิทธิในการเลือกตั้งได้

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า การพิมพ์บัตรเลือกตั้งจำนวนกว่า 53 ล้านใบ แต่ทางพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบพบว่ามีประชาชนสามารถใช้สิทธิได้ประมาณ 47 ล้านคน ซึ่งตามกฎหมายอนุญาติให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งสามารถพิมพ์บัตรเกินได้ 7% เท่านั้น เพราะฉะนั้นบัตรเลือกตั้งที่ทาง กกต.กำลังดำเนินการจัดพิมพ์นั้นถือว่าเกินกว่าที่กำหนดถึง 5 ล้านใบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการนำบัตรไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และอาจจะนำมาซึ่งความไม่ยุติธรรมในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ทาง กกต.อนุญาตให้ทางตัวแทนของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ภาคสื่อมวลชน และประชาชนสามารถตรวจสอบการพิมพ์บัตรเลือกตั้งในครั้งนี้ได้

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กำลังปราศรัยหาเสียงบนเวทีนั้น ได้มีมือดีปาไข่ไก่ลงมาบริเวณข้างเวทีปราศรัย จากการตรวจสอบน่าจะปามาจากถนนศาลาแดง พรรคเพื่อไทยจึงอยากจะให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องตรวจสอบ และตระหนักถึงเหตุการณ์ความรุนแรงให้มากขึ้นกว่า เพราะหากเมื่อวานนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ไข่ไก่ แต่กลับเป็นระเบิดขึ้นมา ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นกับประชาชน เพราะฉะนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะมีมาตรการเชิงรุกในการดำเนินการมากกว่านี้ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยยังขอประณามบุคคลที่สร้างสถานการณ์นี้ขึ้น จากเหตุการณ์นี้ตนคิดว่าเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากว่าในขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังได้รับความนิยมจากคนในกรุงเทพเพิ่มมากขึ้น

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ในช่วงเย็นวันนี้เวลาประมาณ 16.00 น. ทางพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปปราศรัยที่หมู่บ้านเจริญทรัพย์ เขตหนองจอก ซึ่งจะมีแกนนพรรคเพื่อไทย เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รวมไปถึงตน และผู้สมัคร ส.ส.ใน กทม.นำทีมปราศรัยในวันนี้ด้วย

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์มีความพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าหากพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะเดินหน้าไปสู่การชุมนุมของประชาชนอีกครั้งนั้น ตนมีความพยามที่จะทำให้ทุกฝ่ายออกจากวิกฤตความขัดแย้งไปให้ได้ โดยการใช้การเลือกตั้งที่เป็นกระบวนการสำคัญที่จะทำให้ประเทศมีทางออก เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันให้เกิดความยุติธรรม ความขัดแย้งก็จะจบลงได้ ทั้งนี้หากการเลือกตั้งครั้งนี้มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีสาเหตุใดที่จะออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาประกาศให้ชัดว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ประชาชนจะได้ไม่เกิดความคลาบแคลงใจอีก ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างแน่นอนแล้วว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย เพราะถือว่าเป็นการตัดสินใจของประชาชน แตกต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง หรือชนะใจของประชาชนได้เลย การขึ้นมาเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งล่าสุดนั้น เกิดจากการดำเนินการใต้ดินทั้งสิ้น

“พรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะใช้เวลาไปพิจารณาตัวเองดีกว่ามานั่งวิจารณ์พรรคการเมืองอื่น ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคอีสานนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่พร้อมกับแหวนของยายเนียมเท่านั้น ไม่ได้มีผลงานหรือนโยบายใดๆ ไปให้ประชาชนเลย ตนคิดว่าการนำแหวนเพื่อไปซื้อใจประชาชนนั้น น่าจะเป็นการค้ากำไรเกินควรไป” นายณัฐวุฒิกล่าว

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิยังกล่าวยืนยันว่า ทีมหาปราศรัยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยนำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์นั้นจะเดินทางลงพื้นที่ในทุกๆ ภาคของประเทศไทย จะไม่มีการเว้นไว้ภาคใดภาคหนึ่งอย่างแน่นอน อย่างกรณีของภาคใต้ ตนก็เชื่อว่าประชาชนชาวใต้ต้องอยากได้นโยบายดีๆ เหมือนกับภาคอื่นๆ อย่างแน่นอน แต่พรรคกำลังมีการวางแผนในช่วงวันและเวลาเท่านั้น

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ตนขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้เข้าตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจจะวางตัวไม่เป็นกลางนั้น ทางกกต.จะต้องแก้ไขและเปลี่ยนแปลงทันที เพราะมีหลายๆ ฝ่ายไม่สบายใจกับกลไกของกระทรวงมหาดไทยที่จะเข้ามาทำงานเกี่ยวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงเหตุการณ์ปาไข่ทีเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย สวนลุมพินีวานนี้ (28 พ.ค.) ว่า ทางพรรคเพื่อไทยไม่ได้ติดใจอะไร และไม่ได้คิดว่าจะสร้างมาตรการตอบโต้ใดๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นเพียงเกม ที่ฝ่ายตรงข้ามใช้ยั่วยุประชาชนให้เกิดความไม่พอใจ แต่พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลามากังวลสนใจกับเรื่องแบบนี้ ทางพรรคเพื่อไทยมุ่งหวังที่จะเดินหน้าลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคเท่านั้น อีกทั้งตนเชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์ แข็งแกร่งเพียงพอที่จะเดินผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้อย่างมั่นคง