2 ป๋าดันพิจิตรบลัฟกันแหลก “ไพฑูรย์”มั่นใจ ปชป.ได้เพิ่ม“สุณีย์”กลัว จนท.เอียง

พิจิตร - 2 ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จาก 2 พรรคการเมือง พท.-ปชป. ผู้ทำหน้าที่ “ป๋าดัน” ออกโรงเกทับคู่แข่ง “ไพฑรูย์” อดีต รมต.แรงงาน ส่งลูกลงเขต 2 พิจิตร เชื่อประชาธิปัตย์เหนือเก้าอี้เพิ่ม สวนทางสารพัดโพล ด้าน “สุณีย์” ที่ส่งหลานลงสู้ดักคอ กลัวใช้อำนาจรัฐช่วยคู่แข่ง

นายไพฑรูย์ แก้วทอง อดีต รมต.แ รงงาน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ลำดับที่ 11 เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับนายนราพัฒน์ แก้วทอง ลูกชายที่สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 2 หลังมีโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังมีคะแนนตามพรรคเพื่อไทย อยู่ ว่า ตนเองและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เกาะติดและเชื่อข้อมูลผลสำรวจของทุกสำนัก เพราะเป็นเรื่องของนักวิชาการ ซึ่งเป็นผลดีทำให้สะท้อนถึงความบกพร่องที่จะต้องเติมให้เต็มในช่วงของการหาเสียง

แต่การทำโพลก็มีช่องว่างความคลาดเคลื่อนได้ 5-10% ดังนั้น ไม่แน่ว่าเมื่อถึงวันเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีคะแนนเหนือคู่แข่งก็เป็นได้ เพราะการเลือกตั้ง มีคนใช้สิทธิ์ทั่วประเทศ ต่างจากการทำโพลสำรวจที่ทำแค่สุ่มตัวอย่าง กับประชาชนเพียงแค่หลักพันเท่านั้น แต่ก็ไม่ชะล่าใจเพราะเมื่อมีผลทำนายทายทัก ว่าเป็นรองก็ยิ่งทำให้ผู้สมัครทุกคนของพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งต้องเพิ่มการขยันลงพื้นที่หาเสียงให้มากขึ้น และมั่นใจว่าโค้งสุดท้ายประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่มีเขาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งจะมีผลชนะมากกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน

ด้าน น.ส. สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 31 ได้ให้สัมภาษณ์ ภายหลังลงพื้นที่ นำพา นายพงษ์ศักดิ์ เหลืองวิจิตร หรือ “เอก” หลานชาย ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 2 สู้กับลูกชายนายไพฑูรย์ ออกพบปะชาวบ้านเพื่อขอคะแนนว่า มั่นใจว่าในพื้นที่พิจิตร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย มีกระแสที่ดีมาก จากนโยบายของพรรค จึงมีสิทธิ์ชนะการเลือกตั้ง ทั้ง 3 เขต

แต่ที่วิตกกังวลอยู่ในขณะนี้ คือ เรื่อง เจ้าพนักงานของรัฐหรือข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับอำเภอและระดับจังหวัด เคยสั่งการห้ามกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมของคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ถึงขนาดเอาไปเก็บตัว ณ ที่ว่าการอำเภอ ดังนั้นในคราวนี้จึงไม่หวาดหวั่นเรื่องการหาเสียง แต่หวั่นเกรงเรื่องการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งถ้าให้หาเสียงกันแบบเสมอภาค ไม่มีสองมาตรฐาน รับรองได้ว่าจังหวัดพิจิตรจะมี ส.ส. พรรคเพื่อไทย เข้าไปนั่งในสภาอย่างแน่นอน