xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.คลอดดัชนีหุ้นปันผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตลาดหลักทรัพย์ฯเล็งคลอดดัชนีหุ้นปันผลสูง 4 ก.ค.นี้ หวังเพิ่มสินค้า-เพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีสม่ำเสมอ “เกศรา” เผย บลจ.สนใจนำอ้างอิงออกกองทุนแล้ว 1 แห่ง ด้านนายกสมาคมไทยเวนเจอร์แคปปิตอล เผย กองทุนต่างชาติ สิงคโปร์ -ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สนใจร่วมลงทุนธุรกิจไทย “อาหาร –อุตสาหกรรมรถยนต์- ค้าปลีก-สุขภาพ ”



นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมออกดัชนีใหม่ คือ "ดัชนีหุ้นปันผลสูง"ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มสินเค้าใหม่ และทางเลือกในการลงทุนให้แก่นักลงทุนที่จะลงทุนในสินค้าที่มีผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ จากที่หุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯคัดเลือกเข้ามาอยู่ในดัชนีหุ้นปันผลสูงนั้น จะต้องมีการจ่ายเงินปันผลติดต่อกัน3 ปี นอกจากนี้หากดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ยังได้ส่วนต่างของการปรับตัวของดัชนีอีกด้วย ซึ่งการสำรวจความสนใจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)มีบลจ.สนใจที่จะนำดัชนีดังกล่าวไปออกกองทุนเสนอขายแก่นักลงทุนแล้ว 1 แห่ง

“ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการออกดัชนีหุ้นปันผลสูง นั้นมองว่า ดัชนีดังกล่าวนั้นมีประโยชน์ในการนำไปอ้างอิงในการออกสินค้าต่างๆ และเป็นสินค้าที่เข้าใจง่ายซื้อขายไม่ยาก เน้นลงทุนได้ มีสภาพคล่องและให้ผลอตบแทนสม่ำเสมอ ซึ่งเข้าลงทุนได้ผลตอบแทนสองทางได้เงินปันผลและส่วนต่างของดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น”นางเศรา กล่าว

สำหรับดัชนีหุ้นปันผลสูง นั้นคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนีSET100 จำนวน 30 ตัวแรก ที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอติดต่อกัน3 ปี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีสูตรในการคำนวณคัดเลือกบริษัทที่คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจด้วย เพราะ บจ.บางแห่งมีการจ่ายปันผลสูงมาก จึงอาจจะมีความเสี่ยงในการมีเงินไม่เพียงพอในการขยายธุรกิจในอนาคต จึงทำให้บางบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงมาก แต่ไม่ได้อยู่ในดัชนีหุ้นปันผลสูงของตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้นที่นำมาอ้างอิงนั้นจะมีการทบทวนทุก 6 เดือนเหมือนกับดัชนีต่างในปัจจุบัน

นายโสภณ บุญยรัตพันธุ์ ประธานกองทุนวีเน็ต แคปปิตอและในฐานะนายกสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (เวนเจอร์แคปปิตอล) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกองทุนแวนเจอร์แคปปิตอลต่างประเทศหลายแห่ง ทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา โดยเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนจากหลายประเภททั้งจากกองทุนบำเน็จบำนาญ กองทุนของรัฐบาลเป็นต้น สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจากมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี โดยธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน คือ กลุ่มธุรกิจอาหาร อุตสาหกรรมรถยนต์ ค้าปลีก และสุขภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะต้องได้รับผลตอบแทนสูงไม่ต่ำกว่า 50% เพราะ การลงทุนของเวอร์แคปปิตอลมีความเสี่ยงสูง

“แม้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตทำให้ต่างชาติสนใจเข้ามาร่วมลงทุน แต่เรามีคู่แข่งอย่างจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และคู่แข่งสำคัญสุดคืออินโดนีเซีย กำลังอยู่ในความสนใจของเวอร์เจอร์แคปปิตอล ของต่างชาติอย่างมาก ภายหลังมีการจัดโครงสร้างทางการเมือง ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ มีประชากรมากอันดับ 8 ของโลก คนมีกำลังซื้อ รัฐบาลมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก”



สำหรับวีเน็ต นั้นเป็นเวนเจอร์แคปปิตอล จัดตั้งมา 10 ปี ได้เข้าไปลงทุนแล้วรวมทั้งหมด 30 บริษัท ปัจจุบันมีวงเงินที่เข้าลงทุนแล้วและพร้อมลงทุนรวมกัน 450 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเข้าไปถือหุ้น 50%หรือเกินกว่านั้น อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการต้องการให้เข้าไปร่วมลงทุนในสัดส่วนเท่าไร โดยบริษัทที่บริษัทเข้าไปถือหุ้นนั้น คาดว่าปีนี้จะมีรายได้รวมกันประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เท่าตัวจากปี 2553 มีรายได้รวมกัน 2.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาวีเน็ตไม่ได้มีการลงทุนเลย เพราะไม่มีบริษัทน่าสนใจ โดยในปี 2553 ได้เข้าไปลงทุน 1 บริษัท โดยช่วงที่เหมาะกับการลงทุนมากสุดคือช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าเศรษฐกิจดีราคาจะสูง แต่ช่วงนี้แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีแต่สามารถลงทุนได้ ขึ้นอยู่กับธุรกิจว่ามีความน่าสนใจหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น