ASTVผู้จัดการรายวัน- กระทรวงอุตสาหกรรมโล่งค่ายรถแจ้งเริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตเต็มสูบแล้วหลังต้องลดกำลังการผลิตเฉลี่ย 50% จากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนจากญี่ปุ่น คาดการผลิตปีนี้อยู่ที่ 1.7 ล้านคัน
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถาบันยานยนต์ได้รายงานถึงสถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนยานยนต์หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่นล่าสุดพบว่าเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการโอนกำลังการผลิตไปยังโรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบ และอีกส่วนหนึ่งมีการป้อนให้กับเครือข่ายซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำให้สามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ป้อนสู่ตลาดได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายแจ้งกลับมาว่าได้เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตแล้วจากก่อนหน้าต้องลดกำลังผลิตลงเฉลี่ย50%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้อัตราการขยายตัวการผลิตรถยนต์อาจจะสามารถทำยอดได้มากกว่าปีที่แล้ว โดยพิจารณาได้จากสถานการณ์ในครึ่งปีหลังที่ความต้องการตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2554 คาดว่ายอดการผลิตรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านคัน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 1.8 ล้านคัน โดยในปี 2553 ที่ผ่านมายอดการผลิตอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน
“ แม้ว่าสถานการณ์การผลิตจะเริ่มฟื้นตัว แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมยังคงต้องเร่งพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนสู่ระบบให้เพียงพอและทันต่อการผลิตที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้อาจมีโรงงานชิ้นส่วนขนาดเล็กที่มีการปรับลดพนักงานบางส่วนเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้”
นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า การทำตลาดรถยนต์ในปี 2554 นี้ มีแนวโน้มว่าจะมียอดการส่งออกและการทำตลาดในประเทศในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยตลาดในประเทศเริ่มมีความคึกคักจากการเมืองในประเทศที่จะมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น ขณะที่ตลาดส่งออกเริ่มลดลงในบางประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกาลดลงเฉลี่ย 40% ตะวันออกกลาง 20% และยุโรป 6% ทำให้สัดส่วนตลาดเปลี่ยนไป จากเดิมตลาดส่งออกอยู่ที่ 56% และตลาดในประเทศอยู่ที่ 44%
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถาบันยานยนต์ได้รายงานถึงสถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนยานยนต์หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่นล่าสุดพบว่าเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการโอนกำลังการผลิตไปยังโรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบ และอีกส่วนหนึ่งมีการป้อนให้กับเครือข่ายซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำให้สามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ป้อนสู่ตลาดได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายแจ้งกลับมาว่าได้เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตแล้วจากก่อนหน้าต้องลดกำลังผลิตลงเฉลี่ย50%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้อัตราการขยายตัวการผลิตรถยนต์อาจจะสามารถทำยอดได้มากกว่าปีที่แล้ว โดยพิจารณาได้จากสถานการณ์ในครึ่งปีหลังที่ความต้องการตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2554 คาดว่ายอดการผลิตรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านคัน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 1.8 ล้านคัน โดยในปี 2553 ที่ผ่านมายอดการผลิตอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน
“ แม้ว่าสถานการณ์การผลิตจะเริ่มฟื้นตัว แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมยังคงต้องเร่งพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนสู่ระบบให้เพียงพอและทันต่อการผลิตที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้อาจมีโรงงานชิ้นส่วนขนาดเล็กที่มีการปรับลดพนักงานบางส่วนเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้”
นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า การทำตลาดรถยนต์ในปี 2554 นี้ มีแนวโน้มว่าจะมียอดการส่งออกและการทำตลาดในประเทศในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยตลาดในประเทศเริ่มมีความคึกคักจากการเมืองในประเทศที่จะมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น ขณะที่ตลาดส่งออกเริ่มลดลงในบางประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกาลดลงเฉลี่ย 40% ตะวันออกกลาง 20% และยุโรป 6% ทำให้สัดส่วนตลาดเปลี่ยนไป จากเดิมตลาดส่งออกอยู่ที่ 56% และตลาดในประเทศอยู่ที่ 44%