xs
xsm
sm
md
lg

เผยไตรมาส 2 ยอดผลิตรถวูบ 1.5 แสนคัน ลุ้นชิ้นส่วนญี่ปุ่นเข้ากู้วิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สถาบันยานยนต์ ห่วงยอดผลิตรถยนต์หลุดเป้า 1.8-2 ล้านคัน หลังตัวเลขไตมาส 2 หายวูบไปกว่า 1.5 แสนคัน ผู้ประกอบการลุ้นไตรมาส 3 ญี่ปุ่นส่งชิ้นส่วนเข้ามาได้ทัน ยอมรับ สถานการณ์น่าเป็นห่วง

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการ สถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่น ส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ญี่ปุ่นไม่สามารถส่งชิ้นส่วนมายังประเทศไทยได้ พร้อมคาดการณ์ว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของญี่ปุ่นจะเริ่มส่งชิ้นส่วนมายังประเทศไทยได้ ประมาณสิ้นเดือนพฤษภาคม 2554 หรือต้นเดือนกรกฎาคม 2554 นี้ และน่าจะทำให้กำลังผลิตรถเพิ่มขึ้นได้เฉลี่ย 1.8 แสนคันต่อเดือน

“ถ้าชิ้นส่วนยานยนต์ถูกส่งมาจากญี่ปุ่นได้ มั่นใจว่าครึ่งปีหลังผู้ผลิตจะสามารถผลิตรถยนต์ตีคืนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะตอนนี้ตลาดก็ยังมีความต้องการ เรามั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ยอดการผลิตรถยนต์ ณ สิ้นปี 2554 เป็นไปตามเป้าหมายคือ 1.8-2.0 ล้านคัน ได้แน่นอน”

อย่างไรก็ตาม หากชิ้นส่วนยานยนต์ยังไม่สามารถส่งมาให้ไทยได้ ภายในไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2554) นายวัลลภ ยอมรับว่า สถานการณ์ผลิตรถยนต์ของไทย ก็น่าเป็นห่วง ซึ่งต้องประเมินอีกครั้งว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ โดยพบว่าตัวเลขไตรมาส 2 ยอดผลิตรถยนต์หายไปประมาณ 1.5 แสนคัน จากค่ายรถยนต์ลดกำลังการผลิตลง

โดยก่อนหน้านี้ ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเมินว่า ญี่ปุ่นจะสามารถส่งชิ้นส่วนมาให้ไทยได้ในไตรมาส 3 และหากญี่ปุ่นเริ่มทำการผลิตได้เต็มการฟื้นฟูสถานการณ์จะเกิดขึ้นเร็ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์บางค่ายไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หรือพึ่งพาชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่นไม่มาก อาทิ มิตซูบิชิ ซูซูกิ และ จีเอ็ม โดยสามารถเพิ่มกำลังการผลิตรถเพื่อทดแทนส่วนที่หายไปบ้าง และสนองความต้องการของตลาดได้ดี

“ตอนนี้มีผู้ผลิตรถยนต์บางค่ายที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น ซึ่งกำลังติดตามว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายได้มากแค่ไหน และต้องดูว่าจะสามารถเร่งการผลิตได้หรือไม่ เพื่อทดแทนรถยนต์ที่หายไปจากตลาด”

ขณะเดียวกัน ไทยก็ต้องติดตามสถานการณ์ผลิตชิ้นส่วนในประเทศญี่ปุ่น ว่า จะเข้าสู่สภาวะปกติ และส่งชิ้นส่วนมาให้ไทยได้เมื่อไหร่ เพราะล่าสุดก็ยังสรุปไม่ได้ว่า ชิ้นส่วนจะมาเมื่อไหร่ ถือเป็นสิ่งที่น่าห่วง และต้องรอดูสถารณ์สิ้นเดือนนี้หรือต้นเดือนมิถุนายน 2554 อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น