xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กับเรื่อง “รัก” ที่ลับๆ ล่อๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - นับแต่วินาทีที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ตัดสินใจประกาศตัวเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 แห่งพรรคเพื่อไทย เพื่อท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เรื่องราวของผู้หญิงวัย 44 ปีผู้เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวน 11 คนของ “นายเลิศ” และ “นางยินดี” ชินวัตร ก็ได้จุดประกายแห่งความสนใจใคร่รู้ของสังคมขึ้นมาในทันที

เพราะเรื่องราวของเธอมิได้มีเพียงแค่การเป็นน้องสาวสุดที่รักของนักโทษชายหนีคดีที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีทรัพย์ศฤงคารจำนวนมหาศาลเท่านั้น หากแต่ยังเต็มไปด้วยสีสันแห่งชีวิตที่เรียกได้ว่า จัดจ้านและฉูดฉาดคนหนึ่งเช่นกัน

ยิ่ง“ชีวิตส่วนตัว” โดยเฉพาะ “สามี” และ “ลูก” ด้วยแล้ว ยิ่งน่าเสาะแสวงหาความจริงมิใช่น้อย

เพราะยิ่งยิ่งลักษณ์ไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัว เรื่องราวของสามีและลูกมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามี-พ่อของลูก สังคมก็ยิ่งอยากรู้สิ่งที่เป็นความลับมากขึ้นเท่านั้น

แน่นอน คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ยิ่งลักษณ์ในวัย 44 ปี (เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2510) นั้นยังคงความสวยสะพรั่ง หุ่นดี แต่งตัวเก่ง และเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายมากหน้าหลายปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ

จากความรับรู้โดยทั่วไป สังคมพอทราบว่า ยิ่งลักษณ์มีลูกชาย 1 คน หากแต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สามีของผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติและทรัพย์สมบัติผู้นี้ ปัจจุบันยังดำรงสถานะเป็นสามีในทางพฤตินัยหรือไม่ เนื่องเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นนักรักระดับตำนานเลยก็ว่าได้ ขณะที่ในทางนิตินัยนั้น เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ยิ่งลักษณ์มิได้จดทะเบียนสมรสแต่มีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือ “ด.ช.ศุภเสกข์” หรือ “น้องไปป์”

“อนุสรณ์ อมรฉัตร” หรือ “ป๊อป” อดีตผู้บริหารในเครือบริษัท ซีพี และกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวคนที่ 5 ในตระกูลชินวัตรคือชื่อของผู้ชายคนนั้น

เรื่องราวความรักระหว่างยิ่งลักษณ์กับพ่อของลูกอาจกล่าวได้ว่าเป็นปริศนาที่มืดดำที่สุดเรื่องหนึ่งและกลายเป็นที่กล่าวขานในแวดวงนักธุรกิจและสังคมชั้นสูงอย่างมิรู้จักจบสิ้น

แม้กระทั่งในวันที่ยิ่งลักษณ์นำพลพรรคเพื่อไทยไปสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมายิ่งลักษณ์ก็เอ่ยถึงเพียงแค่ลูก มิได้เอ่ยถึงผู้เป็นพ่อของลูกแต่ประการใด

“จากนี้คงต้องลดบทบาทหน้าที่แม่ และได้พูดคุยกับครอบครัวแล้ว บอกให้ลูกเข้าใจ เดินไปที่ใดต้องอดทนอดกลั้นกับแรงเสียดทานที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ครอบครัวพร้อมจะให้ลงทำงานเพื่อสังคมและประเทศต่อไป”

ข้อเท็จจริงประการสำคัญมีอยู่ว่า สาวสวยแห่งรั้ว มช. ที่ชื่อยิ่งลักษณ์แต่งงานกับชายหนุ่มผู้โชคดีจากรั้วเอแบคที่ชื่อ "อนุสรณ์ อมรฉัตร" เมื่อปี 2538 โดยในงานแต่งงานของ ยิ่งลักษณ์ กับอนุสรณ์ที่โรงแรมไฮแอทในครั้งนั้น จัดว่าเป็นงานระดับช้างชนช้าง  โดยมีเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์  เป็นตัวแทนในนามกลุ่มซีพี  เปิดประตูสานสัมพันธ์ครอบครัว "อมรฉัตร"  กับ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  ตัวแทนในนามกลุ่มชินวัตร ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งแค่ รองนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย

หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรม ยิ่งลักษณ์และอนุสรณ์ ครองรักแบบไร้ทายาทมายาวนาน 7 ปี ถึงได้มีพยานรักร่วมกันหนึ่งคนคือ น้องไปป์หรือเด็กชายศุภเสกข์

นั่นคือเรื่องราวที่พอจะสืบค้นได้ในทางเปิดเผยเกี่ยวกับผู้ชายของยิ่งลักษณ์ที่ชื่ออนุสรณ์ อมรฉัตร

กระนั้นก็ดีด้วยความที่ยิ่งลักษณ์ไม่ใคร่อยากให้ใครรับรู้เรื่องราวส่วนตัวของเธอมากนัก ก็ยิ่งทำให้มีเรื่องราวภาคพิสดารของเธอปรากฏอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย ซึ่งไม่มีใครทราบได้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่

เช่น กรณีการพบรักกันทั้งสองคนนั้น เกิดขึ้นในขณะนี้ฝ่ายหญิงมีอายุอานามอยู่ในวัย 26 ปีและมี “แฟน” เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว เพียงแต่รับรู้กันเป็นการภายในว่า ครอบครัวของสาวเจ้าไม่ค่อยจะปลื้มครอบครัวของฝ่ายชายเท่าใดนัก และด้วยช่องว่างที่เกิดขึ้นทำให้พ่อของลูกสามารถสอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสำเร็จ เนื่องเพราะเพียบพร้อมไปด้วยทั้งรูปสมบัติ บุคลิกดี รวมทั้งหน้าที่การงานที่เติบใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ

ในที่สุดอีก 3 ปีต่อมา คนทั้งสองจึงแต่งงานกัน

ทว่า ความรักของทั้งสองคนก็มีเสียงเล็ดลอดออกมาว่า มิได้ราบรื่นเท่าใดนัก เนื่องเพราะพฤติกรรมบางประการของฝ่ายชายที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย จนมีข่าวออกมาว่า ทั้งคู่มิได้มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาอีกต่อไปแล้ว

แน่นอน คงไม่มีใครรู้ความจริง และคงไม่มีใครอธิบายความจริงเหล่านี้ได้นอกจากเจ้าตัวจะเป็นผู้ชี้แจง

รวมทั้งเรื่องราวของเธอกับอดีตผู้บริหารระดับบิ๊กของ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ”

ว่ากันว่าครั้งหนึ่งในช่วงที่มีข่าวคึกโครม ในช่วงที่ผู้เป็นพี่ชายสุดที่รักประกาศเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทางกลุ่มคนเสื้อแดงที่คิดถึงห่วงหาอดีตผู้นำประเทศทรราชที่เป็นเสมือนพระเจ้าก็ไม่ปานของเขาเหล่านั้น ได้รวมตัวกันหลายจังหวัด มีการขนรถบัสไปเจอตัวจริงเสียงจริง แต่ก็ติดปัญหาด้วยว่าบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงที่แห่แหนกันมาอย่างคับคั่ง เข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาไม่ได้ เพราะต้องมีพาสปอร์ต หรือหนังสือผ่านแดนเข้าจุดผ่อนผัน

ในครั้งนั้น "แม่ปู" ของคนเสื้อแดงแสดงอิทธิฤทธิ์เดินเรื่องด้วยตัวเองเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถนำพาเหล่าคนเสื้อแดง ผ่านฉลุยด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เข้าไปได้โดยไร้ปัญหาจากฝั่งกัมพูชา

และว่ากันอีกว่า บุคคลที่ร่วมมาช่วยงานโดยอาสาเป็นด่านหน้าพาเสื้อแดงเข้าประเทศกัมพูชาหาใช่คนอื่นไกล เพราะเป็นที่ทราบกันดีในหมู่คนเสื้อแดงว่า ถ้าปรากฏเงา "บิ๊กดีเอสไอ" คราใด ก็จะเห็น "แม่ปู" โผล่มาด้วยอยู่บ่อยครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของ “แม่ปู” กับสถานที่สุดพิเศษที่ตั้งอยู่ ณ “โรงแรมบางกอก ชาดา” หรือที่บรรดานักเที่ยวรู้จักกันในชื่อเดิมว่า “สยาม เบเวอร์รี่ โฮเต็ล”

ไม่มีใครรู้ว่า แม่ปูเคยไปที่นั่นหรือไม่

แต่มีคำยืนยันจากนักเที่ยวว่า มีผู้หญิงผู้เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติและทรัพย์สมบัติ แต่มีความเปล่าเปลี่ยวเอกาหลายต่อหลายคนแวะเวียนไปยังสถานที่แห่งนี้ อยู่เสมอยามที่ใจเหงา

และเรื่องราวเหล่านี้กำลังกลายเป็น Talk of the Town ที่กำลังโลดแล่นทำหน้าที่อยู่ในวงสนทนาต่างๆ ทั้งในโลกอินเทอร์เน็ตและในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อยิ่งลักษณ์เปิดตัวออกมาสู่ถนนสายการเมือง เปิดตัวสู่ที่แจ้งเช่นนี้ ก็ย่อมจะต้องยอมรับผลกระทบที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังที่เธอประกาศเอาไว้ในวันที่เปิดตัวเป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยเอาไว้ว่า....ดิฉันพร้อมจะรับการพิสูจน์จากสาธารณชนภายใต้กติกามารยาทที่เป็นธรรม เรียนว่า ตรงนี้มีความพร้อม....”
กำลังโหลดความคิดเห็น