กรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือ พีเน็ต เตรียมส่งจดหมายเชิญ 6 พรรคการเมือง เพื่อร่วมแสดงวิสัยทัศน์ทางการเมืองหรือ ดีเบต ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ตอบคำถามเพียง 5 ข้อ ในวันที่ 23 มิ.ย. ขณะที่ในวันที่ 24 มิ.ย. จะเชิญผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับหนึ่งของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมดีเบต พร้อมกับย้ำว่า เป็นการจัดขึ้นเพื่อให้ประโยชน์กับประชาชนในการตัดสินใจเลือก โดยยืนยันว่าจะไม่เป็นสาเหตุหรือเป็นชนวนของการเห็นแย้งระหว่าง 2 พรรคการเมืองแต่อย่างใด
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภา กทม. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่สมาชิกสภากทม. (ส.ก.) เตรียมประกาศตัวลงสมัคร ส.ส.กทม.ว่า ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการสภากทม.เร่งตรวจสอบเพื่อความชัดเจนว่า จะมี ส.ก.ขอลาออกรวมทั้งสิ้นกี่คน พร้อมทั้งตรวจสอบหนังสือลาออก ที่จะต้องส่งถึงประธานสภากทม.ให้ลงนาม เพื่อยืนยันว่าจะเป็นการพ้นสภาพการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือลาออกจาก ส.ก.คนใดส่งถึงตน มีเพียงนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว จากพรรคเพื่อไทย คนเดียวเท่านั้น ที่ประกาศลงสมัคร ส.ส. ซึ่งคาดว่า น่าจะส่งหนังสือมาภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า เพื่อให้คุณสมบัติผ่านสามารถลงสมัคร และ ลงพื้นที่ หรือจัดกิจกรรมการหาเสียงได้อย่างสมบูรณ์
ส่วนการเลือกตั้ง ส.ก.แทนตำแหน่งที่ว่างลง ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า ต้องจัดให้มีขึ้นภายใน 45 วัน หลังจากการลาออกของคนเก่ามีผล ทั้งนี้ เชื่อว่าทางพรรคเพื่อไทยน่า จะเตรียมผู้ที่ลงชิงตำแหน่งไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะพื้นที่เขตดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่การแข่งขันค่อนข้างสูง และเป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการพูดคุยหรือนัดหมายประชุมกันในเรื่องนี้เนื่องจากติดภารกิจหาเสียงการเลือกตั้งอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้สมาชิกสภากทม.ทุกๆ คนรวมทั้ง ส.ข.ระมัดระวังเป็นพิเศษ เรื่องการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ทั้งเรื่องการสนับสนุนสถานที่ การจัดทำป้าย หรือเอกสารต่างๆ และการวางตัว เพื่อจะไม่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งตัวผู้สมัคร พรรค หรือแม้แต่ ส.ก. ด้วย
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภา กทม. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่สมาชิกสภากทม. (ส.ก.) เตรียมประกาศตัวลงสมัคร ส.ส.กทม.ว่า ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการสภากทม.เร่งตรวจสอบเพื่อความชัดเจนว่า จะมี ส.ก.ขอลาออกรวมทั้งสิ้นกี่คน พร้อมทั้งตรวจสอบหนังสือลาออก ที่จะต้องส่งถึงประธานสภากทม.ให้ลงนาม เพื่อยืนยันว่าจะเป็นการพ้นสภาพการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือลาออกจาก ส.ก.คนใดส่งถึงตน มีเพียงนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว จากพรรคเพื่อไทย คนเดียวเท่านั้น ที่ประกาศลงสมัคร ส.ส. ซึ่งคาดว่า น่าจะส่งหนังสือมาภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า เพื่อให้คุณสมบัติผ่านสามารถลงสมัคร และ ลงพื้นที่ หรือจัดกิจกรรมการหาเสียงได้อย่างสมบูรณ์
ส่วนการเลือกตั้ง ส.ก.แทนตำแหน่งที่ว่างลง ตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า ต้องจัดให้มีขึ้นภายใน 45 วัน หลังจากการลาออกของคนเก่ามีผล ทั้งนี้ เชื่อว่าทางพรรคเพื่อไทยน่า จะเตรียมผู้ที่ลงชิงตำแหน่งไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะพื้นที่เขตดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่การแข่งขันค่อนข้างสูง และเป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการพูดคุยหรือนัดหมายประชุมกันในเรื่องนี้เนื่องจากติดภารกิจหาเสียงการเลือกตั้งอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้สมาชิกสภากทม.ทุกๆ คนรวมทั้ง ส.ข.ระมัดระวังเป็นพิเศษ เรื่องการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ทั้งเรื่องการสนับสนุนสถานที่ การจัดทำป้าย หรือเอกสารต่างๆ และการวางตัว เพื่อจะไม่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งตัวผู้สมัคร พรรค หรือแม้แต่ ส.ก. ด้วย