ASTVผู้จัดการรายวัน – จีนเปิดโผ 10 ปีข้างหน้า คนจีนทะลักเที่ยวต่างประเทศ แตะ 100 ล้านคน จี้ไทยเร่งปรับตัว ใน 4 ประเด็นหลัก จัดทัพสินค้าแยกตามเซ็กเม้นต์ ด้าน ททท. ฝันภายใน 3 ปี คนจีนเที่ยวไทยขึ้นอันดับหนึ่ง ขณะที่ภาพรวมนักท่องเที่ยวเอเชีย สัดส่วนพุ่ง 63% ปีหน้า โกยรายได้ 2.7 แสนล้านบาท
วานนี้(19 พ.ค.54) การสัมมนา “Thailand Tourism Marketing : Mapping the Future” เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีประเด็นในการสัมมนา 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ตราสินค้าประเทศไทย , ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ,การตลาดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อสังคม และ การบริหารจัดการชื่อเสียง
*** 10ปีหน้าจีนทะลักเที่ยวตปท.100ล้านคน****
นายจาง กวงรุ่ย (Zhang Guangrui) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน กล่าวว่า สถาบันฯได้ประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินออกไปเที่ยวต่างประเทศในปี 2558 จะมีจำนวนมากถึง 83 ล้านคน และ จะเพิ่มเป็น 100 ล้านคนในปี 2563 จึงต้องการให้ประเทศที่ต้องการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว ต้องเร่งปรับตัว ศึกษาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงกับความต้องการของตลาด
สำหรับประเทศไทย ควรต้องพัฒนาใน 3 - 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลวง เพื่อรองรับชาวจีนระดับไฮเอนด์ , พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองหรือเมืองใหม่ รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มแมส ,การพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวด้านสุขภาพ เพราะชาวจีนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และ การผ่อนปรนเงื่อนไขเรื่องวีซ่า เช่น ควรลดค่าธรรมเนียมวการขอทำวีซ่า การยืดเวลาวี.ซ่าให้ชาวจีนสามารถพำนักในประเทศไทยได้นานขึ้น หรือเป็นมัลติเพิลวีซ่า คือทำครั้งเดียวอยู่ได้นาน 5-10 ปี
ทั้งนี้ไทยถือเป็น 1 ใน 6 ตลาดประเทศยอดนิยมของชาวจีน เป็นเดสติเนชั่นเป้าหมายของชาวจีนที่เดินทางออกเที่ยวนอกประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งไทยควรใช้จุดแข็งนี้ในการสร้างโอกาสดึงนักท่องเที่ยวจีนมาให้มากขึ้น
***อีก 3 ปี จีนครองแชมป์เที่ยวไทย*****
ทางด้านนายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ด้านการตลาดของ ททท. พบว่า จีนเป็นตลาดที่มาแรง จากจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก และ การเติบโตของเศรษฐกิจ คาดว่าอีก 3 ปีจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยราว 1.5 ล้านคน ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย และ เพิ่มจากปี 2553 ที่มีจำนวน 1 ล้านคน และ ปี 2554 ที่คาดว่าจะทำได้ถึง 1.2 ล้านคน จากปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับ 1 ของไทยคือ มาเลเซีย
ททท.จึงเตรียม ดำเนินการเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด ใน 3 ประเด็น ได้แก่ การตั้งสำนักงาน ททท.เพิ่มอีก 1 แห่งทางตอนใต้ของประเทศจีน ,ร่วมมือกับสมาคมท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน จัดทำโปรแกรมทัวร์คุณภาพ ใน 3 ระดับ แพทตินั่ม ,โกลล์ และ ซิลเวอร์ และการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ โดยศึกษาจากความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย โดยจากนี้ไป สำหรับตลาดจีน ททท.จะมุ่งเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม จากปัจจุบันมี 20% ของนักท่องเที่ยวจีนที่มาประเทศไทย จะเพิ่มเป็น 30-40% ในอีก 3 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวจีนปกติที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 3-4 พันบาทต่อวัน ถึง 30%
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจีน เริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยวเอง(FIT) เพิ่มขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา 10-15 ปี สัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเพิ่มเป็นเกือบ 50% เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นก็ใช้เวลานานเช่นกันกว่าจะถึงวันนี้
***จับมือเว็บไซต์โกยนักท่องเที่ยวFIT****
ผลการศึกษาซึ่งเห็นชัดว่าพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มเปลี่ยน จากการท่องเที่ยวปกติเป็นท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน และจะก้าวสู่ความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น แผนส่งเสริมการตลาดปีนี้ ร่วมมือ บริษัท ซีทริป เป็นเว็บอีมาร์เก็ตติ้งด้านท่องเที่ยวใหญ่สุดในจีน คาดปีนี้จะส่งชาวจีนมาเที่ยวประเทศไทยได้มากถึง 8 หมื่นคน เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อน และ ร่วมมือกับ Quar ซึ่งเป็นเว็บไซต์ ข้อมูลข่าวสารด้านท่องเที่ยวของจีน จะขอความร่วมมือลงประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ภาพรวมนักท่องเที่ยวจากตลาดเอเชีย ปี 2554 จะมีจำนวน 10.1 ล้านคน มีสัดส่วน 60% ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมของไทย สร้างรายได้ 2.5 แสนล้านบาท จากเป้าหมายนักท่องเที่ยวรวม 15.7 ล้านคน และเพิ่มเป็น 10.7 ล้านคนในปี 2555 มีสัดส่วนที่ 63% สร้างรายได้ 2.7 แสนล้านบาท
วานนี้(19 พ.ค.54) การสัมมนา “Thailand Tourism Marketing : Mapping the Future” เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีประเด็นในการสัมมนา 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ตราสินค้าประเทศไทย , ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ,การตลาดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อสังคม และ การบริหารจัดการชื่อเสียง
*** 10ปีหน้าจีนทะลักเที่ยวตปท.100ล้านคน****
นายจาง กวงรุ่ย (Zhang Guangrui) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน กล่าวว่า สถาบันฯได้ประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินออกไปเที่ยวต่างประเทศในปี 2558 จะมีจำนวนมากถึง 83 ล้านคน และ จะเพิ่มเป็น 100 ล้านคนในปี 2563 จึงต้องการให้ประเทศที่ต้องการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว ต้องเร่งปรับตัว ศึกษาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงกับความต้องการของตลาด
สำหรับประเทศไทย ควรต้องพัฒนาใน 3 - 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลวง เพื่อรองรับชาวจีนระดับไฮเอนด์ , พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองหรือเมืองใหม่ รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มแมส ,การพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวด้านสุขภาพ เพราะชาวจีนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และ การผ่อนปรนเงื่อนไขเรื่องวีซ่า เช่น ควรลดค่าธรรมเนียมวการขอทำวีซ่า การยืดเวลาวี.ซ่าให้ชาวจีนสามารถพำนักในประเทศไทยได้นานขึ้น หรือเป็นมัลติเพิลวีซ่า คือทำครั้งเดียวอยู่ได้นาน 5-10 ปี
ทั้งนี้ไทยถือเป็น 1 ใน 6 ตลาดประเทศยอดนิยมของชาวจีน เป็นเดสติเนชั่นเป้าหมายของชาวจีนที่เดินทางออกเที่ยวนอกประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งไทยควรใช้จุดแข็งนี้ในการสร้างโอกาสดึงนักท่องเที่ยวจีนมาให้มากขึ้น
***อีก 3 ปี จีนครองแชมป์เที่ยวไทย*****
ทางด้านนายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ด้านการตลาดของ ททท. พบว่า จีนเป็นตลาดที่มาแรง จากจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก และ การเติบโตของเศรษฐกิจ คาดว่าอีก 3 ปีจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยราว 1.5 ล้านคน ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย และ เพิ่มจากปี 2553 ที่มีจำนวน 1 ล้านคน และ ปี 2554 ที่คาดว่าจะทำได้ถึง 1.2 ล้านคน จากปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับ 1 ของไทยคือ มาเลเซีย
ททท.จึงเตรียม ดำเนินการเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด ใน 3 ประเด็น ได้แก่ การตั้งสำนักงาน ททท.เพิ่มอีก 1 แห่งทางตอนใต้ของประเทศจีน ,ร่วมมือกับสมาคมท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน จัดทำโปรแกรมทัวร์คุณภาพ ใน 3 ระดับ แพทตินั่ม ,โกลล์ และ ซิลเวอร์ และการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ โดยศึกษาจากความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย โดยจากนี้ไป สำหรับตลาดจีน ททท.จะมุ่งเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม จากปัจจุบันมี 20% ของนักท่องเที่ยวจีนที่มาประเทศไทย จะเพิ่มเป็น 30-40% ในอีก 3 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวจีนปกติที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 3-4 พันบาทต่อวัน ถึง 30%
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจีน เริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยวเอง(FIT) เพิ่มขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา 10-15 ปี สัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเพิ่มเป็นเกือบ 50% เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นก็ใช้เวลานานเช่นกันกว่าจะถึงวันนี้
***จับมือเว็บไซต์โกยนักท่องเที่ยวFIT****
ผลการศึกษาซึ่งเห็นชัดว่าพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มเปลี่ยน จากการท่องเที่ยวปกติเป็นท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน และจะก้าวสู่ความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น แผนส่งเสริมการตลาดปีนี้ ร่วมมือ บริษัท ซีทริป เป็นเว็บอีมาร์เก็ตติ้งด้านท่องเที่ยวใหญ่สุดในจีน คาดปีนี้จะส่งชาวจีนมาเที่ยวประเทศไทยได้มากถึง 8 หมื่นคน เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อน และ ร่วมมือกับ Quar ซึ่งเป็นเว็บไซต์ ข้อมูลข่าวสารด้านท่องเที่ยวของจีน จะขอความร่วมมือลงประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ภาพรวมนักท่องเที่ยวจากตลาดเอเชีย ปี 2554 จะมีจำนวน 10.1 ล้านคน มีสัดส่วน 60% ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมของไทย สร้างรายได้ 2.5 แสนล้านบาท จากเป้าหมายนักท่องเที่ยวรวม 15.7 ล้านคน และเพิ่มเป็น 10.7 ล้านคนในปี 2555 มีสัดส่วนที่ 63% สร้างรายได้ 2.7 แสนล้านบาท
