เวลา 09.30 น. วานนี้(18 พ.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เดินทางมาตรวจความพร้อม และซักซ้อมการรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะเปิดรับสมัคร วันที่19 พ.ค.นี้ เป็นวันแรก จนถึงวันที่ 23 พ.ค. โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต. เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ และตัวแทนสื่อมวลชน มาร่วมซักซ้อม และจัดเตรียมสถานที่ ที่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
นายสุทธิพล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มเคลียร์พื้นที่ ตั้งแต่วันนี้ หลังการจัดเตรียมสถานที่ อาทิ ตั้งจุดตรวจอาวุธ และการอำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัคร หัวหน้าพรรคการเมือง และ กองเชียร์ เรียบร้อยแล้ว โดยในวันรับสมัคร จะให้ผู้สมัครนำผู้ติดตามเข้ามาในบริเวณภายในอาคารรับสมัครได้ไม่เกิน 10 คน และกองเชียร์เข้ามาได้ไม่เกิน 100 คน นอกนั้น จะต้องรออยู่ภายนอกอาคาร นอกจากนี้ กกต.ยังได้เตรียมแผนกรณีที่มีฝนตกด้วย
นายสุทธิพล ยังเตือนผู้สมัครและกองเชียร์ ว่า สามารถแห่ขบวน หรือ มีกองเชียร์ได้ตามปกติ ก่อนที่จะทราบหมายเลขผู้สมัคร แต่หลังการจับหมายเลขผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว ขอให้งดขบวนแห่ต่างๆ เพราะอาจเข้าข่ายมหรสพ ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง และว่า ตั้งแต่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ยังไม่มีรายงานทุจริต แต่เชื่อว่า หลังการรับสมัครทั้ง 2 ระบบเสร็จสิ้น จะมีผู้ร้องเรียนมากขึ้น ดังนั้น ขอให้หัวหน้าพรรคการเมืองยึดพันธะสัญญา ที่ได้ลงนามไว้กับ กกต.
**จัดกำลังตร. 400นาย คุมเข้มสมัครส.ส.
พ.ต.อ.วิชาญญวัชร์ บริรักษ์กุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 ( รอง ผบก.น. 1 ) กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการรับสมัครเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 19พ.ค.นี้ ว่า ได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลจำนวน 2 กองร้อย หรือ 300 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 40 นาย ชุดสืบสวนสอบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ 30 นาย ชุดปะฉะดะ 30 นาย รวมทั้งสิ้นประมาณ 400 นาย วางกำลังทั้งในและนอกสถานที่ ทั้งนี้ภายในบริเวณภายในอาคารจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในสถานที่ดังกล่าว ยกเว้นตัวแทนของพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนเอาไว้ล่วงหน้า พร้อมกันนี้ยังได้นำเครื่องสแกนวัตถุระเบิดมาติดตั้งจำนวน 2 เครื่องที่บริเวณประตูใหญ่ทางเข้าสนามกีฬา และบริเวณประตูทางเข้าอาคารกีฬาเวสน์
ทั้งนี้ในส่วนบรรดากองเชียร์ของแต่ละพรรคสามารถเดินทางเข้ามาให้กำลังใจได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำวัสดุอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียง เช่น แตร กลอง ป้าย แม้แต่การแสดงมหรสพเข้ามาภายในบริเวณอาคาร นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นและแบ่งบริเวณส่วนต่างๆอย่างชัดเจน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งขอฝากถึงประชาชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจว่าขอให้มาด้วยความสงบ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่พบว่าจะมีกลุ่มมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายแต่อย่างใด แต่อาจมีบางกลุ่มที่อาจจะสร้างความบันเทิงเกิดขอบเขตเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 05.30 น.ของวันที่ 19 พ.ค.นี้
**กกต. แจงได้รับแจ้งเปิดบัญชีน่าสงสัย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงกรณีที่พรรรคเพื่อไทยให้ตรวจสอบกรณีมีการเปิดบัญชีของพรรคในนามของพรรคการเมืองไว้ ว่า ตนได้ให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนไปตรวจสอบ หลังธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แจ้ง กกต.ว่า มีชาวบ้านไปเปิดบัญชี ในชื่อของพรรคการเมืองขนาดใหญ่พรรคหนึ่ง ในลักษณะเหมือนจะมีการโอนเงินเข้ามา ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า มีการขนเงินในภาคอีสานนั้น ตย ยังไม่มีความชัดเจน แต่ กกต.พร้อมรับฟัง หากมีข้อมูล ขอให้แจ้งเข้ามา เชื่อว่า การตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง จะเข้มงวดมากขึ้น เพราะได้ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ตำรวจเข้ามามีส่วนในการสืบสวนสอบสวนร่วมกับ กกต.
**ครม.รับทราบบังคับกฎหมายการเลือกตั้ง
นายแพทย์มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบเรื่องการประกาศใช้บังคับกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554 ประกาศใช้บังคับในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 128 ตอนที่ 33 ก วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 โดยได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554
2. สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งให้ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวม 3 ฉบับ ดังต่อไปนี้ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
2.1 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
2.2 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
2.3 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสามฉบับได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 36 ก วันที่ 13 พฤษภาคม 2554 และมีผลใช้บังคับในวันที่ 14 พฤษภาคม 2554
3. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ส่งกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ใช้ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวม 4 ฉบับ ดังนี้
3.1 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554
3.2 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด
3.3 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
3.4 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันและเวลาลงคะแนนเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง
ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำกฎหมายดังกล่าว รวม 4 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 37 ก วันที่ 14 พฤษภาคม 2554 และมีผลใช้บังคับในวันที่ 14 พฤษภาคม 2554
นายสุทธิพล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มเคลียร์พื้นที่ ตั้งแต่วันนี้ หลังการจัดเตรียมสถานที่ อาทิ ตั้งจุดตรวจอาวุธ และการอำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัคร หัวหน้าพรรคการเมือง และ กองเชียร์ เรียบร้อยแล้ว โดยในวันรับสมัคร จะให้ผู้สมัครนำผู้ติดตามเข้ามาในบริเวณภายในอาคารรับสมัครได้ไม่เกิน 10 คน และกองเชียร์เข้ามาได้ไม่เกิน 100 คน นอกนั้น จะต้องรออยู่ภายนอกอาคาร นอกจากนี้ กกต.ยังได้เตรียมแผนกรณีที่มีฝนตกด้วย
นายสุทธิพล ยังเตือนผู้สมัครและกองเชียร์ ว่า สามารถแห่ขบวน หรือ มีกองเชียร์ได้ตามปกติ ก่อนที่จะทราบหมายเลขผู้สมัคร แต่หลังการจับหมายเลขผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว ขอให้งดขบวนแห่ต่างๆ เพราะอาจเข้าข่ายมหรสพ ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง และว่า ตั้งแต่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ยังไม่มีรายงานทุจริต แต่เชื่อว่า หลังการรับสมัครทั้ง 2 ระบบเสร็จสิ้น จะมีผู้ร้องเรียนมากขึ้น ดังนั้น ขอให้หัวหน้าพรรคการเมืองยึดพันธะสัญญา ที่ได้ลงนามไว้กับ กกต.
**จัดกำลังตร. 400นาย คุมเข้มสมัครส.ส.
พ.ต.อ.วิชาญญวัชร์ บริรักษ์กุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 ( รอง ผบก.น. 1 ) กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในการรับสมัครเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 19พ.ค.นี้ ว่า ได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลจำนวน 2 กองร้อย หรือ 300 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 40 นาย ชุดสืบสวนสอบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ 30 นาย ชุดปะฉะดะ 30 นาย รวมทั้งสิ้นประมาณ 400 นาย วางกำลังทั้งในและนอกสถานที่ ทั้งนี้ภายในบริเวณภายในอาคารจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในสถานที่ดังกล่าว ยกเว้นตัวแทนของพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนเอาไว้ล่วงหน้า พร้อมกันนี้ยังได้นำเครื่องสแกนวัตถุระเบิดมาติดตั้งจำนวน 2 เครื่องที่บริเวณประตูใหญ่ทางเข้าสนามกีฬา และบริเวณประตูทางเข้าอาคารกีฬาเวสน์
ทั้งนี้ในส่วนบรรดากองเชียร์ของแต่ละพรรคสามารถเดินทางเข้ามาให้กำลังใจได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำวัสดุอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียง เช่น แตร กลอง ป้าย แม้แต่การแสดงมหรสพเข้ามาภายในบริเวณอาคาร นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นและแบ่งบริเวณส่วนต่างๆอย่างชัดเจน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งขอฝากถึงประชาชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจว่าขอให้มาด้วยความสงบ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่พบว่าจะมีกลุ่มมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายแต่อย่างใด แต่อาจมีบางกลุ่มที่อาจจะสร้างความบันเทิงเกิดขอบเขตเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 05.30 น.ของวันที่ 19 พ.ค.นี้
**กกต. แจงได้รับแจ้งเปิดบัญชีน่าสงสัย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงกรณีที่พรรรคเพื่อไทยให้ตรวจสอบกรณีมีการเปิดบัญชีของพรรคในนามของพรรคการเมืองไว้ ว่า ตนได้ให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนไปตรวจสอบ หลังธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แจ้ง กกต.ว่า มีชาวบ้านไปเปิดบัญชี ในชื่อของพรรคการเมืองขนาดใหญ่พรรคหนึ่ง ในลักษณะเหมือนจะมีการโอนเงินเข้ามา ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า มีการขนเงินในภาคอีสานนั้น ตย ยังไม่มีความชัดเจน แต่ กกต.พร้อมรับฟัง หากมีข้อมูล ขอให้แจ้งเข้ามา เชื่อว่า การตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง จะเข้มงวดมากขึ้น เพราะได้ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ตำรวจเข้ามามีส่วนในการสืบสวนสอบสวนร่วมกับ กกต.
**ครม.รับทราบบังคับกฎหมายการเลือกตั้ง
นายแพทย์มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบเรื่องการประกาศใช้บังคับกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554 ประกาศใช้บังคับในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 128 ตอนที่ 33 ก วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 โดยได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554
2. สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งให้ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวม 3 ฉบับ ดังต่อไปนี้ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
2.1 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
2.2 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
2.3 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสามฉบับได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 36 ก วันที่ 13 พฤษภาคม 2554 และมีผลใช้บังคับในวันที่ 14 พฤษภาคม 2554
3. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ส่งกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ใช้ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวม 4 ฉบับ ดังนี้
3.1 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554
3.2 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด
3.3 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
3.4 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันและเวลาลงคะแนนเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง
ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำกฎหมายดังกล่าว รวม 4 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 37 ก วันที่ 14 พฤษภาคม 2554 และมีผลใช้บังคับในวันที่ 14 พฤษภาคม 2554