ASTVผู้จัดการรายวัน-โพลชี้เปิดเทอมปีนี้เงินสะพัด 4.69 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% เหตุของแพง ผู้ปกครองกระเป๋าแห้ง มีเงินไม่พอรายจ่าย คาดต้องพึ่งโรงรับจำนำ กู้เงินมาใช้จ่าย ส่วนวันวิสาขะ คนเน้นทำบุญ ดันเงินสะพัด 1.52 หมื่นล้านบาท
นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,183 คน ระหว่างวันที่ 3-7 พ.ค.2554 ว่า ในช่วงเปิดเทอมปีนี้ จะมีเงินสะพัด 46,900 ล้านบาท เพื่มขึ้นจากปีก่อน 5.4% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวม 6,939 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 42.38% เพราะราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งชุดนักเรียน ถุงเท้า รองเท้า หนังสือ กระเป๋า และเครื่องเขียน
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากค่าเล่าเรียนหรือค่าหน่วยกิจ 5,689 บาท ค่าบำรุงโรงเรียน (กรณีเปลี่ยนโรงเรียนใหม่/แป๊ะเจี๊ยะ) 8,325 บาท ค่าบำรุงโรงเรียนตามปกติ 1,676 บาท ค่าเสื้อผ้า 1,110 บาท ค่าหนังสือ 1,094 บาท เป็นต้น ซึ่งผู้ปกครองจำนวน 62.7% มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่าย ส่วนแหล่งที่มาของเงิน 53.5% มาจากเงินเดือน, 39.4% เงินออม, 6.8% โบนัสและรายได้อื่นๆ ขณะที่ผู้ปกครองอีก 37.24% มีเงินไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ซึ่ง 25.7% ต้องจำนำทรัพย์สิน, 24.5% กู้เงินในระบบ, 21% กู้เงินนอกระบบ, 15% ยืมญาติพี่น้อง เป็นต้น
โดยการที่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ปกครองที่ได้รับต่อเดือน และจำนวนบุตร ส่วนด้านการซื้อสินค้าที่ไม่ใช่ค่าเทอมในปีนี้ กลุ่มตัวอย่าง 34.2% ซื้อน้อยลง เพราะส่วนใหญ่ เห็นว่าของราคาแพงขึ้น มีรายได้น้อยลง มีภาระหนี้มาก และไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจไทย
“ปัญหาหลักที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่เจอ คือ สินค้าแพงขึ้น มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย และมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น” นางเสาวนีย์กล่าว
นางเสาวนีย์กล่าวว่า ส่วนนโยบายเรียนฟรี 12 ปี ของรัฐบาล กลุ่มตัวอย่าง 82.4% ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายดังกล่าว โดย 74.2% ได้รับค่าเทอมฟรี 85.4% ได้รับค่าชุดนักเรียนฟรี 1 ชุด และ 82.4% ได้รับค่าหนังสือฟรี แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มบ้าง โดยในส่วนของโรงเรียนเอกชนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเทอม 5,930 บาท ค่าชุดนักเรียน 1,364 บาท และค่าหนังสือ 930 บาท ส่วนโรงเรียนรัฐบาล มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าเทอม 7,080 บาท ค่าชุดนักเรียน 1,207 บาท และค่าหนังสือ 567 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นค่าสนับสนุนและค่าบำรุงโรงเรียน รวมถึงแป๊ะเจี๊ย โดยนโยบายนี้ได้คะแนนความพึงพอใจ 8.9 คะแนน เต็ม 10 สำหรับสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือด้านศึกษา ได้แก่ ปรับปรุงมาตรฐานการศึกษา เพิ่มจำนวนทุนการศึกษา เน้นหลักสูตรที่เรียนจบแล้วมีงานทำ ค่ารถโรงเรียนฟรี ค่าหนังสือฟรี
นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายในช่วงวันวิสาขบูชาว่า จะมีเงินสะพัดกว่า 15,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้ในการทำบุญทางศาสนากว่า 9,911 ล้านบาท ท่องเที่ยว 4,227 ล้านบาท จัดเลี้ยงสังสรรค์ 759 ล้านบาท และใช้จ่ายทั่วไป 388 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ในช่วงเดือนพ.ค.ที่มีการเปิดเทอม และมีวันหยุดยาวในช่วงวันวิสาขบูชา จะมีเงินจากการใช้จ่ายจำนวนมาก ประกอบกับช่วงการเลือกตั้งจะเริ่มมีเม็ดเงินจากการระดมหาเสียงเข้าระบบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวได้ในระดับ 3.4-3.5%
นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,183 คน ระหว่างวันที่ 3-7 พ.ค.2554 ว่า ในช่วงเปิดเทอมปีนี้ จะมีเงินสะพัด 46,900 ล้านบาท เพื่มขึ้นจากปีก่อน 5.4% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวม 6,939 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 42.38% เพราะราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งชุดนักเรียน ถุงเท้า รองเท้า หนังสือ กระเป๋า และเครื่องเขียน
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากค่าเล่าเรียนหรือค่าหน่วยกิจ 5,689 บาท ค่าบำรุงโรงเรียน (กรณีเปลี่ยนโรงเรียนใหม่/แป๊ะเจี๊ยะ) 8,325 บาท ค่าบำรุงโรงเรียนตามปกติ 1,676 บาท ค่าเสื้อผ้า 1,110 บาท ค่าหนังสือ 1,094 บาท เป็นต้น ซึ่งผู้ปกครองจำนวน 62.7% มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่าย ส่วนแหล่งที่มาของเงิน 53.5% มาจากเงินเดือน, 39.4% เงินออม, 6.8% โบนัสและรายได้อื่นๆ ขณะที่ผู้ปกครองอีก 37.24% มีเงินไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ซึ่ง 25.7% ต้องจำนำทรัพย์สิน, 24.5% กู้เงินในระบบ, 21% กู้เงินนอกระบบ, 15% ยืมญาติพี่น้อง เป็นต้น
โดยการที่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ปกครองที่ได้รับต่อเดือน และจำนวนบุตร ส่วนด้านการซื้อสินค้าที่ไม่ใช่ค่าเทอมในปีนี้ กลุ่มตัวอย่าง 34.2% ซื้อน้อยลง เพราะส่วนใหญ่ เห็นว่าของราคาแพงขึ้น มีรายได้น้อยลง มีภาระหนี้มาก และไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจไทย
“ปัญหาหลักที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่เจอ คือ สินค้าแพงขึ้น มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย และมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น” นางเสาวนีย์กล่าว
นางเสาวนีย์กล่าวว่า ส่วนนโยบายเรียนฟรี 12 ปี ของรัฐบาล กลุ่มตัวอย่าง 82.4% ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายดังกล่าว โดย 74.2% ได้รับค่าเทอมฟรี 85.4% ได้รับค่าชุดนักเรียนฟรี 1 ชุด และ 82.4% ได้รับค่าหนังสือฟรี แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มบ้าง โดยในส่วนของโรงเรียนเอกชนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเทอม 5,930 บาท ค่าชุดนักเรียน 1,364 บาท และค่าหนังสือ 930 บาท ส่วนโรงเรียนรัฐบาล มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าเทอม 7,080 บาท ค่าชุดนักเรียน 1,207 บาท และค่าหนังสือ 567 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นค่าสนับสนุนและค่าบำรุงโรงเรียน รวมถึงแป๊ะเจี๊ย โดยนโยบายนี้ได้คะแนนความพึงพอใจ 8.9 คะแนน เต็ม 10 สำหรับสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือด้านศึกษา ได้แก่ ปรับปรุงมาตรฐานการศึกษา เพิ่มจำนวนทุนการศึกษา เน้นหลักสูตรที่เรียนจบแล้วมีงานทำ ค่ารถโรงเรียนฟรี ค่าหนังสือฟรี
นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายในช่วงวันวิสาขบูชาว่า จะมีเงินสะพัดกว่า 15,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้ในการทำบุญทางศาสนากว่า 9,911 ล้านบาท ท่องเที่ยว 4,227 ล้านบาท จัดเลี้ยงสังสรรค์ 759 ล้านบาท และใช้จ่ายทั่วไป 388 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ในช่วงเดือนพ.ค.ที่มีการเปิดเทอม และมีวันหยุดยาวในช่วงวันวิสาขบูชา จะมีเงินจากการใช้จ่ายจำนวนมาก ประกอบกับช่วงการเลือกตั้งจะเริ่มมีเม็ดเงินจากการระดมหาเสียงเข้าระบบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวได้ในระดับ 3.4-3.5%
