แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาเจรจาพูดคุยกับ ส.ส.ที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายพรรคเป็นรายบุคคลนั้น ล่าสุดส.ส.นครราชสีมา 3 คน ของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ยังมีแนวโน้มว่าอาจจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ส่วนนางลินดา เชิดชัย และนายอัสนี เชิดชัย นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างชั่งใจว่าจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินหรือไม่ ทั้งนี้ สาเหตุที่ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย จะย้ายออกจากพรรคนั้น เพราะมองว่ากระแสเสื้อแดงในพื้นที่ไม่ค่อยรุนแรง ดังนั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงมากนัก ประกอบกับปัญหาการจัดการภายในพรรค โดยเฉพาะเรื่องปัจจัยสนับสนุนการเลือกตั้งด้วย
**ปชป.สรุปตัวผู้สมัครวันนี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะคณะกรรมยุทธศาสตร์พรรค กล่าว ถึงการสำรวจความนิยม หรือโพลแต่ละภูมิภาคว่า พรรคได้เจาะในพื้นที่แข่งขันสูง โดยเฉพาะพื้นที่ของส.ส.เก่าทั้ง 139 เขต และพื้นที่จังหวัดหลักๆ แต่ละภาค โดยพรรคได้ไปทำโพลเพื่อดูว่ามีแนวโน้มจะได้ส.ส.อย่างไร แต่ตอนนี้พรรคไม่ได้ดูเรื่องผลโพล เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต จะมีความชัดเจนในวันนี้ (9 พ.ค.) ภายหลังพรรคได้พูดคุยกับส.ส.แต่ละคน และประเมินว่าอยู่ลำดับที่เท่าไร จึงจะมีโอกาสกลับมาเป็นส.ส.อีกครั้ง ส่วนจะลำดับที่เท่าไร ก็อยู่ที่การวิเคราะห์ของกรรมบริหารพรรค
เมื่อถามว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาการวิดีโอลิงค์ถี่ขึ้นในหลายพื้นที่ ปชป.จะแก้เกมอย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความแตกต่างจากพรรคอื่นอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพรรคเดินหน้าตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ที่มีความชัดเจน โดยเฉพาะการเสนอตัวของหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเชื่อว่า ประชาชนอยากเห็นสิ่งที่พรรคได้ประกาศไว้หากกลับมาเป็นรัฐบาลจะทำงานต่อได้
**"ลูกเหนาะ"แย้มปชร.ทำงานร่วมพท.
นายสรวงศ์ เทียนทอง บุตรชายนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า พรรคประชาราช คงจะตัดสินใจเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างแน่นอนแล้วหลังจากภายในพรรคมีการหารือกัน รวมทั้งตนก็ได้พูดคุยกับนายเสนาะมาบ้างแล้ว
นายสรวงค์ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานอีกครั้ง เนื่องจากเห็นชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทย กับกลุ่มคนเสื้อแดง ทำงานแยกออกจากกัน รวมทั้งระยะหลัง แกนนำกลุ่มนปช.ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่นำเรื่องสถาบันฯ มากล่าวอีก
ทั้งนี้ นายสรวงศ์ ระบุว่าพรรคเพื่อไทย ได้เสื้อแจ็คเก็ตของพรรค มาให้กับนายเสนาะกับตน ได้สวมใส่ในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และคาดว่าหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาในสัปดาห์หน้านี้ อย่างไรก็ ดีการร่วมกันทำงานทางการเมืองครั้งนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่เป็นการยุบพรรครวมกัน ชื่อพรรคประชาราชยังคงอยู่
นอกจากนี้นายสรวงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหลังเลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองขนาดเล็กจะอยู่ได้ยาก เหลือเพียง พรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์เท่านั้น ดังนั้นจึงตัดสินใจอยู่กับเพื่อไทย แล้วค่อนข้างแน่นอนหากไม่มีอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้นอีก
**"ปุ" ชูนโยบาย 5 ส.สู้ศึกเลือกตั้ง
วานนี้( 8 พ.ค.) ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบรูณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ กล่าวถึงการเตรียมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าพรรครักษ์สันติ จะส่งผู้สมัครในพื้นที่กรุงเทพฯ ครบ 33 เขต ส่วนในภูมิภาค อาจจะไม่ครบทุกจังหวัดโดยให้โอกาสคนหน้าใหม่ลงสมัคร การเมืองไทยจะได้มีสีสัน และสร้างสรรค์มากขึ้น
ทั้งนี้พรรคจะชูนโยบาย 5 ส. คือ สามัคคี , สุจริต, สิ่งแวดล้อม, สัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเสียสละ และที่สำคัญอย่าทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วยการซื้อเสียง ซึ่งใครก็ตามที่พรรคพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว ทางพรรคจะไล่คนเหล่านั้นออกทันที โดยไม่รอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการ
ส่วนการที่พรรคการเมืองใหญ่ได้ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกันแล้วจะมีผลต่อการเลือกตั้งของพรรคหรือไม่นั้น ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า ทุกคนก็ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน มีการพลิกผันและเปลี่ยนแปลงเสมอ บางคนคุยกันไว้จับมือกันไว้ขอให้คอยดูว่าจะเกิดขึ้นตามนั้นหรือไม่
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า พรรครักษ์สันติไม่ใช้พรรคสำรองของพรรคเพื่อไทย หรือเป็นนอมินีเกี่ยวข้องกับใคร แต่ต้องการเป็นทางเลือกและทางออกของการเมืองมากกว่าจะเป็นทางตัน
**จี้"มาร์ค"เคลียร์ย้ายนอภ.เอื้อพรรคร่วม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย มีการโยกย้ายนายอำเภอ 300 กว่าคน ซึ่งมีกระแสข่าวเพื่อเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนการโยกย้ายครั้งนี้มาที่พรรคเพื่อไทย และมีนายอำเภอหลายๆ คนที่จะไม่เดินทางไปทำหน้าที่ตามที่ได้รับการโยกย้าย
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการโยกย้ายครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การทำเพื่อพวกพ้องของตัวเอง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี น่าจะแสดงบทบาทหน้าที่สักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่โยนไปให้กับกระทรวงมหาดไทย โดยอ้างว่าเพราะเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงมหาดไทย และเมื่อมีประชาชนร้องเรียนมา แต่หากนายอภิสิทธิ์ไม่ดำเนินการ ก็เหมือนว่านายอภิสิทธิ์ รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้
**ปชป.สรุปตัวผู้สมัครวันนี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะคณะกรรมยุทธศาสตร์พรรค กล่าว ถึงการสำรวจความนิยม หรือโพลแต่ละภูมิภาคว่า พรรคได้เจาะในพื้นที่แข่งขันสูง โดยเฉพาะพื้นที่ของส.ส.เก่าทั้ง 139 เขต และพื้นที่จังหวัดหลักๆ แต่ละภาค โดยพรรคได้ไปทำโพลเพื่อดูว่ามีแนวโน้มจะได้ส.ส.อย่างไร แต่ตอนนี้พรรคไม่ได้ดูเรื่องผลโพล เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต จะมีความชัดเจนในวันนี้ (9 พ.ค.) ภายหลังพรรคได้พูดคุยกับส.ส.แต่ละคน และประเมินว่าอยู่ลำดับที่เท่าไร จึงจะมีโอกาสกลับมาเป็นส.ส.อีกครั้ง ส่วนจะลำดับที่เท่าไร ก็อยู่ที่การวิเคราะห์ของกรรมบริหารพรรค
เมื่อถามว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาการวิดีโอลิงค์ถี่ขึ้นในหลายพื้นที่ ปชป.จะแก้เกมอย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความแตกต่างจากพรรคอื่นอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพรรคเดินหน้าตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ที่มีความชัดเจน โดยเฉพาะการเสนอตัวของหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเชื่อว่า ประชาชนอยากเห็นสิ่งที่พรรคได้ประกาศไว้หากกลับมาเป็นรัฐบาลจะทำงานต่อได้
**"ลูกเหนาะ"แย้มปชร.ทำงานร่วมพท.
นายสรวงศ์ เทียนทอง บุตรชายนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า พรรคประชาราช คงจะตัดสินใจเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างแน่นอนแล้วหลังจากภายในพรรคมีการหารือกัน รวมทั้งตนก็ได้พูดคุยกับนายเสนาะมาบ้างแล้ว
นายสรวงค์ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานอีกครั้ง เนื่องจากเห็นชัดเจนแล้วว่าพรรคเพื่อไทย กับกลุ่มคนเสื้อแดง ทำงานแยกออกจากกัน รวมทั้งระยะหลัง แกนนำกลุ่มนปช.ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่นำเรื่องสถาบันฯ มากล่าวอีก
ทั้งนี้ นายสรวงศ์ ระบุว่าพรรคเพื่อไทย ได้เสื้อแจ็คเก็ตของพรรค มาให้กับนายเสนาะกับตน ได้สวมใส่ในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และคาดว่าหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาในสัปดาห์หน้านี้ อย่างไรก็ ดีการร่วมกันทำงานทางการเมืองครั้งนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่เป็นการยุบพรรครวมกัน ชื่อพรรคประชาราชยังคงอยู่
นอกจากนี้นายสรวงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหลังเลือกตั้งแล้ว พรรคการเมืองขนาดเล็กจะอยู่ได้ยาก เหลือเพียง พรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์เท่านั้น ดังนั้นจึงตัดสินใจอยู่กับเพื่อไทย แล้วค่อนข้างแน่นอนหากไม่มีอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้นอีก
**"ปุ" ชูนโยบาย 5 ส.สู้ศึกเลือกตั้ง
วานนี้( 8 พ.ค.) ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบรูณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ กล่าวถึงการเตรียมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าพรรครักษ์สันติ จะส่งผู้สมัครในพื้นที่กรุงเทพฯ ครบ 33 เขต ส่วนในภูมิภาค อาจจะไม่ครบทุกจังหวัดโดยให้โอกาสคนหน้าใหม่ลงสมัคร การเมืองไทยจะได้มีสีสัน และสร้างสรรค์มากขึ้น
ทั้งนี้พรรคจะชูนโยบาย 5 ส. คือ สามัคคี , สุจริต, สิ่งแวดล้อม, สัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเสียสละ และที่สำคัญอย่าทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วยการซื้อเสียง ซึ่งใครก็ตามที่พรรคพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว ทางพรรคจะไล่คนเหล่านั้นออกทันที โดยไม่รอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการ
ส่วนการที่พรรคการเมืองใหญ่ได้ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกันแล้วจะมีผลต่อการเลือกตั้งของพรรคหรือไม่นั้น ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า ทุกคนก็ทราบว่าการเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน มีการพลิกผันและเปลี่ยนแปลงเสมอ บางคนคุยกันไว้จับมือกันไว้ขอให้คอยดูว่าจะเกิดขึ้นตามนั้นหรือไม่
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า พรรครักษ์สันติไม่ใช้พรรคสำรองของพรรคเพื่อไทย หรือเป็นนอมินีเกี่ยวข้องกับใคร แต่ต้องการเป็นทางเลือกและทางออกของการเมืองมากกว่าจะเป็นทางตัน
**จี้"มาร์ค"เคลียร์ย้ายนอภ.เอื้อพรรคร่วม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย มีการโยกย้ายนายอำเภอ 300 กว่าคน ซึ่งมีกระแสข่าวเพื่อเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนการโยกย้ายครั้งนี้มาที่พรรคเพื่อไทย และมีนายอำเภอหลายๆ คนที่จะไม่เดินทางไปทำหน้าที่ตามที่ได้รับการโยกย้าย
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการโยกย้ายครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การทำเพื่อพวกพ้องของตัวเอง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี น่าจะแสดงบทบาทหน้าที่สักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่โยนไปให้กับกระทรวงมหาดไทย โดยอ้างว่าเพราะเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงมหาดไทย และเมื่อมีประชาชนร้องเรียนมา แต่หากนายอภิสิทธิ์ไม่ดำเนินการ ก็เหมือนว่านายอภิสิทธิ์ รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้
