“อรรถวิชช์” เย้ย “นช.แม้ว” นโยบายที่เสนอ ปชป.ทำหมดแล้ว ด้าน “บุรณัชย์” ไล่้เผาไทยให้ดูตัวเอง หวังใช้การเลือกตั้งออกกฎหมายนิรโทษกรรม “นช.แม้ว-แก๊งแดง” เตือนอย่าลืมพันธสัญญาที่ทำไว้กับ กกต.ขณะเดียวกัน เตรียมรวบรวมข้อมูลซื้อเสียงล่วงหน้าเขตเลือกตั้งที่ 28 ส่ง กกต.ดำเนินการ “องอาจ” เผยจัดสรรผู้สมัครพื้นที่ กทม.ลงตัวแล้ว เหลือเขตหนองจอก ที่ต้องทำโพล
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพฯ รองโฆษกด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทย เสนอมา พรรคประชาธิปัตย์คิด และได้ทำไปแล้ว เช่นนโยบายบัตรเครดิตเกษตรกร ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งเสนอมา ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำโครงการบัตรลดหนี้ ที่ออกให้ลูกค้าธนาคาร ธ.ก.ส.และธนาคารออมสิน ไปเมื่อปีที่แล้ว โครงการสินเชื่อวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง และแท็กซี่ราคาถูก ของ พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำไปแล้วในโครงการประชาวิวัฒน์ 9 ข้อ ดังนั้น การที่พ.ต.ท.ทักษิณออกมาประกาศนโยบายต่างๆ ก็ขอให้ประชาชน ชั่งน้ำหนักให้ดีว่า เป็นการเกทับกันและอยู่บนหลักความจริงหรือไม่
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีอำนาจนอกระบบเคลื่อนไหวไม่ให้มีการเลือกตั้ง ว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปดูตัวเอง และกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะใช้การเลือกตั้งเพื่อออกกฎหมายนิโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ และยังมีการใส่ร้ายอำนาจนอกระบบ สถาบันองคมนตรี และเหล่าทัพ ซึ่งผู้นำเหล่าทัพได้ยืนยันแล้วว่า หากพรรคการเมืองดำเนินการตามกฎหมาย เหล่าทัพก็รับได้รวมถึงการที่พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมากด้วย
ส่วนการเรียกร้องให้พรรคอันดับ 1 เป็นผู้ตั้งรัฐบาลนั้น ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.ในการเลือกนายกฯในสภา การที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องอย่างนี้ ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทำตามพันธะสัญญากับกกต.ที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสงบจะดีกว่า
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์ กล่าวหาว่า จะมีการใช้เงินที่ได้จากการทุจริตไปใช้ในการซื้อเสียงเลือกตั้งว่า ตนอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปดูว่าสาเหตุที่ทำให้บ้านเมืองถึงทางตัน เริ่มจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขายหุ้นชิน คอร์ป และมีการตรวจสอบพบว่ามีการซุกหุ้นและหนีภาษีจนถูกศาลตัดสินลงโทษในที่สุด แต่ก็มีการเคลื่อนไหวไม่ให้เอาผิดจนนำสู่การเรียกร้องกฎหมายนิรโทษกรรม ดังนั้นประชาชนต้องเลือกว่าพรรคใดทำให้บ้านเมืองเดินหน้าหรือถอยหลัง
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่รวบรวมเรื่องร้องต่อ กกต.เกี่ยวกับปัญหาที่ นายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 28 มีการให้ประชาชนนำบัตรประชาชนไปแสดงที่บ้านหลังหนึ่ง ในเขตบางบอน และมีการขู่ว่าสามารถตรวจสอบได้ว่าชาวบ้านใช้สิทธิลงคะแนนตรงตามที่รับปากไว้หรือไม่ ซึ่งความจริงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเลือกใคร ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่มีพ.ร.ฎ.ยุบสภา ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้สึกวิตก
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาการจัดสรรผู้สมัครในพื้นที่ กทม.ว่า จากเดิมที่มีปัญหาอยู่ 3 เขต ขณะนี้ได้ข้อสรุปไปแล้ว 2 เขต คือ เขต 2 ปทุมวัน บางรัก และ สาทร ที่พรรคจะส่ง ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ส.ส.กรุงเทพฯ ลงสมัคร และดัน น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ ขึ้นสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ
ส่วนเขต 30 บางแค พรรคจะส่ง นางอรอนงค์ คล้ายนก ส.ส.กรุงเทพฯ ลงสมัคร และดัน นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กรุงเทพฯ ขึ้นสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ ยังมีปัญหาในเขตที่ 19 หนองจอก ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องมีการทำโพลระหว่าง นายวสันต์ มีวงศ์ กับ น.ส.เบญญาภา เกษประดิษฐ ให้ชัดเจนก่อน