ASTVผู้จัดการรายวัน – สสปน.เล็งของบเพิ่ม บุกตลาดโดเมสติกไมซ์ จับกลุ่มเอ็กซิบิชั่น หวังดันตลาดโตต่อเนื่อง ล่าสุด เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ด้านตลาดโดเมสติกไมซ์ร่วมหารือ เสนอ 6 กลุ่มสินค้านิวโชว์จูงใจ กำหนดคลอด มิ.ย.นี้ ประเดิมจับกลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ในแผนการจัดทำงบประมาณประจำปี 2555 ของ สสปน. ได้เสนอของบประมาณเพื่อใช้ในการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภายในประเทศ รวมวงเงิน 70 ล้านบาท โดยมีแผนจัดทำนิวโชว์ หรือ การนำเสนอสินค้ากลุ่มใหม่ ที่เหมาะกับการเดินทางเพื่อจัดประชุมสัมมนา
รวมถึงเตรียมการจัดทำแผนงานส่งเสริมตลาดงานแสดงสินค้า หรือ เอ็กซิบิชั่น เพราะที่ผ่านมาเฉพาะตลาดโดเมสติก ยังไม่เคยส่งเสริมตลากเอ็กซิบิชั่นอย่างจริงจัง ขณะที่ สสปน. ได้มองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดนี้อย่างชัดเจนและยังเป็นตลาดที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดการหมุนเวียนเงินภายในประเทศได้อย่างจริงจัง
“เฉพาะแผนงานด้านเอ็กซิบิชั่น มีความเป็นไปได้ ที่จะต้อง ขอวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมจากที่เสนอขอไป 70 ล้านบาท ดังกล่าวข้างต้น เพราะเรามองศักยภาพหลายงานเอ็กซิบิชั่นในกรุงเทพฯ ที่สามารถขยายออกไปจัดยังต่างจังหวัดได้ ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มดำเนินการบ้างแล้ว เช่น งาน มอเตอร์โชว์ งานบุ๊กแฟร์ เป็นต้น โดยมองว่า งานเอ็กซิบิชั่นที่สสปน.จะส่งเสริมนี้จะช่วยเติมเต็มงานให้กับศูนย์ประชุมในภูมิภาค ที่ปัจจุบันมีตั้งอยู่ในหลายจังหวัด ซึ่งการทำงานจะร่วมทุกภาคส่วน ทั้งหอการค้าจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นต้น”
***เสนอ 6 เส้นทาง นิวโชว์ **
ทางด้านนายจิรุตต์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารรัฐกิจวิสาหกิจ ดูแลงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภายในประเทศ หรือ โดเมสติกไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า แผนการทำงาน จะเสนอ 6 กลุ่มสินค้าที่เป็นนิวโชว์ เพื่อโปรโมตตลาดโดเมสติกไมซ์ สำหรับปีงบประมาณ 2554-2555 ได้แก่ 1. กลุ่มเส้นทางประชุมและศึกษาดูงานในเส้นทางทางประวัติศาสตร์ 2. เส้นทางประชุมพร้อมสร้างประสบการณ์ชีวิต โดยร่วมกับหอการค้าจังหวัด จัดดูงาน เช่น งานการผลิตที่ฟาร์มโชคชัย 3.เส้นทางลักชัวรี่ สำหรับกลุ่มอินเซนทีฟ และ ผู้บริหาร เพื่อเป็นทางเลือกโน้มน้างคนไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศ โดยจะนำเสนอโปรดักส์และบริการที่เป็นระดับไฮเอนด์ เช่น
นอนโรงแรมโอเรียลเต็น เป็นต้น 4. เส้นทางการประชุมแบบมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชน หรือ ซีเอสอาร์ จะมีการจัดโปรแกรมการเดินทางแบบให้ผู้เดินทางมีส่วนร่วมในการลงแรงด้วยกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน 5.เส้นทางกรีนโปรดักส์ ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการรณรงค์เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และ 6. เส้นทางแอดเวนเจอร์ หรือ ผจญภัย ซึ่งเป็นเทรนด์การเดินทางที่เติบโตสูง
***เชิญผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกำหนดทิศทาง****
ทั้ง 6 กลุ่มสินค้าดังกล่าว สสปน. จะร่วมทำเวิร์คชอปกับจังหวัด เพื่อให้แต่ละจังหวัดได้สำรวจ พร้อมจัดทำแพกเกจการเดินทางที่ต้องสอดคล้องกับ 6 กลุ่มสินค้าดังกล่าว มานำเสนอ เพื่อดำเนินการด้านการตลาดเป็นลำดับต่อไป ล่าสุดได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการสูงด้านตลาดโดเมสติกไมซ์ มาร่วมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมโดเมสติกไมซ์ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดเอ็กซิบิชั่น แนวคิดการอัพเกรดงานคอนซูเมอร์แฟร์ให้มีในส่วนของเทรดแฟร์ด้วย เชิญผู้ซื้อและผู้ขายมาร่วมเจรจาธุรกิจ
นอกจากนั้นยังมีแผนจัดทำฐานข้อมูล เพื่อคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย สำหรับการเดินทางจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ โดยเริ่มที่กลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะมีการพัฒนาระบบการขายให้สามารถทำไดเร็กเซลล์ ได้ โดย 6 กลุ่มสินค้าที่กล่าวมา คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเสนอให้ภาคเอกชนนำไปเสนอขายได้ภายในเดือน มิ.ย.ศกนี้
อย่างไรก็ตามตลาดโดเมสติกไมซ์ในปี 2553 สร้างรายได้เป็นเงินหมุนเวียนภายในประเทศ 1.35 หมื่นล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์ที่ 2 ล้านคน โตจากปี 2552 ราว 25% สำหรับปี 2554 ตั้งเป้าเติบโต 30% เพิ่มเป็น 1.75 หมื่นล้านบาท จำนวน 2.5 ล้านคน ในที่นี้ ยังไม่นับรวมตลาดเอ็กซิบิชั่นที่ สสปน. มีแผนที่จะเริ่มดำเนินการส่งเสริงนับจากนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน จะทำให้ตลาดโดเมสติกไมซ์เติบโตอีกมากจากเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ในแผนการจัดทำงบประมาณประจำปี 2555 ของ สสปน. ได้เสนอของบประมาณเพื่อใช้ในการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภายในประเทศ รวมวงเงิน 70 ล้านบาท โดยมีแผนจัดทำนิวโชว์ หรือ การนำเสนอสินค้ากลุ่มใหม่ ที่เหมาะกับการเดินทางเพื่อจัดประชุมสัมมนา
รวมถึงเตรียมการจัดทำแผนงานส่งเสริมตลาดงานแสดงสินค้า หรือ เอ็กซิบิชั่น เพราะที่ผ่านมาเฉพาะตลาดโดเมสติก ยังไม่เคยส่งเสริมตลากเอ็กซิบิชั่นอย่างจริงจัง ขณะที่ สสปน. ได้มองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดนี้อย่างชัดเจนและยังเป็นตลาดที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดการหมุนเวียนเงินภายในประเทศได้อย่างจริงจัง
“เฉพาะแผนงานด้านเอ็กซิบิชั่น มีความเป็นไปได้ ที่จะต้อง ขอวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมจากที่เสนอขอไป 70 ล้านบาท ดังกล่าวข้างต้น เพราะเรามองศักยภาพหลายงานเอ็กซิบิชั่นในกรุงเทพฯ ที่สามารถขยายออกไปจัดยังต่างจังหวัดได้ ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มดำเนินการบ้างแล้ว เช่น งาน มอเตอร์โชว์ งานบุ๊กแฟร์ เป็นต้น โดยมองว่า งานเอ็กซิบิชั่นที่สสปน.จะส่งเสริมนี้จะช่วยเติมเต็มงานให้กับศูนย์ประชุมในภูมิภาค ที่ปัจจุบันมีตั้งอยู่ในหลายจังหวัด ซึ่งการทำงานจะร่วมทุกภาคส่วน ทั้งหอการค้าจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นต้น”
***เสนอ 6 เส้นทาง นิวโชว์ **
ทางด้านนายจิรุตต์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารรัฐกิจวิสาหกิจ ดูแลงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภายในประเทศ หรือ โดเมสติกไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า แผนการทำงาน จะเสนอ 6 กลุ่มสินค้าที่เป็นนิวโชว์ เพื่อโปรโมตตลาดโดเมสติกไมซ์ สำหรับปีงบประมาณ 2554-2555 ได้แก่ 1. กลุ่มเส้นทางประชุมและศึกษาดูงานในเส้นทางทางประวัติศาสตร์ 2. เส้นทางประชุมพร้อมสร้างประสบการณ์ชีวิต โดยร่วมกับหอการค้าจังหวัด จัดดูงาน เช่น งานการผลิตที่ฟาร์มโชคชัย 3.เส้นทางลักชัวรี่ สำหรับกลุ่มอินเซนทีฟ และ ผู้บริหาร เพื่อเป็นทางเลือกโน้มน้างคนไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศ โดยจะนำเสนอโปรดักส์และบริการที่เป็นระดับไฮเอนด์ เช่น
นอนโรงแรมโอเรียลเต็น เป็นต้น 4. เส้นทางการประชุมแบบมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชน หรือ ซีเอสอาร์ จะมีการจัดโปรแกรมการเดินทางแบบให้ผู้เดินทางมีส่วนร่วมในการลงแรงด้วยกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน 5.เส้นทางกรีนโปรดักส์ ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการรณรงค์เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และ 6. เส้นทางแอดเวนเจอร์ หรือ ผจญภัย ซึ่งเป็นเทรนด์การเดินทางที่เติบโตสูง
***เชิญผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกำหนดทิศทาง****
ทั้ง 6 กลุ่มสินค้าดังกล่าว สสปน. จะร่วมทำเวิร์คชอปกับจังหวัด เพื่อให้แต่ละจังหวัดได้สำรวจ พร้อมจัดทำแพกเกจการเดินทางที่ต้องสอดคล้องกับ 6 กลุ่มสินค้าดังกล่าว มานำเสนอ เพื่อดำเนินการด้านการตลาดเป็นลำดับต่อไป ล่าสุดได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการสูงด้านตลาดโดเมสติกไมซ์ มาร่วมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมโดเมสติกไมซ์ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดเอ็กซิบิชั่น แนวคิดการอัพเกรดงานคอนซูเมอร์แฟร์ให้มีในส่วนของเทรดแฟร์ด้วย เชิญผู้ซื้อและผู้ขายมาร่วมเจรจาธุรกิจ
นอกจากนั้นยังมีแผนจัดทำฐานข้อมูล เพื่อคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย สำหรับการเดินทางจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ โดยเริ่มที่กลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะมีการพัฒนาระบบการขายให้สามารถทำไดเร็กเซลล์ ได้ โดย 6 กลุ่มสินค้าที่กล่าวมา คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเสนอให้ภาคเอกชนนำไปเสนอขายได้ภายในเดือน มิ.ย.ศกนี้
อย่างไรก็ตามตลาดโดเมสติกไมซ์ในปี 2553 สร้างรายได้เป็นเงินหมุนเวียนภายในประเทศ 1.35 หมื่นล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์ที่ 2 ล้านคน โตจากปี 2552 ราว 25% สำหรับปี 2554 ตั้งเป้าเติบโต 30% เพิ่มเป็น 1.75 หมื่นล้านบาท จำนวน 2.5 ล้านคน ในที่นี้ ยังไม่นับรวมตลาดเอ็กซิบิชั่นที่ สสปน. มีแผนที่จะเริ่มดำเนินการส่งเสริงนับจากนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน จะทำให้ตลาดโดเมสติกไมซ์เติบโตอีกมากจากเป้าหมายที่ตั้งไว้