ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ข่าว "ครม.มาร์ค" ทิ้งทวนอนุมัติงบฯเป็นแสนล้าน ให้กับกระทรวงต่างๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคร่วมรัฐบาลกำกับดูแลอยู่ รวมทั้ง ทหาร ตำรวจ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
เป็นการเผยธาตุแท้นักการเมืองอย่างล่อนจ้อน ว่าในที่สุดก็ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง หวังผลในการหาเสียงเลือกตั้ง อย่างไร้ยางอาย
ขณะเดียวกันก็มีข่าวเล็กๆ ที่สื่ออาจมองข้ามไป คือเรื่องความเดือดร้อนของกลุ่มข้าราชการชั้นผู้น้อย ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ทำหนังสือร้องเรียนไปยังเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ว่าพวกเขาถูกเบี้ยวเงินค่าทำงานล่วงเวลา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายน รวมเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว
คนกลุ่มนี้ก็เปรียบเสมือนมนุษย์เงินเดือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้รายได้จากเงินเดือนที่ได้รับไม่เพียงพอต่อรายจ่าย จึงต้องอาศัยทำงานล่วงเวลา เพื่อจะได้มีรายได้เสริมในการนำมาเลี้ยงชีพตนเอง และครอบครัว
เมื่อสอบถามไปยังกองคลัง ก็ได้รับคำตอบว่า ขณะนี้งบประมาณในค่าทำงานล่วงเวลาได้หมดแล้ว และอยู่ระหว่างการทำเรื่องเสนอเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอแปลงงบ จากนั้นได้มีการทวงถามไปครั้งที่ 2 ก็ได้รับคำตอบว่า เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เซ็นต์อนุมัติแปลงงบเรียบร้อยแล้วและ อยู่ระหว่างการจัดสรรงบ เพื่อจะนำมาจ่ายค่าล่วงเวลา โดยระบุว่าจะออกช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่เงินดังกล่าวก็ยังไม่ออก จึงได้มีการทวงถามไปอีกก็ได้คำตอบว่า ได้มีการจัดสรรงบเรียบร้อยแล้วโดยขอเลื่อนการจ่ายเงินค่าล่วงเวลาออกไปต้นเดือนเมษายน โดยฝ่ายกองคลังอ้างว่า ให้จบไตรมาส 2 และขึ้นไตรมาส 3 จึงจะจ่ายค่าล่วงเวลา และก็ยังไม่ออกเช่นเดิม
ล่าสุดก่อนวันสงกรานต์ ได้มีการสอบถามไปยังกองคลังอีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบว่า อยู่ในช่วงการหางบมาแปลง บอกปัด ผลัดไปเรื่อย จึงต้องทำหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบ ทวงถามให้ด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่มีผู้บังคับบัญชา หรือข้าราชการระดับสูง ลงมาดูแลเลย
ยิ่งมีข่าวครม.ทิ้งทวนกันเป็นแสนล้าน แต่เงินค่าทำงานล่วงเวลาเพียงน้อยนิดของคนที่ทำงานในทำเนียบรัฐบาล กลับไม่มีวี่แววว่าจะได้รับ ย่อมสร้างความเจ็ยช้ำน้ำใจ เหมือน"ใกล้เกลือ กินด่าง "
เรื่องนี้ผู้สันทัดกรณี ในทำเนียบรัฐบาลให้ความเห็นว่า พวกลูกจ้างและพนักงานราชการกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ได้เข้ามาทำงานในช่วงที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อนายกอร์ปศักดิ์ ลาออกไปเป็นประธานยุทธศาสตร์ นโยบายเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วนางอัญชลี วานิช เทพบุตร มาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็รับเอาคนของตัวเองเข้ามาอยู่ในทีมงานแทน
กลุ่มที่เป็นคนของนายกอร์ปศักดิ์ จึงมีสภาพเหมือนถูกลอยแพ จนต้องออกมาร้องเรียน ประจานธาตุแท้ของผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ !!