บุรีรัมย์ - ญาติแรงงานในลิเบีย จังหวัดบุรีรัมย์ ยังแห่ยื่นร้องขอความช่วยเหลือจี้รัฐบาลเร่งช่วยแรงงานตกค้างร่วม 400 ราย ส่วนแรงงานที่เดินทางกลับแล้วเข้าขอรับเงินช่วยเหลือ 15,000 บาท ที่จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะหลายคนร้องขอให้ช่วยติดตามเงินค้างจ่ายจากบริษัทนายจ้าง และค่าล่วงเวลาที่ทำงานเกินสัญญา
วันนี้ (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ครอบครัวและญาติแรงงานใน จ.บุรีรัมย์ ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเดินทางกลับจากประเทศลิเบีย และแรงงานที่ได้รับการช่วยเหลืออพยพเดินทางกลับมาแล้ว 98 ราย ยังเดินเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ และยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือค่าเดินทางคนละ 1,500 บาท ร่วมทั้งเงินช่วยเหลือจากกระทรวงแรงงานจำนวน 15,000 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
จากที่มีแรงงานในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ไปทำงานประเทศลิเบียทั้งหมด 480 คน มีญาติเข้าร้องขอความช่วยเหลือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งกรณีติดต่อได้และไม่ได้แล้วกว่า 400 ราย ในส่วนนี้ได้มีแรงงานได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และบริษัทนายจ้างเดินทางกลับบ้าน ทั้งทางเรือและเครื่องบินแล้ว 98 ราย และ อีก 32 ราย ยังไม่เข้ามาแจ้งขอรับความช่วยเหลือที่จัดหางาน
ทั้งนี้ ส่วนมากญาติพี่น้องและครอบครัวแรงงานต้องการให้รัฐบาล และบริษัทนายจ้างได้ให้ความช่วยเหลือในการเดินทางกลับ พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัย ที่พัก อาหารให้กับแรงงานที่ยังไม่ได้เดินทางกลับ หลังญาติและครอบครัวที่ได้มีการติดต่อสื่อสารกับแรงงาน ที่ประเทศลิเบีย บางรายกำลังขาดแคลนอาหาร ไม่มีความปลอดภัย และบางรายไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีแรงงานจ.บุรีรัมย์ ที่ยังไม่เดินทางกลับร่วม 400 ราย
ด้าน นายอิทธิ คงวีระวัฒน์ จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ชี้แจ้งกับญาติครอบครัวแรงงาน และแรงงานส่วนหนึ่งที่ได้รับการช่วยเหลือเดินทางบ้านแล้ว ว่า ทางรัฐบาลและบริษัทนายจ้างกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือแรงงานให้ได้เดินทางกลับอยู่ ส่วนเงินช่วยเหลือเป็นค่าเดินทางกลับหลังมาถึงเมืองไทยแล้วและเงินช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศอีก 15,000 บาทนั้น ขอให้แรงงานมาเขียนคำร้องที่จัดหางานจังหวัดเพื่อที่จะนำข้อมูลหลักฐานส่งให้สำนักงานกระทรวงแรงงานซึ่งจะได้รับภายใน 3 วัน หลังจากยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือ
ทางด้าน นายมนตรี สมพงษ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 338/1 ม.11 ต.ไทยเจริญ อ.ปะคำ แรงงานที่กลับจากประเทศลิเบีย กล่าวว่า หลังได้รับการช่วยเหลือเดินทางกลับจากลิเบีย เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินค่าเดินทาง 1,500 บาท และเงินจากกองทุนฯ 15,000 บาท จึงได้เข้ามายื่นคำร้องขอรับเงินในวันนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าจะได้รับเงินในวันศุกร์ 11 มี.ค.ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งติดตามเงินค่าจ้างค้างจ่ายจากบริษัทนายจ้างให้โดยเร็วด้วย เพราะครอบครัวเดือดร้อนมีหนี้สิน รวมทั้งให้ช่วยติดตามเงินค่าล่วงเวลาให้ด้วย เพราะตามสัญญาที่ระบุไว้ให้ทำงาน 8 ชั่วโมง แต่เมื่อไปถึงลิเบียกลับได้ทำงานเพิ่มเป็นวันละ 12 ชั่วโมง นายมนตรี กล่าว
