ทอท. เผย Q1/54 กำไรสุทธิเหลือ 682.93 ล้านบาท ลดลง 115.12 ล้านเทียบกับQ1/53 เหตุมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการจากสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมือง พร้อมทุ่มงบ 12 ล้านบาทจ่ายค่าล่วงเวลาตม.แก้ปัญหาคิวยาวชั่วโมงคับคั่ง ในเวลา 4 เดือน(ก.พ.-พ.ค.) พร้อมวางแผนระยะสั้น,กลาง,ยาว แก้ทั้งระบบ มั่นใจคุมคิวตม.รอไม่เกิน24 นาทีตามข้อตกลง
วานนี้ (14 ก.พ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ได้แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2554 (1 ต.ค.53-31ธ.ค.54) โดยมีกำไรสุทธิ 682.93 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส1/53 จำนวน 115.12 ล้านบาทหรือ 14.43% กำไรสุทธิต่อหุ้น0.48 บาท ลดลงจากไตรมาส1/53 ที่มีกำไรต่อหุ้น 0.56 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 6,548.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.22 ล้านบาท หรือ5.26% มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 4,878.48 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 53.36 ล้านบาทหรือ1.11% มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 1,670..38 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 273.87 ล้านบาท หรือ 19.61%
ทั้งนี้ ทอท.ระบุว่ามีรายได้จากกิจการที่เกี่ยวกับกิจการบินไตรมาสที่ 1 /54 จำนวน 3,907.37 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 449.79 ล้านบาท หรือ 13.01% เนื่องจากปริมาณการจราจรของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งเพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนเที่ยวบิน,ผู้โดยสารและปริมาณสินค้า ในขณะที่รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบินมี 2,641.49 ล้านบาท ซึ่งลดลง 122.57 ล้านบาทหรือ4.43% เนื่องจากมาตรการการให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้ง ทางการเมืองภายในประเทศช่วงเดือนเม.ย.-ธ.ค.53 โดยทอท.จะเรียกเก็บเฉพาะค่าตอบแทนเป็นร้อยละของยอดขายตามสัญญาและยกเว้นการเรียกเก็บค่าตอบแทนขั้นต่ำ
ส่วนผู้ประกอบการรายที่ได้รับอนุญาตให้เข้าดำเนินงานตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ต้องรอมติครม.ให้ความเห็นชอบก่อนจึงจะได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการได้ ดังนั้นทอท.จึงบันทึกรับรู้รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ของผู้ประกอบการดังกล่าวในไตรมาสที่1/53
ตามรายได้ขั้นต่ำตามสัญญาและบันทึกปรับลดรายได้ตามที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการขั้นต้นในไตรมาสที่ 2/53 หลังจากได้รับความเห็นชอบจากครม.แล้ว จึงเป็นสาเหตุให้รายได้ไตรมาสที่ 1/53 สูงเกินความจริงประกอบกับปี 53 ทอท.มีมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการทำให้รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบินในไตรมาสที่ 1/54 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) วานนี้ (14 ก.พ.) ว่า ทอท.ได้ร่วมมือกับสตม.ในการแก้ปัญหาการและเพิ่มความสะดวกแก่ผู้โดยสารสามารถเดินทางผ่านขั้นตอนต่างๆ ภายใน ทสภ.ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินคับคั่ง โดยฝ่ายบริหารทอท.ได้อนุมัติในหลักการกรอบวงเงิน 12 ล้านบาทในโครงการรองรับบุคลากรค่าล่วงเวลาของตม.ในเวลา 4 เดือน (ก.พ.-พ.ค.)
ทั้งนี้เพื่อให้ตม.สามารถเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำเคาน์เตอร์ตม.ในช่วงเวลาคับคั่งในแต่ละวัน ได้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งแบ่งเป็น ช่วง ขาเข้า 4 ช่วง และ ขาออก 4 ช่วง โดยทอท.และตม.ได้ตกลง มาตรฐานการให้บริการตรวจคนเข้าเมืองทั้งขาเข้าและขาออกไว้ไม่เกิน 24 นาที แต่ที่ผ่านมามีปัญหาผู้โดยสารต้องรอคิวนานเกิน 24 นาทีในช่วงเที่ยวบินคับคั่ง แต่เชื่อว่าหลังจากมีการทำแผนแก้ปัญหาหน้าและแผนระยะสั้น,กลางและยาวร่วมกันจะทำให้แก้ปัญหาได้อย่างถาวร
วานนี้ (14 ก.พ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ได้แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2554 (1 ต.ค.53-31ธ.ค.54) โดยมีกำไรสุทธิ 682.93 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส1/53 จำนวน 115.12 ล้านบาทหรือ 14.43% กำไรสุทธิต่อหุ้น0.48 บาท ลดลงจากไตรมาส1/53 ที่มีกำไรต่อหุ้น 0.56 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 6,548.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.22 ล้านบาท หรือ5.26% มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม 4,878.48 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 53.36 ล้านบาทหรือ1.11% มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 1,670..38 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 273.87 ล้านบาท หรือ 19.61%
ทั้งนี้ ทอท.ระบุว่ามีรายได้จากกิจการที่เกี่ยวกับกิจการบินไตรมาสที่ 1 /54 จำนวน 3,907.37 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 449.79 ล้านบาท หรือ 13.01% เนื่องจากปริมาณการจราจรของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งเพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนเที่ยวบิน,ผู้โดยสารและปริมาณสินค้า ในขณะที่รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบินมี 2,641.49 ล้านบาท ซึ่งลดลง 122.57 ล้านบาทหรือ4.43% เนื่องจากมาตรการการให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้ง ทางการเมืองภายในประเทศช่วงเดือนเม.ย.-ธ.ค.53 โดยทอท.จะเรียกเก็บเฉพาะค่าตอบแทนเป็นร้อยละของยอดขายตามสัญญาและยกเว้นการเรียกเก็บค่าตอบแทนขั้นต่ำ
ส่วนผู้ประกอบการรายที่ได้รับอนุญาตให้เข้าดำเนินงานตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ต้องรอมติครม.ให้ความเห็นชอบก่อนจึงจะได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการได้ ดังนั้นทอท.จึงบันทึกรับรู้รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ของผู้ประกอบการดังกล่าวในไตรมาสที่1/53
ตามรายได้ขั้นต่ำตามสัญญาและบันทึกปรับลดรายได้ตามที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการขั้นต้นในไตรมาสที่ 2/53 หลังจากได้รับความเห็นชอบจากครม.แล้ว จึงเป็นสาเหตุให้รายได้ไตรมาสที่ 1/53 สูงเกินความจริงประกอบกับปี 53 ทอท.มีมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการทำให้รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบินในไตรมาสที่ 1/54 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) วานนี้ (14 ก.พ.) ว่า ทอท.ได้ร่วมมือกับสตม.ในการแก้ปัญหาการและเพิ่มความสะดวกแก่ผู้โดยสารสามารถเดินทางผ่านขั้นตอนต่างๆ ภายใน ทสภ.ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินคับคั่ง โดยฝ่ายบริหารทอท.ได้อนุมัติในหลักการกรอบวงเงิน 12 ล้านบาทในโครงการรองรับบุคลากรค่าล่วงเวลาของตม.ในเวลา 4 เดือน (ก.พ.-พ.ค.)
ทั้งนี้เพื่อให้ตม.สามารถเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำเคาน์เตอร์ตม.ในช่วงเวลาคับคั่งในแต่ละวัน ได้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งแบ่งเป็น ช่วง ขาเข้า 4 ช่วง และ ขาออก 4 ช่วง โดยทอท.และตม.ได้ตกลง มาตรฐานการให้บริการตรวจคนเข้าเมืองทั้งขาเข้าและขาออกไว้ไม่เกิน 24 นาที แต่ที่ผ่านมามีปัญหาผู้โดยสารต้องรอคิวนานเกิน 24 นาทีในช่วงเที่ยวบินคับคั่ง แต่เชื่อว่าหลังจากมีการทำแผนแก้ปัญหาหน้าและแผนระยะสั้น,กลางและยาวร่วมกันจะทำให้แก้ปัญหาได้อย่างถาวร