ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยผันผวนจัด จากแรงเทขายทำกำไรต่างชาติ-สถาบัน-พอร์ตโบรกฯ ก่อนพลิกกลับบวก 3.54 จุด พร้อมหากยุบสภาตลาดหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวก
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4เม.ย.) ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,073.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ 0.33% มูลค่าการซื้อขาย 31,601.08 ล้านบาท ตลอดทั้งวันมีแรงถูกขายทำกำไรเช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์ หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ประกอบกับตลาดฯขาดปัจจัยใหม่เข้ามาขับเคลื่อน
ทั้งนี้ พบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,660.91 ล้านบาท สถาบันขาย 219.54 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 720.57 ล้านบาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวานนี้ผันผวนในกรอบแคบ สาเหตุหลักมาจากสินค้าโภคภัณฑ์ถูกขายทำกำไร หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า จึงส่งผลต่อการลงทุนในหุ้น ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรออกมาเช่นเดียวกัน ประกอบกับ ช่วงนี้ตลาดฯยังขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาขับเคลื่อน
สำหรับปัจจัยในประเทศ เรื่องการเลือกตั้งใหม่ยังไม่ชัดเจน หลังนายกฯยังไม่ได้มีการทูลเกล้าฯยุบสภา อย่างไรก็ตามการที่ผลประกอบการไตรมาส 1/54 ของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ออกมาค่อนดีช่วยพยุงตลาดฯไว้ทำให้ แนวโน้มการลงทุนในวันศุกร์นี้(6เม.ย.) ดัชนีน่าจะไซต์เวย์ เนื่องจากเป็นวันทำการวันสุดท้ายของสัปดาห์ และต้องติดตามว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงหลังนายโอซามา บิน ลาเดน เสียชีวิตหรือไม่ นอกจากนี้ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,068 จุด แนวต้าน 1,077 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ประเมินดัชนีหุ้นไทยเดือน พ.ค.นี้ น่าจะแกว่งอยู่ใกรอบ 1,060-1,115 จุด โดยแนวโน้มวันศุกร์ที่ 6 พ.ค.54 หากมีการประกาศยุบสภา เชื่อว่าตลาดหุ้นจะมีการตอบสนองในทิศทางบวก และเป็นการสยบข่าวการปฏิวัติ ประกอบกับสัปดาห์หน้ามีปัจจัยสนับสนุนในการจัดงานมันนี่เอ็กซโป ส่วนประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชาคงยังไม่ยุติ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4เม.ย.) ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,073.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ 0.33% มูลค่าการซื้อขาย 31,601.08 ล้านบาท ตลอดทั้งวันมีแรงถูกขายทำกำไรเช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์ หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ประกอบกับตลาดฯขาดปัจจัยใหม่เข้ามาขับเคลื่อน
ทั้งนี้ พบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,660.91 ล้านบาท สถาบันขาย 219.54 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 720.57 ล้านบาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวานนี้ผันผวนในกรอบแคบ สาเหตุหลักมาจากสินค้าโภคภัณฑ์ถูกขายทำกำไร หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า จึงส่งผลต่อการลงทุนในหุ้น ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรออกมาเช่นเดียวกัน ประกอบกับ ช่วงนี้ตลาดฯยังขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาขับเคลื่อน
สำหรับปัจจัยในประเทศ เรื่องการเลือกตั้งใหม่ยังไม่ชัดเจน หลังนายกฯยังไม่ได้มีการทูลเกล้าฯยุบสภา อย่างไรก็ตามการที่ผลประกอบการไตรมาส 1/54 ของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ออกมาค่อนดีช่วยพยุงตลาดฯไว้ทำให้ แนวโน้มการลงทุนในวันศุกร์นี้(6เม.ย.) ดัชนีน่าจะไซต์เวย์ เนื่องจากเป็นวันทำการวันสุดท้ายของสัปดาห์ และต้องติดตามว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงหลังนายโอซามา บิน ลาเดน เสียชีวิตหรือไม่ นอกจากนี้ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,068 จุด แนวต้าน 1,077 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ประเมินดัชนีหุ้นไทยเดือน พ.ค.นี้ น่าจะแกว่งอยู่ใกรอบ 1,060-1,115 จุด โดยแนวโน้มวันศุกร์ที่ 6 พ.ค.54 หากมีการประกาศยุบสภา เชื่อว่าตลาดหุ้นจะมีการตอบสนองในทิศทางบวก และเป็นการสยบข่าวการปฏิวัติ ประกอบกับสัปดาห์หน้ามีปัจจัยสนับสนุนในการจัดงานมันนี่เอ็กซโป ส่วนประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชาคงยังไม่ยุติ