xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.ขยับค่าก๊าซฯ ดันรายได้ปิโตรQ2เจ๋ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.ลั่นราคาขายปิโตรเลียมในไตรมาส 2นี้ดีกว่าไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบสูงและปรับราคาขายก๊าซฯในแหล่งบงกช ยาดานาและเยตากุลเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการขายปิโตรเลียมใกล้เคียงไตรมาส 1/54ที่ระดับ 2.71 แสนบาร์เรล/วัน ยอมรับการเลื่อนผลิตที่แหล่งมอนทารา ส่งผลให้เป้าหมายการขายปิโตรเลียมที่ 2.73 แสนบาร์เรล/วันพลาดเป้าเล็กน้อย

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่าแนวโน้มราคาขายปิโตรเลียมในไตรมาส 2 นี้จะดีกว่าไตรมาส 1/2554 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังสูงอยู่และบริษัทฯจะปรับขึ้นราคาขายก๊าซธรรมฃาติตามสัญญาซื้อขายก๊าซฯจากแหล่งบงกชที่อ่าวไทย แหล่งเยตากุลและแหล่งยาดานาที่สหภาพพม่ามาตั้งแต่เม.ย.นี้ ขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซฯในประเทศสูงขึ้นจากโรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 ที่ผลิตเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/2554 ปริมาณการจำหน่ายปิโตรเลียมจะใกล้เคียงไตรมาส 1/2554 ที่อยู่ระดับ 2.71 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน

นายอนนต์ กล่าวยอมรับว่า การเลื่อนแผนผลิตปิโตรเลียมในแหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลียในปลายปีนี้ เป็นไตรมาส 1/2555 ทำให้เป้าหมายการขายปิโตรเลียมในปีนี้ปรับลดลงเล็กน้อย จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายการขายปิโตรเลียมไว้ที่ 2.73 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน แม้ว่าจะมีการเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมที่แหล่งเจดีเอ และแหล่งสิริกิติ์ (S1)ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 2.2หมื่นบาร์เรล/วันเป็น 2.5 หมื่นบาร์เรล/วันก็ตามแต่บริษัทฯไม่ค่อยกังวลกับปริมาณการขายปิโตรเลียมที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะจะเน้นยอดขายในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐมากกว่า

นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันที่แหล่งออยล์ แซนด์ KKD ที่แคนาดาในไตรมาส 2 นี้ คาดว่าราคาขายน้ำมันหนักหรือDilbitจะสูงขึ้นกว่าไตรมาส 1 /2554 ที่จำหน่ายในราคา 56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากDilbitที่ผลิตได้เป็นน้ำมันออฟสเปค แต่ไตรมาสนี้ Dilbitที่ผลิตได้สเปคดีขึ้นทำให้ล่าสุดจำหน่ายที่ระดับราคา 86 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยปีนี้แหล่งออยล์ แซนด์ KKDจะผลิตน้ำมันได้เฉลี่ย 1หมื่นบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 7.9 พันบาร์เรล/วัน

จากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศ ทำให้บริษัทฯต้องเร่งรัดการผลิตเพิ่มขึ้นในโครงการต่างๆ โดยโครงการบงกชใต้ในอ่าวไทย ซึ่ง ปตท.สผ. ถือหุ้นอยู่ 44.4445% คาดว่าจะเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมถึง 6 เดือน ส่วนโครงการเวียดนาม 16-1 ซึ่ง ปตท.สผ.ถือหุ้นอยู่ 28.5%
คาดว่าน่าจะเริ่มผลิตน้ำมันดิบได้ในเดือนสิงหาคม-กันยายนปีนี้ ในอัตราการผลิตสูงสุดที่ประมาณ 40,000 บาร์เรล/วัน

สำหรับโครงการผลิต Floating Liquefied Natural Gas หรือ FLNG ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประเมินประมาณสำรองปิโตรเลียมของ แหล่ง Cash/Maple ในประเทศออสเตรเลีย หากมีประมาณสำรองปิโตรเลียมมากกว่า1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตจึงจะพัฒนาโครงการนี้ โดยคาดว่าในปลายปีนี้จะเริ่มเห็นความชัดเจน และตัดสินใจลงทุนในปีหน้า ส่วนโครงการลงทุนที่แอลจีเรียเนื่องจากนโยบายรัฐบาลแอลจีเรียเปลี่ยนแปลงไปทำให้บริษัทฯต้องพิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้งว่าหากมีการลงทุนจะเหมาะสมหรือไม่

นายอนนต์ กล่าวต่อไปว่าแผนการหาพันธมิตรเข้าร่วมโครงการปิโตรเลียมในสหภาพพม่าว่า บริษัทฯจะพิจารณาหาผู้ร่วมทุนรายใหม่เข้ามาร่วมทุนเป็นรายโครงการไปจากเดิมที่จะหาผู้ร่วมทุนเป็นแบบแพคเกิจ คือให้พันธมิตรถือหุ้นทั้ง 5แปลงที่ปตท.สผ.ได้สัมปทาน คือ แหล่งM3 M4 M7 M9 และM11 แต่ล่าสุด ปตท.สผ. ได้มีการคืนพื้นที่การสำรวจในแปลง M4 ไปแล้ว เนื่องจากบริษัทฯเห็นว่าโครงการ M9เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะผลิตก๊าซฯได้ในปี 2556 ดังนั้น หากไม่มีข้อเสนอที่ดีจากผู้ร่วมทุนรายใหม่ ปตท.สผ.ก็อาจจะถือหุ้น 100% ต่อไปในการดำเนินโครงการนี้

ส่วนโครงการที่ต้องการหาผู้ร่วมทุนรายใหม่เข้ามา คือ โครงการ M11 เนื่องจากเป็นแหล่งปิโตรเลียมน้ำลึก จึงต้องการผู้ถือหุ้นที่มีความชำนาญ หรือมีเทคโนโลยี ในการผลิตปิโตรเลียมน้ำลึก เข้ามาร่วมลงทุนเพื่อที่ลดความเสี่ยงในการลงทุน

นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาก๊าซฯที่ปรับขึ้นในไตรมาสนี้คาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 5%ของราคาจำหน่ายที่ระดับราคาขายที่ 5.60 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู โดยคิดเป็นปริมาณการปรับขึ้นราคาก๊าซฯจะอยู่ที่กว่า 20%ของปริมาณก๊าซฯที่จำหน่ายทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น