xs
xsm
sm
md
lg

คนชายแดนบุรีรัมย์ผวาปืนใหญ่เขมร ไม่กล้าออกกรีดยางหลังอพยพกลับบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงภัยแนวชายแดน บ้านสายโท 12 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่กลับเข้าบ้านเป็นวันแรกหลังปิดศูนย์อพยพ ยังหวาดผวาไม่มั่นใจในความปลอดภัยและไม่กล้าไปกรีดยาง วานนี้ (3 พ.ค.)
บุรีรัมย์/ตราด-ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดน อำเภอบ้านกรวด บุรีรัมย์ ที่กลับเข้าไปใช้ชีวิตในบ้านตัวเองเป็นวันแรก หลังปิดศูนย์อพยพ ยังหวาดผวาไม่มั่นใจในความปลอดภัยและไม่กล้าเข้ากรีดยาง หวั่นอันตรายจากเหตุปะทะและลูกกระสุนปืนใหญ่เขมรตกในพื้นที่ยังไม่ระเบิด ร้องรัฐเร่งสร้างหลุมหลบภัยได้มาตรฐานในหมู่บ้าน ด้าน อบต.แหลมกลัด เมืองตราดควักงบกว่า 3 แสนบาทสร้างหลุมหลบภัย 29 แห่งตลอดแนวชายแดนหลังสถานการณ์ด้านสุรินทร์ไม่น่าไว้วางใจ

วานนี้(3 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศปิดศูนย์อพยพผู้ประสบภัยการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 9 ศูนย์เและอนุญาตให้ชาวบ้านเดินทางกลับบ้านเรือนทั้งหมดเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ล่าสุดจากการเข้าไปสำรวจบรรยากาศในหมู่บ้านสายโท 12 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด ซึ่งเป็น 1 ใน 29 หมู่บ้านที่ลี้ภัยการสู้รบระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชาเข้าไปพักพิงอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวต่างๆ ที่ทางอำเภอบ้านกรวดจัดเตรียมไว้รองรับ เนื่องจากมีลูกกระสุนปืนใหญ่จากการปะทะตกใส่บริเวณสวนยางพาราหลายลูก ทำให้ต้นยางได้รับความเสียหายหลายสิบต้น

โดยชาวบ้านที่กลับเข้ามาใช้ชีวิตที่บ้านของตัวเองเป็นวันแรก หลังต้องลี้ภัยอยู่ที่ศูนย์อพยพมานานถึง 11 วัน ต่างยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังไม่มั่นในความปลอดภัย โดยเฉพาะชาวบ้านที่มีอาชีพทำสวนยางพารา ยังไม่กล้าเข้าไปกรีดยาง เพราะเกรงจะเกิดเหตุปะทะขึ้นอีก ทั้งเกรงจะได้รับอันตรายจากกระสุนปืนใหญ่ที่ตกเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งบางลูกอาจยังไม่ระเบิด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเคลียร์พื้นที่ และเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือลูกกระสุนปืนใหญ่ที่อาจยังหลงเหลือให้เรียบร้อยก่อน จึงจะเข้าไปกรีดยางตามปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้ทางจังหวัดบุรีรัมย์จะอนุญาตให้กลับเข้าบ้านแต่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ ที่ยังไม่น่าไว้วางใจและล่าสุดวานนี้ (3 พ.ค.) ยังมีเสียงปืนปะทะกันเกิดขึ้นที่บริเวณชายแดนปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จึงให้ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) อาสารักษาดินแดน (อส.) และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เฝ้าติดตามสถานการณ์และดูแลรักษาความปลอดภัย อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามหมู่บ้าน จนกว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนจะคลี่คลายหรือเข้าสู่สภาวะปกติ

นายสมพงษ์ ลับพะโส อายุ 42 ปี ชาวบ้าน บ้านสายโท 12 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ถึงแม้ทางราชการอนุญาตให้กลับเข้ามาใช้ชีวิตตามปกติที่บ้านได้แล้ว แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะหมู่บ้านตั้งอยู่ห่างจากตะเข็บชายแดนเพียง 5 กิโลเมตร ซึ่งใกล้ระยะวิถีกระสุน จึงอยากเรียกร้องให้ทางภาครัฐได้เร่งเข้ามาก่อสร้างหลุมหลบภัยที่มีมาตรฐานภายในหมู่บ้านอย่างน้อย 5-6 หลุมเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านหากเกิดเหตุปะทะขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ในหมู่บ้านไม่มีหลุมหลบภัย มีเพียงที่โรงเรียน และสถานีอนามัย หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้าน

"แหลมกลัด"ใช้งบกว่า3แสน
สร้างหลุ่มหลบภัย29แห่ง

ด้านนายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด เปิดเผยว่า ทาง อบต.แหลมกลัดได้จัดทำงบประมาณกว่า 300,000 บาทเพื่อดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัย 29 แห่ง ซ่อมแซมอีก 2 แห่ง เพื่อใช้เป็นแหล่งป้องกันภัย หากมีการสู้รบกันขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชาด้าน จ.ตราด หลังจากสถานการณ์สู้รบด้านชายแดนใน จ.สุรินทร์ ยังมีแนวโน้มที่จะขยายพื้นที่มายังจังหวัดชายแดนอื่นๆ ด้วย ซึ่งในพื้นที่ อบต.แหลมกลัด มีหมู่บ้านประกอบด้วยบ้านท่าเส้น บ้านคลองสน บ้านนาเกลือ บ้านสะพานหิน บ้านเขาล้าน ติดต่อกับ จังหวัดโพธิสัต ประเทศกัมพูชา และเคยเป็นพื้นที่สู้รบของไทย-กัมพูชาในอดีต หากไม่มีการดำเนินการในขณะนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

โดยทาง อบต.แหลมกลัด ได้ประกวดราคาไปแล้วและจะสามารถดำเนินการได้เร็วๆ นี้ และจะใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ก็จะทำแล้วเสร็จ ทั้งนี้ อบต.แหลมกลัด ต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด แม้จะไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นในพื้นที่แต่ก็เป็นการเตรียมความพร้อมไว้ก่อน

ขณะเดียวกันปัจจุบันบ้านท่าเส้น จะเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรเชื่อมกับบ้านทมอดา อ.เวียงเวง จ.โพธิสัต ประเทศกัมพูชา ซึ่งที่บ้านทมอดา กำลังมีการก่อสร้างศูนย์การค้าชายแดนที่มีนักลงทุนไทย-กัมพูชาร่วมลงทุนจะมีทั้งโรงแรม กาสิโน และเป็นตลาดซื้อขายสินค้าระหว่าง 2 จังหวัดด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น