xs
xsm
sm
md
lg

โลกออนไลน์หนุน“โหวตโน” แซงปชป.-การเมืองน้ำเน่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯ ชูโพลออนไลน์ “โหวตโน” แซงหน้า ปชป.-การเมืองน้ำเน่า สัญญาณสะท้อนประชาชนอยากเห็นการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ รณรงค์สั่งสอนนักการเมือง “มาร์ค” แย้มอีกยุบสภาไม่ 6 ก็ 7 พ.ค. ส่วนศาล รธน.เชื่อกม.ลูก3 ฉบับฉลุย ด้าน “กกต.” นัดถกการเมืองวันนี้ เรียกร้องร่วมทำสัตยาบันเลือกตั้ง

วานนี้ (1 พ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในการแถลงข่าวประจำต่อสื่อมวลชนถึงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในหัวข้อ “ถ้าเลือกตั้งวันนี้คุณจะเลือกพรรคใด” ทางหน้าเว็บไซต์ของเอ็มเอสเอ็น ประเทศไทย (th.msn.com) ว่า ขณะนี้พบว่าประชาชนที่ประสงค์จะไม่ลงคะแนนให้ใคร หรือ โนโหวต มีคะแนนเป็นอันดับ 1 โดยมีพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับที่ 2 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในอันดับที่ 3 แสดงให้เห็นว่าคนไทยในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นผู้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และใช้เทคโนโลยี ต่างมีความเห็นว่าประเทศไทยต้องมีการเปลี่ยนแปลง และยังมีแนวโน้มที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความรู้สึกในทำนองเดียวกันว่าการเมืองตอนนี้ไม่ใช่คำตอบ และจำเป็นต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่

**ฉะ“มาร์ค”ให้เลือกคนเลวน้อยที่สุด

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ถึงการรณรงค์โหวตโนของกลุ่มพันธมิตรฯว่า เป็นการเสียโอกาส รู้สึกเสียดายที่คะแนนจะหายไปเฉยๆ เพราะคะแนนโหวตโนไม่มีผลทางกฎหมาย นายปานเทพ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการรณรงค์ของเราไม่ได้ต้องการหวังผลทางกฎหมาย แต่จะเป็นการส่งสัญญาณให้นักการเมือง และผู้มีอำนาจในประเทศนี้ว่า ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายทางการเมือง และไม่ต้องการให้นักการเมืองนำสิทธิของพวกเขาไปใช้แอบอ้างในการทำร้ายประเทศ ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล ในการโกงบ้านกินเมือง ทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ส่วนฝ่ายค้านก็กลายเป็นเสียงข้างน้อยที่ยอมรับคะแนนในระบบ และยอมจำนนกับเสียงข้างมาก

“ส่วนเสียงที่ไม่ต้องการจะเลือกใคร เป็นการสงวนสิทธิ์ของประชาชนที่พร้อมจะคัดค้านความประพฤติของนักการเมืองที่ไม่ชอบและต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งระบบ” นายปานเทพ กล่าว

โฆษกพันธมิตร ยังได้กล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์ขอให้ประชาชนพิจารณาเลือกพรรคที่ดีที่สุดหรือเลวน้อยที่สุดมาเป็นผู้บริหารประเทศนั้น ว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองที่เลวมากหรือน้อย หากนายอภิสิทธิ์ตระหนักดีว่ามีความเลวด้วยกันทั้งคู่ จึงไม่สมควรที่จะแสดงตัวมาเป็นตัวเลือกให้ประชาชน เราไม่สมควรได้เลือกเพียงคนที่เลวมากหรือเลวน้อย เพราะเราต้องการให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการไม่ให้ฝ่ายการเมืองนำคะแนนเสียงของเราไปทำร้ายประเทศไทยต่อไป จึงเห็นว่าประชาชนกำลังตอบรับการไม่เลือกใครมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการรณรงค์ไปนอกพื้นที่การชุมนุม ทำให้เห็นว่าประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองสูงมาก และต้องการลงโทษนักการเมือง เปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรวดเร็ว

**ออนไลน์ ”โหวตโน” นำการเมืองน้ำเน่า

จากทางหน้าเว็บไซต์ของ MSN ประเทศไทย (th.msn.com) ผู้ให้บริการอีเมลที่มีผู้ใช้มากที่สุด ได้ทำแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในหัวข้อ “ถ้าเลือกตั้งวันนี้คุณจะเลือกพรรคใด” จากผลการสำรวจ ตลอดทั้งวัน เช่น เวลา 08.11 น. ตัวเลือก “โนโหวต” แซงประชาธิปัตย์ จากจำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 23,037 คน โดยพี่น้องประชาชนแห่แสดงพลังไม่เลือกใคร จนช่อง “โนโหวต” พุ่งมาอยู่ที่ 29% ส่วนคนที่เลือกประชาธิปัตย์ อยู่ที่ 28% ซึ่งขณะนี้ก็ยังได้ทิ้งช่วงห่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ประชาธิปัตย์มีคะแนนนำมาตลอด แต่ก็อยู่ในระดับสูสีกันมาก เช่นเมื่อเวลา 23.15 น.ของวันที่(30 เม.ย. ประชาธิปัตย์คะแนนแซงโนโหวตอยู่ 4% ต่อมาเวลา 00.50 น.(1 พ.ค.) ลดระยะห่างเหลือ 2% และเมื่อเวลา 06.20 น. ทิ้งระยะห่างเหลือเพียง 1% จนกระทั่งล่าสุดโนโหวตก็ได้แซงประชาธิปัตย์เป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุดเวลา 19.00 น.ของวันที่ 1 พ.ค.นี้ มีผู้ร่วมโหวต 33,504พบว่าคะแนนไม่ประสงค์ลงคะแนนให้พรรคใดพุ่งขึ้นไปถึง 41 % หรือ13,871 โหวต แซงพรรคเพื่อไทยที่มีอยู่ 32 % และพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีอยู่ 24% พรรคชาติไทยพัฒนา 0% พรรคภูมิใจไทย1 % พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 0 % และพรรคอื่นๆ2 %

ทั้งนี้ แม้แบบสำรวจใช้คำว่า โนโหวต แต่นั่นก็แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของประชาชนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดีว่าไม่ประสงค์จะเลือกพรรคใดทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการโหวตโน

**แย้มยุบสภาไม่วันที่ 6 ก็ 7 พ.ค.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยุบสภาว่า ก่อนสิ้นสัปดาห์นี้ก็คงวันที่ 6-7 พ.ค.ประมาณนั้น

ส่วนการปลดป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆก่อนประกาศยุบสภานั้น นายกฯกล่าวว่า“ก่อนสิ้นสัปดาห์นี้แหล่ะครับ ซัก 6-7อะไรแบบนี้ ประมาณนั้นแหล่ะครับ” ส่วนจะยุบสภาวันที่6 พ.ค.นายกฯ กล่าวว่า“เหลืออีกไม่กี่วันก็รู้แล้ว” ถามต่อว่า จะบอกกับประชาชนก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็คงมีโอกาสบอกประชาชน

**ศาล รธน.เชื่อ กม.ลูก 3 ฉบับฉลุย

แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ในเวลา 13.00 น. วันที่ 2 พ.ค.นี้ โดยศาลจะวินิจฉัยร่างกฎหมายดังกล่าวมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยทางศาลได้รับไว้เรื่องตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา และตามกำหนดระยะเวลาศาลจะต้องพิจารณากรณีดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับที่ส่งเข้ามาให้ศาลพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้นไม่น่าจะมีข้อความใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาในการพิจารณาของคณะตุลาการฯ แต่ถ้าหากว่ามีข้อความใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญก็ให้ข้อความที่ขัดหรือแย้งนั้นเป็นอันตกไป แต่ในกรณีที่วินิจฉัยว่า ข้อความดังกล่าวเป็นสาระสำคัญหรือร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญให้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป ก็ต้องส่งร่างข้อความที่ขัดหรือแย้งคืนกลับสภาและวุฒิสภาไปแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 141 ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการพิจารณาของคณะตุลาการฯ จะพิจารณาได้เสร็จสิ้นภายในวันเดียวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะตุลาการฯ

“ขณะนี้ไม่มีใครมาบีบคั้นหรือกดดันให้ศาลเร่งพิจารณาให้ทันตามปฏิทินการเมืองแต่อย่างใด เพราะร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 ฉบับก็ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว แม้นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ก็ไม่มีผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวต้องตกไปแต่อย่างใด เพราะร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในระหว่างที่รอประกาศในราชกิจจานุเบกษาดังนั้นเมื่อศาลพิจารณาแล้วก็เหลือขั้นตอนที่จะต้องนำร่างกฎหมายประกาศราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป” แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญกล่าว

** “มาร์ค” พร้อมจับมือ กกต.ร่วมสัตยาบัน

นพ.บุณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าในวันที่ 2พ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแสดงเจตจำนงของพรรคในการให้การสนับสนุนมาตรการของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทุกเรื่อง เพื่อเป็นหลักประกันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่จะให้การเลือกตั้งนี้เป็นทางออกเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และพรรคมีความยินดีหาก กกต.จะให้ลงนามสัตยาบันผูกมัดแนวทางการเลือกตั้งของพรรคการเมือง พรรคขอยืนยันเข้าร่วมเป็นพรรคแรก ในการเข้าร่วมสัตยาบันในทุกลักษณะโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยเฉพาะการไม่ดึงสถาบันเบื้องสูง ลงมาเกี่ยวกับการเมือง การหาเสียงตามกติกาของ กกต. และหวังว่าทุกพรรคจะยืนยันพร้อมกันยอมรับผลการเลือกตั้งในการจัดตั้งรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ

“เชื่อว่าหากการหารือเป็นไปโดยเรียบร้อย ก็จะเป็นการส่งสัญญาณสำคัญไปให้สังคมสบายใจว่า การเลือกตั้งคราวนี้ ทุกฝ่ายพร้อมกันให้ประเทศเดินหน้าเข้าสู่การคืนอำนาจประชาชนกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศร่วมกัน”นพ.บุรณัชย์ กล่าว

** เททองหล่อพระไพรีพินาศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.49 น.ที่วัดบวรนิเวศวิหาร นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง พร้อมผู้บริหาร พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานพิธีเททองหล่อพระไพรีพินาศ ประจำสำนักงานคณะกรรมการ และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกจังหวัด

นายอภิชาต กล่าวภายหลังการทำพิธีเททองหล่อพระฯ ว่า อันนี้ไม่ได้เป็นสัญญาณอะไรเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่เป็นการทำพิธีเททองหล่อพระประจำสำนักงานกกต.ทั่วประเทศ หากต่อไปหากมีการเลือกตั้งกกต.จังหวัดจะนำไปเพื่อการสาบานตนในการเลือกตั้งก็สามารถใช้ได้ แต่จุดประสงค์หลักเพื่อให้สำนักงานกกต.ได้มีพระที่หล่อหลอมมาจากที่เกี่ยวกัน และให้เหมือนกันทัวประเทศ ซึ่งก็เป็นแนวทางเดียวกับศาลอื่นๆที่เขาทำกันซึ่งเราก็จะมอบให้สำนักงานกกตประจำจังหวัดละ 1 องค์ ส่วนพระกริ่งไพรีพินาศ พระชัยวัตน์ไพรีพินาศ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือประชาชนที่มีจิตศรัทธาสามารถเช่าไปบูชาได้

**กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้ง 100%

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าสัปดาห์หน้าจะยุบสภาแล้วสิ่งที่กกต.จะต้องดำเนินการเป็นเรื่องแรกคืออะไร นายอภิชาต กล่าวว่า ตอนนี้กกต.พร้อมทุกอย่างแล้ว คนของกกต.ก็พร้อมหมดแล้วและการแบ่งเขตเลือกตั้งก็ได้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ได้มีการอบรบกันอยู่ตลอดเวลาถ้ายุบสภาก็พร้อมที่จะเริ่มงานได้ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดคือ45-60 วัน ก็จะต้องได้เลือกตั้งกัน ส่วนที่มีการประเมินกันว่าจะมีการยุบสภาแต่อาจจะไม่มีการเลือกตั้งนั้น

“มาถึงตอนนี้แล้วผมไม่เกรงอะไรทั้งสิ้น มันแล้วแต่สถานการณ์บ้านเมืองพวกผมมีหน้าทีต้องเป็นกรรมการการเลือกตั้ง ถ้ามีการเลือกตั้งผมก็ต้องทำหน้าที่จัดการให้มีการเลือกตั้งเป็นไปให้ดีที่สุด” นายอภิชาต กล่าวและว่าในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) กกต.ได้เชิญพรรคการเมืองต่างๆที่มีอยู่ประมาณ 50 กว่าพรรคมาพร้อมกันเพื่อมาแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องที่ทางกกต.จะพิจารณาในเรื่องที่ออกระเบียบการหาเสียงเลือกตั้งโดยไม่นำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งก็จะมีตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆมาร่วมแสดงความคิดเห็นกัน ส่วนพรรคการเมืองจะมอบให้คนที่ถูกเพิกถอนสิทธิมาเป็นตัวแทนพรรคหรือไม่เราไม่ได้ห้าม เพราะเราไม่ได้เจาะจงเชิญใครมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิอย่างไร เพราะการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองนั้นไม่ได้จำกัดสิทธิอะไร แต่บทบาทต้องระมัดระวังอย่าให้ถึงกับเป็นบทบาทของกรรมการบริหารพรรคก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า เพื่อความมั่นใจจะมีการลงสัตยาบันร่วมกันหรือไม่ ประธานกกต.กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ความเห็นของที่ประชุมว่าอยากจะลงสัตยาบันร่วมกันหรือไม่ ซึ่งทางกกต.ไม่ได้บังคับว่า เพียงแต่เราได้เชิญมาเพื่อแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าหากว่าพวกเขาจะมีความเห็นร่วมกันในทางใดทางหนึ่งกกต.ก็พร้อมที่จะสนับสนุน

เมื่อถามย้ำว่าในการส่งหนังสือเชิญไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ก็เห็นว่าได้ขอความร่วมมือไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ในการลงสัตยาบันร่วมกันเพื่อการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายอภิชาต กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่ตนก็พึ่งเห็นในการประชุมคราวที่แล้วก็ได้มีกกต.คนหนึ่งได้เสนอเข้ามา ว่าซึ่งอาจเป็นแบบอย่างประเทศทั้งหลายที่เขาจะมาร่วมกันลงนามร่วมมือกันในทางที่ดีทางใดทางหนึ่งอย่างนี้ เราก็จะมีการแจกเอกสารให้ แต่ไม่ได้เป็นการบังคับกกต.ไม่ต้องการเพราะการจะทำอะไรก็ต้องทำด้วยความสมัครใจ เป็นเรื่องการตัดสินใจของพรรคการเมืองต่างๆเอง.
กำลังโหลดความคิดเห็น