ASTVผู้จัดการรายวัน- กกพ.เตรียมพิจารณาต้นทุนผลิตไฟฟ้า 29 เม.ย.นี้ก่อนเคาะค่าเอฟทีงวดใหม่เริ่มพ.ค. รับน้ำมันแพงมีโอกาสขยับแย้มหากสูงไปอาจให้กฟผ.ร่วมรับภาระ
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)รอบใหม่(พ.ค.-ส.ค.) จะมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพื่อคำนวณต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยเฉพาะค่าเชื้อเพลิงในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลอัตราค่าพลังงานและค่าบริการพิจารณากลั่นกรองค่าเอฟทีวันที่ 29 เม.ย.นี้จึงจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหากพิจารณาจากราคาน้ำมันที่สูงจากปัญหาตะวันออกกลางที่สะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติแนวโน้มค่าเอฟทีคงจะสูงขึ้น
“ การพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่นี้อาจจะใช้การพิจารณาแค่ 2 เดือนเพื่อรอการประกาศโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ที่มีการปรับปรุงอยู่ขณะนี้ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ก.ค.นี้”นายดิเรกกล่าว
สำหรับการดำเนินงาน 3 ปีที่ผ่านมาได้วางรากฐานของการเป็นองค์กรหลักในการกำกับกิจการพลังงานอย่างโปร่งใส และเป้าหมายในการดำเนินงานปี 2554 ของกกพ.จะเน้นการกำหนดอัตราค่าบริการพลังงานที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อผู้ใช้พลังงานโดยคำนึงถึงการลงทุนในกิจการพลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมในการพิจารณาอัตราค่าบริการพลังงาน
นายนภดล มัณฑะจิตร กรรมการกำกับกิจการพลังงานกล่าวว่ายืนยันว่าไม่มีใครสั่งตรึงราคาค่าเอฟทีแต่กกพ.ได้พิจารณาจากความเหมาะสมถึงภาระแต่ละส่วนที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างเหมาะสมโดยค่าเอฟทีงวดใหม่หากพิจารณาปัจจัยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีให้ปรับขึ้นแต่ตัวเลขจะต้องมาดูรายละเอียดและหากสูงขึ้นมากแล้วจะต้องพิจารณาว่าประชาชนจะรับภาระได้มากเพียงใดหากเห็นว่ามากไปก็อาจจะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)มาร่วมรับภาระแต่จะไม่ใช่การผลักให้ 100% แน่นอน
“ วันนี้ค่าไฟต้องถามว่าถ้าจะตรึงราคาแล้วใครจะรับภาระเราจะต้องยอมรับข้อเท็จจริงส่วนนี้ที่ผ่านมาไม่ได้มีใครมาสั่งให้เราตรึงค่าไฟได้แต่ใช้วิธีบริหารจัดการ”นายนภดลกล่าว
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า การพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)รอบใหม่(พ.ค.-ส.ค.) จะมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพื่อคำนวณต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยเฉพาะค่าเชื้อเพลิงในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลอัตราค่าพลังงานและค่าบริการพิจารณากลั่นกรองค่าเอฟทีวันที่ 29 เม.ย.นี้จึงจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหากพิจารณาจากราคาน้ำมันที่สูงจากปัญหาตะวันออกกลางที่สะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติแนวโน้มค่าเอฟทีคงจะสูงขึ้น
“ การพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่นี้อาจจะใช้การพิจารณาแค่ 2 เดือนเพื่อรอการประกาศโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ที่มีการปรับปรุงอยู่ขณะนี้ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ก.ค.นี้”นายดิเรกกล่าว
สำหรับการดำเนินงาน 3 ปีที่ผ่านมาได้วางรากฐานของการเป็นองค์กรหลักในการกำกับกิจการพลังงานอย่างโปร่งใส และเป้าหมายในการดำเนินงานปี 2554 ของกกพ.จะเน้นการกำหนดอัตราค่าบริการพลังงานที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อผู้ใช้พลังงานโดยคำนึงถึงการลงทุนในกิจการพลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมในการพิจารณาอัตราค่าบริการพลังงาน
นายนภดล มัณฑะจิตร กรรมการกำกับกิจการพลังงานกล่าวว่ายืนยันว่าไม่มีใครสั่งตรึงราคาค่าเอฟทีแต่กกพ.ได้พิจารณาจากความเหมาะสมถึงภาระแต่ละส่วนที่ควรจะต้องรับผิดชอบอย่างเหมาะสมโดยค่าเอฟทีงวดใหม่หากพิจารณาปัจจัยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีให้ปรับขึ้นแต่ตัวเลขจะต้องมาดูรายละเอียดและหากสูงขึ้นมากแล้วจะต้องพิจารณาว่าประชาชนจะรับภาระได้มากเพียงใดหากเห็นว่ามากไปก็อาจจะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)มาร่วมรับภาระแต่จะไม่ใช่การผลักให้ 100% แน่นอน
“ วันนี้ค่าไฟต้องถามว่าถ้าจะตรึงราคาแล้วใครจะรับภาระเราจะต้องยอมรับข้อเท็จจริงส่วนนี้ที่ผ่านมาไม่ได้มีใครมาสั่งให้เราตรึงค่าไฟได้แต่ใช้วิธีบริหารจัดการ”นายนภดลกล่าว
