วานนี้(25 เม.ย.) ที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการ
เลือกตั้ง 3 ฉบับ ในวาระ 2 และ 3 ขั้นตอนจากนี้ก็จะมีการส่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวทั้ง 3 ฉบับกลับไปสู่การพิจารณา
สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเพื่อรับทราบ โดยไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันของสองสภา
ทั้งนี้มีการถกเถียง แก้ไขกรณีที่มีการเลือกตั้งเพียงวันเดียวเรื่องให้สิทธิ์เฉพาะข้าราชการที่ไปช่วยงาน
ในการเลือกตั้ง ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าได้ ซึ่งสมาชิกบางส่วนในที่ประชุมเสนอให้ตัดมาตรา 7
ภายใต้มาตรา 9/1 ที่มีการเขียนเพิ่มเติมว่า ให้ประชาชนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าได้ 1 วัน โดยที่ประชุมลงมติให้
คงไว้ซึ่งมาตรา 7 ให้มีวันเลือกตั้งล่วงหน้าตามปกติ
ขณะที่การเปิดตัวนโยบายและคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่าง ๆเป็นไปอย่างคึกคัก
ที่พรรคภูมิใจไทย นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ยืนยันจะส่งครบทุกภาค แต่เน้นใน
พื้นที่ภาคอีสาน ที่มีส.ส.อยู่ขณะนี้กว่า 100 คน ส่วนนโยบายเน้นความเป็นอยู่ของประชาชนอีสาน ที่ไม่ได้รับความ
เป็นธรรมในเรื่องของงบประมาณ โดยมีนโยบายเรื่องน้ำ โครงการถนนปลอดฝุ่น การสร้างศูนย์กีฬาอาชีพทั่วทุก
ภูมิภาค เน้นสถานีอนามัยที่ยังขาดอุปกรณ์ เร่งผลิตนักศึกษา พยาบาล แพทย์ ตามโครงการหนึ่งแพทย์หนึ่งอำเภอ
ขณะที่ยังเดินหน้านโยบายปกป้องสถาบันเหมือนเดิม เช่น อาสาสมัครปกป้องสถาบัน (อสป.)
ทั้งนี้จะเปิดตัวส.ส.บัญชีรายชื่อในสัปดาห์หน้า ส่วนกลุ่มพรรคพลังชลของนายสนธยา คุณปลื้ม คง
ต้องรอหลังเลือกตั้งว่าจะร่วมงานทางการเมืองกันหรือไม่ แต่ประเมินจะได้ส.ส.เดิม58 คน กับส.ส.เพิ่มอีก 70 คน
ขณะที่ความเป็นไปได้ถึงการที่จะจับมือกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายประจักษ์ ตอบว่า “การเมืองคุยกันได้ทั้งนั้น
อาจไม่ได้คุยในที่สาธารณะ แต่อาจโทรศัพท์หรือคุยในที่ส่วนตัว”
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ในวันที่ 30 เม.ย.จะคิกออฟนโยบายเช่นนโยบาย 3 ท.
คือ “ทุน ที่ ทาง” โดยจะส่งผู้สมัครประมาณ 250 เขต
รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่จ.ชลบุรี ส.ส.พรรปคระชาธิปัตย์ ได้แก่ กำนันมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ย้ายไปพรรค
เพื่อไทย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ ส.ส
.สระบุรี ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย และจะไม่ส่งนายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัคร เนื่องจาก
เห็นว่าบกพร่องต่อหน้าที่ และขาดการประชุมสภาฯ บ่อย ขณะที่นายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี จะไม่ย้ายไป
พรรคภูมิใจไทย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีการ
เปลี่ยแปลงตัวผู้สมัครเก่าใน จ.ชลบุรี สระบุรี สิงห์บุรี และ สงขลา ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีการแต่งตั้งพันเอก
พันเอกพิเศษ กองทัพบก เพื่อรองรับการเลือกตั้งนั้น เป็นการสร้างกระแสข่าวโจมตีกองทัพเพื่อผูกโยงว่ากองทัพ
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ ปชป.
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า รมว.กลาโหมฝากถึงกำลังพลให้ผู้บังคับหน่วย
ได้ไปกำชับทุกคนให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การแบ่งเขตเป็นไปตามหลักกฎหมายและ
ดีกว่าการแบ่งเขตเมื่อปี 2550 แต่เกรงว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะวางตัวไม่เป็นกลาง โดยกำชับให้ ผบ.ตร.หามาตรการ
ดูแลการเลือกตั้งไม่ให้เกิดความรุนแรง ขณะที่ค๊ะกรรมการปรับปรุงร่างระเบียบกกต.ดำเนิกนารใกล้เสร็จได้มีการ
ปรับจากข้อห้ามมาอยู่ในส่วนของข้อควรปฏิบัติ และใช้แค่ช่วงเวลาที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งเท่านั้น
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายกิจการพรรคการเมือง กล่าวแสดงความเป็น
ห่วงถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการสู้รบกันอยู่ในขณะนี้จะกระทบเลือกตั้ง โดยเสนอแนะให้เกิดความสงบ
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
เลือกตั้ง 3 ฉบับ ในวาระ 2 และ 3 ขั้นตอนจากนี้ก็จะมีการส่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวทั้ง 3 ฉบับกลับไปสู่การพิจารณา
สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเพื่อรับทราบ โดยไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันของสองสภา
ทั้งนี้มีการถกเถียง แก้ไขกรณีที่มีการเลือกตั้งเพียงวันเดียวเรื่องให้สิทธิ์เฉพาะข้าราชการที่ไปช่วยงาน
ในการเลือกตั้ง ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าได้ ซึ่งสมาชิกบางส่วนในที่ประชุมเสนอให้ตัดมาตรา 7
ภายใต้มาตรา 9/1 ที่มีการเขียนเพิ่มเติมว่า ให้ประชาชนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าได้ 1 วัน โดยที่ประชุมลงมติให้
คงไว้ซึ่งมาตรา 7 ให้มีวันเลือกตั้งล่วงหน้าตามปกติ
ขณะที่การเปิดตัวนโยบายและคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่าง ๆเป็นไปอย่างคึกคัก
ที่พรรคภูมิใจไทย นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ยืนยันจะส่งครบทุกภาค แต่เน้นใน
พื้นที่ภาคอีสาน ที่มีส.ส.อยู่ขณะนี้กว่า 100 คน ส่วนนโยบายเน้นความเป็นอยู่ของประชาชนอีสาน ที่ไม่ได้รับความ
เป็นธรรมในเรื่องของงบประมาณ โดยมีนโยบายเรื่องน้ำ โครงการถนนปลอดฝุ่น การสร้างศูนย์กีฬาอาชีพทั่วทุก
ภูมิภาค เน้นสถานีอนามัยที่ยังขาดอุปกรณ์ เร่งผลิตนักศึกษา พยาบาล แพทย์ ตามโครงการหนึ่งแพทย์หนึ่งอำเภอ
ขณะที่ยังเดินหน้านโยบายปกป้องสถาบันเหมือนเดิม เช่น อาสาสมัครปกป้องสถาบัน (อสป.)
ทั้งนี้จะเปิดตัวส.ส.บัญชีรายชื่อในสัปดาห์หน้า ส่วนกลุ่มพรรคพลังชลของนายสนธยา คุณปลื้ม คง
ต้องรอหลังเลือกตั้งว่าจะร่วมงานทางการเมืองกันหรือไม่ แต่ประเมินจะได้ส.ส.เดิม58 คน กับส.ส.เพิ่มอีก 70 คน
ขณะที่ความเป็นไปได้ถึงการที่จะจับมือกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายประจักษ์ ตอบว่า “การเมืองคุยกันได้ทั้งนั้น
อาจไม่ได้คุยในที่สาธารณะ แต่อาจโทรศัพท์หรือคุยในที่ส่วนตัว”
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ในวันที่ 30 เม.ย.จะคิกออฟนโยบายเช่นนโยบาย 3 ท.
คือ “ทุน ที่ ทาง” โดยจะส่งผู้สมัครประมาณ 250 เขต
รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่จ.ชลบุรี ส.ส.พรรปคระชาธิปัตย์ ได้แก่ กำนันมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ย้ายไปพรรค
เพื่อไทย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ ส.ส
.สระบุรี ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย และจะไม่ส่งนายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัคร เนื่องจาก
เห็นว่าบกพร่องต่อหน้าที่ และขาดการประชุมสภาฯ บ่อย ขณะที่นายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี จะไม่ย้ายไป
พรรคภูมิใจไทย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีการ
เปลี่ยแปลงตัวผู้สมัครเก่าใน จ.ชลบุรี สระบุรี สิงห์บุรี และ สงขลา ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีการแต่งตั้งพันเอก
พันเอกพิเศษ กองทัพบก เพื่อรองรับการเลือกตั้งนั้น เป็นการสร้างกระแสข่าวโจมตีกองทัพเพื่อผูกโยงว่ากองทัพ
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ ปชป.
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า รมว.กลาโหมฝากถึงกำลังพลให้ผู้บังคับหน่วย
ได้ไปกำชับทุกคนให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การแบ่งเขตเป็นไปตามหลักกฎหมายและ
ดีกว่าการแบ่งเขตเมื่อปี 2550 แต่เกรงว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะวางตัวไม่เป็นกลาง โดยกำชับให้ ผบ.ตร.หามาตรการ
ดูแลการเลือกตั้งไม่ให้เกิดความรุนแรง ขณะที่ค๊ะกรรมการปรับปรุงร่างระเบียบกกต.ดำเนิกนารใกล้เสร็จได้มีการ
ปรับจากข้อห้ามมาอยู่ในส่วนของข้อควรปฏิบัติ และใช้แค่ช่วงเวลาที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งเท่านั้น
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายกิจการพรรคการเมือง กล่าวแสดงความเป็น
ห่วงถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการสู้รบกันอยู่ในขณะนี้จะกระทบเลือกตั้ง โดยเสนอแนะให้เกิดความสงบ
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
