ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.เย้ย “เพื่อไทย” เปิดตัวอัปมงคลขายฝันช่วยตัวเอง ชี้แม้รอดยุบพรรคเพราะแค่ร่วมเปิดนโยบาย แต่แม้วอาจโดนคุกเพิ่ม เด็จพี่ปัดกระแส “เจ๊มิ่ง” ไม่เอาเพื่อไทย ยันแค่ติดภารกิจ ไม่ได้มางานเปิดนโยบาย ด้าน “แม้ว” โวกลับบ้าน ขอลง ส.ส.ระบบเขต
วานนี้ (24 เม.ย.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าพรรคได้ติดตามการแถลงนโยบายของพรรคเพื่อไทย เห็นว่าปรากฎการณ์ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วีดีโอลิงค์ประกาศนโยบาย ถือเป็นการขับเคลื่อนและบงการการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ทำอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การโฟนอินมายังการชุมนุมคนเสื้อแดง และการวีดีโอลิงค์มาเปิดตัวนโยบายของพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เห็นว่าการควบรวมระหว่างพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงสำเร็จอย่างสมบูรณ์ และผลักดันให้บุคคลต่างๆ ของพรรคที่ไม่ยอมใส่เสื้อแดง อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชลลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ถูกตัดออกจากระบบบัญชีรายชื่อ และให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาแทนที่
พรรคประชาธิปัตย์ไม่ขอแสดงความเห็นต่อการประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งทางการเมือง ดังนั้นควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยเฉพาะสาระนโยบายว่าสามารถทำได้จริงแค่ไหน หรือใครเป็นคนทำ ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนว่าผู้ขับเคลื่อนนโยบาย คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอตัวเป็นนายกฯ ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นขณะนี้ดูเหมือนว่ายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ รู้เพียงว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนคิด และไม่เชื่อว่าจะคิดเพียงคนเดียว เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ประชุมอย่างต่อเนื่อง
**แขวะเปิดนโยบายไม่พ้นนิรโทษแม้ว
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการคิดนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น การกลับมาและนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดของเพื่อไทย ซึ่งประชาชนต้องได้รับทราบ ถึงแผนการดำเนินการหากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศวิธีดำเนินการให้ชัดเจน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่แน่ใจว่าคดีของพ.ต.ท.ทักษิณทำได้หรือไม่ เพราะศาลได้วินิจฉัยสิ้นสุดไปแล้ว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ ซึ่งวันแรงงาน จะมีการดำเนินมาตรการด้านแรงงานเพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรม ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะเป็นเรื่องการปรับรายรับให้กับประชาชน ผู้ใช้แรงงาน ปรับเพิ่มค่าแรง 25% ใน 2ปี รวมถึงนโยบายเพื่อแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการ อาทิ ลดต้นทุนการขนส่ง และการบริหาร ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ได้ประกาศผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ โดยจะให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงแรงงาน เป็นผู้ประกาศรายละเอียน
เมื่อถามถึงกรณีนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการระบุว่าเป็นพรรคที่ดีแต่พูด โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนที่พิสูจน์ นั้นไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นประชาชน ซึ่งการทำงานของรัฐบาล ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าประชาชนมข้อมูลที่ตัดสินได้ว่าจะเริ่มต้นใหม่ หรือกลับไปเริ่มที่ศูนย์หรือต้องการแก้ไขปัญหาเพื่อคนๆ เดียว อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำพฤติกรรมที่ทำให้เห็นว่าไม่เคยได้ทำตรงกับสิ่งที่พูด เช่น ไม่สร้างขัดแย้ง หรือพาดพิง หรือการนิรโทษกรรม
**“เทพไท” เย้ยเพื่อไทยเปิดตัวอัปมงคล
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การนำนโยบาย พ.ต.ท.ทักษิณมาเปิดตัว ทั้งที่อยู่ในฐานะนักโทษหนีคดี ถือว่าเป็นอัปมงคลมากกว่าและถ้าดูการเปิด ตัวผู้สมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แสดงให้เห็นชัดเจนว่ายังมีความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยอยู่ เพราะยังไม่สามารถที่จะจัดลำดับในระบบบัญชีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ หนึ่งที่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร การอ้างว่าถ้าเปิดตัวแล้วกลัวจะช็อคนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริงน่าจะกลัว ความแตกแยกที่เกิดขึ้นในพรรคมากกว่า การไม่มีชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ น่าจะเป็นนัยยะสำคัญทางการเมือง ทั้งๆที่สามราถฟันธงได้เลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะให้น้องสาวตัวเองขึ้นมาคุม พรรคเพื่อไทย แต่คงจะใช้วิธีมัดมือชก ประกาศตัวในวันสมัคร เพื่อให้สมาชิกในพรรคเพื่อไทยที่ไม่พอใจ ไม่สามาถที่จะขยับขยาย หาพรรคอื่นลงสมัครได้
ส่วนการที่มีแกนนำนปช.จำนวนมากเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ เป็นนักการเมืองประเภทดาวเคราะห์ ไม่มีแสงในตัวเอง ต้องอาศัยใบบุญพ.ต.ท.ทักษิณ มาอยู่ในพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงนักการเมืองอาวุโสหลายคน เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ประกาศตัวเองว่าเป็นดาวฤกษ์ ก็ยังไม่กล้าออกมาตั้งพรรคการเมืองเอง ทั้งๆที่เคยประกาสว่า จะจับมือกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ตั้งพรรคการเมืองมาแล้ว ส่วนการที่มีรายชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นอันดับต้นๆ ไม่รู้ว่า พล.ต.อ.ประชา จะเป็นเหยื่อ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรายต่อไปหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ก็เคยตกเป็นเครื่องมือ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอตัวเข้ามาแข่งขันเป็นนายกฯ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกฯ มาแล้ว ถ้าครั้งนี้จะมาเสนอ เป็นแคนดิเดตอีก เหมือนกับนักมวยที่เคยชกแล้วแพ้ ก็ต้องแพ้อีกวันยังค่ำ เพราะคนอย่างพล.ต.อ.ประชา แพ้ทางมวยของนายกอภิสิทธิ์ ตลอด
ส่วนกระแสข่าวที่นายมิ่งขวัญ จะไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาราช เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะ นายเสนาะ ก็ได้ประกาศในวันเกิดว่าจะชูมือนายมิ่งขวัญ เป็นนายกฯ และนายเสนาะเองก็เคยเป็นนักปั้นนายกฯ เมื่อประกาศออกไปแล้ว คงไม่อยากเสียหน้า คงจะสร้างนายมิ่งขวัญ ให้เป็นหัวหัวหน้าพรรคคนต่อไป ส่วนจะปั้นสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ไม่อยากสบประมาทใคร หัวหน้าพรรคทุกพรรคมีสิทธิ์ทั้งนั้น เพราะแม้แต่พรรคบางพรรคที่หาหัวไม่ได้ ก็ยังมีสิทธิ์ฝันเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำไป
**เผาไทยรอดยุบ “แม้ว”อาจโดนคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วิดีโอลิงก์ เข้ามายังงานเปิดนโยบายหาเสียง และ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย อาจจะเป็นเหตุให้ยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. พบว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ
จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และถูกห้ามร่วมจัดตั้งหรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง
แต่การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น จะเข้าข่ายการเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ กกต. เคยวางแนวทางว่า แม้ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารอย่างเป็นทางการ แต่หากมีการกระทำในหน้าที่ของกรรมการบริหารก็ต้องถือว่าเป็นด้วย ทั้งนี้จึงต้องไปตรวจสอบกับข้อบังคับพรรคเพื่อไทยว่าหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคมีอย่างไร และการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ จะ เข้าข่าย “ทำหน้าที่กรรมการบริหาร” หรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเข้าข่าย แต่ก็ไม่มีโทษถึงขั้นยุบพรรค เพราะ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 97 ระบุห้าม ว่ากรรมการบริหารพรรคที่เคยถูกยุบห้ามไปเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น หรือ จัดตั้งพรรคการเมืองอื่นเท่านั้น โดยบัญญัติบทกำหนดโทษเป็นความผิดเฉพาะตัวเท่านั้น โดยมีโทษตามมาตรา 120 ของบ พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน ว่าต้องระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ กกต. ไม่เคยสามารถเอาผิดกับผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้วมายุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองได้เลย เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานสาวไปถึงได้ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบ้านเลขที่ 111หรือ นายบรรหาร ศิลปอาชา
**เผาไทยยันแม้วไม่สละสัญชาติไทย
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แค่แนะนำนโยบายให้พรรคเพื่อไทย ก็ถูกกล่าวหาว่าถือสัญชาติมอนเตเนโกร ซึ่งอาจจะทำให้ถูกยุบพรรค แต่พรรคเชื่อว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ส่งคนไปสังเกตการณ์งานเปิดตัวนโยบายด้วยจะไม่หลับตาข้างเดียวแล้วยุบพรรคเพื่อไทย เพราะวันนี้ ทั้งนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ถูกเชิญไปบ้านพิษณุโลกและทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ล่าสุด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา ก็ออกมาประกาศรวมพรรคการเมืองกับพรรคเพื่อแผนดินของกลุ่ม 3 พี ซึ่งเป็นการกระทำที่น่าจะถูกยุบพรรคมากกว่าการแนะนำนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ
“พ.ต.ท.ทักษิณใช้สิทธิในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่สามารถแนะนำให้ทุกพรรคการเมือง ไปจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ได้สละสัญชาติไทย จึงอยากให้ประชาธิปัตย์ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียก่อน เพราะนายอภิสิทธิ์นั้นยอมรับเองว่ายังถือสัญชาติอังกฤษและสัญชาติไทยพร้อมกันใน ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ไม่มีแนวโน้มที่จะสละสัญชาติอังกฤษอีก ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าละอายอย่างยิ่ง” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
**ปัดกระแส "เจ๊มิ่ง" ไม่เอาเพื่อไทย
ส่วนกระแสข่าวนายมิ่งขวัญ เเสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ไม่ปรากฎตัวในงานเปิดนโยบายรวมไปถึงบรรดา ส.ส.คนสนิทของนายมิ่งขวัญ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานพรรคเพื่อไทย กว่า 20 คนไม่ได้เดินทางไปร่วมงานด้วยนั้น ตนขอยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่มีการลาออกของ ส.ส.คนใดในพรรคอีก ส่วนกรณีที่นายมิ่งขวัญไม่มาร่วมงานนั้น เนื่องจากว่าติดภารกิจ และได้ทำการแจ้งกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเอาไว้แล้ว อีกทั้งนโยบายของพรรคบางส่วนก็เป็นแนวความคิดของนายมิ่งขวัญด้วย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากการเปิดนโยบายเสร็จสิ้นไปแล้ว พรรคก็จะเดินหน้าเปิดเวทีปราศรัย เพื่อไปสอบถามประชาชนในแนวความคิดที่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยนำมาปฏิบัติ และก็จะได้เป็นการกำหนดนโยบายที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมด้วย โดยในวันที่ 29 เม.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยก็จะเดินทางลงพ้นที่จังหวัดกำแพงเพชร
**“ประชา” สมัครเข้ารังวันนี้
ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ เวลา 12.30 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และหลังจากนั้นจะเข้าร่วมประชุมกับพรรคเพื่อไทยด้วย วันเดียวกันแกนนำพรรคเพื่อไทยจะได้มีการหารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการทำงานร่วมกันอีกครั้ง
**แม้วจะลง ส.ส.ระบบเขต
มีรายงานว่า ค่ำวันที่ 23 เม.ย. นอกจากจะวีดีโอลิงก์เปิดนโยบายพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้วีดิโอลิงก์เข้ามา ที่เมืองพัทยาครบรอบกิจกรรมเสื้อแดง โดยตอนหนึ่งกล่าวว่า “กลับมาประเทศไทยเมื่อไหร่ จะลงสมัคร ส.ส.เพราะมองไว้แล้ว ว่าจะลงที่ไหน ถ้าลงก็จะสะกิด ส.ส.ที่เป็นอยู่ลาออกแล้ว ผมก็จะลงสมัครทันที”.
วานนี้ (24 เม.ย.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าพรรคได้ติดตามการแถลงนโยบายของพรรคเพื่อไทย เห็นว่าปรากฎการณ์ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วีดีโอลิงค์ประกาศนโยบาย ถือเป็นการขับเคลื่อนและบงการการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ทำอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การโฟนอินมายังการชุมนุมคนเสื้อแดง และการวีดีโอลิงค์มาเปิดตัวนโยบายของพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เห็นว่าการควบรวมระหว่างพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงสำเร็จอย่างสมบูรณ์ และผลักดันให้บุคคลต่างๆ ของพรรคที่ไม่ยอมใส่เสื้อแดง อาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชลลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ถูกตัดออกจากระบบบัญชีรายชื่อ และให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาแทนที่
พรรคประชาธิปัตย์ไม่ขอแสดงความเห็นต่อการประกาศนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งทางการเมือง ดังนั้นควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยเฉพาะสาระนโยบายว่าสามารถทำได้จริงแค่ไหน หรือใครเป็นคนทำ ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจนว่าผู้ขับเคลื่อนนโยบาย คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอตัวเป็นนายกฯ ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นขณะนี้ดูเหมือนว่ายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ รู้เพียงว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนคิด และไม่เชื่อว่าจะคิดเพียงคนเดียว เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ประชุมอย่างต่อเนื่อง
**แขวะเปิดนโยบายไม่พ้นนิรโทษแม้ว
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการคิดนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น การกลับมาและนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดของเพื่อไทย ซึ่งประชาชนต้องได้รับทราบ ถึงแผนการดำเนินการหากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศวิธีดำเนินการให้ชัดเจน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่แน่ใจว่าคดีของพ.ต.ท.ทักษิณทำได้หรือไม่ เพราะศาลได้วินิจฉัยสิ้นสุดไปแล้ว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ ซึ่งวันแรงงาน จะมีการดำเนินมาตรการด้านแรงงานเพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรม ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะเป็นเรื่องการปรับรายรับให้กับประชาชน ผู้ใช้แรงงาน ปรับเพิ่มค่าแรง 25% ใน 2ปี รวมถึงนโยบายเพื่อแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการ อาทิ ลดต้นทุนการขนส่ง และการบริหาร ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ได้ประกาศผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ โดยจะให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงแรงงาน เป็นผู้ประกาศรายละเอียน
เมื่อถามถึงกรณีนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการระบุว่าเป็นพรรคที่ดีแต่พูด โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนที่พิสูจน์ นั้นไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นประชาชน ซึ่งการทำงานของรัฐบาล ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าประชาชนมข้อมูลที่ตัดสินได้ว่าจะเริ่มต้นใหม่ หรือกลับไปเริ่มที่ศูนย์หรือต้องการแก้ไขปัญหาเพื่อคนๆ เดียว อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำพฤติกรรมที่ทำให้เห็นว่าไม่เคยได้ทำตรงกับสิ่งที่พูด เช่น ไม่สร้างขัดแย้ง หรือพาดพิง หรือการนิรโทษกรรม
**“เทพไท” เย้ยเพื่อไทยเปิดตัวอัปมงคล
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การนำนโยบาย พ.ต.ท.ทักษิณมาเปิดตัว ทั้งที่อยู่ในฐานะนักโทษหนีคดี ถือว่าเป็นอัปมงคลมากกว่าและถ้าดูการเปิด ตัวผู้สมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แสดงให้เห็นชัดเจนว่ายังมีความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยอยู่ เพราะยังไม่สามารถที่จะจัดลำดับในระบบบัญชีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ หนึ่งที่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร การอ้างว่าถ้าเปิดตัวแล้วกลัวจะช็อคนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริงน่าจะกลัว ความแตกแยกที่เกิดขึ้นในพรรคมากกว่า การไม่มีชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ น่าจะเป็นนัยยะสำคัญทางการเมือง ทั้งๆที่สามราถฟันธงได้เลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะให้น้องสาวตัวเองขึ้นมาคุม พรรคเพื่อไทย แต่คงจะใช้วิธีมัดมือชก ประกาศตัวในวันสมัคร เพื่อให้สมาชิกในพรรคเพื่อไทยที่ไม่พอใจ ไม่สามาถที่จะขยับขยาย หาพรรคอื่นลงสมัครได้
ส่วนการที่มีแกนนำนปช.จำนวนมากเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ เป็นนักการเมืองประเภทดาวเคราะห์ ไม่มีแสงในตัวเอง ต้องอาศัยใบบุญพ.ต.ท.ทักษิณ มาอยู่ในพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงนักการเมืองอาวุโสหลายคน เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ประกาศตัวเองว่าเป็นดาวฤกษ์ ก็ยังไม่กล้าออกมาตั้งพรรคการเมืองเอง ทั้งๆที่เคยประกาสว่า จะจับมือกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ตั้งพรรคการเมืองมาแล้ว ส่วนการที่มีรายชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นอันดับต้นๆ ไม่รู้ว่า พล.ต.อ.ประชา จะเป็นเหยื่อ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรายต่อไปหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ก็เคยตกเป็นเครื่องมือ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอตัวเข้ามาแข่งขันเป็นนายกฯ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกฯ มาแล้ว ถ้าครั้งนี้จะมาเสนอ เป็นแคนดิเดตอีก เหมือนกับนักมวยที่เคยชกแล้วแพ้ ก็ต้องแพ้อีกวันยังค่ำ เพราะคนอย่างพล.ต.อ.ประชา แพ้ทางมวยของนายกอภิสิทธิ์ ตลอด
ส่วนกระแสข่าวที่นายมิ่งขวัญ จะไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาราช เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะ นายเสนาะ ก็ได้ประกาศในวันเกิดว่าจะชูมือนายมิ่งขวัญ เป็นนายกฯ และนายเสนาะเองก็เคยเป็นนักปั้นนายกฯ เมื่อประกาศออกไปแล้ว คงไม่อยากเสียหน้า คงจะสร้างนายมิ่งขวัญ ให้เป็นหัวหัวหน้าพรรคคนต่อไป ส่วนจะปั้นสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ไม่อยากสบประมาทใคร หัวหน้าพรรคทุกพรรคมีสิทธิ์ทั้งนั้น เพราะแม้แต่พรรคบางพรรคที่หาหัวไม่ได้ ก็ยังมีสิทธิ์ฝันเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำไป
**เผาไทยรอดยุบ “แม้ว”อาจโดนคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วิดีโอลิงก์ เข้ามายังงานเปิดนโยบายหาเสียง และ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย อาจจะเป็นเหตุให้ยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. พบว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ
จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และถูกห้ามร่วมจัดตั้งหรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง
แต่การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น จะเข้าข่ายการเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ กกต. เคยวางแนวทางว่า แม้ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารอย่างเป็นทางการ แต่หากมีการกระทำในหน้าที่ของกรรมการบริหารก็ต้องถือว่าเป็นด้วย ทั้งนี้จึงต้องไปตรวจสอบกับข้อบังคับพรรคเพื่อไทยว่าหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคมีอย่างไร และการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ จะ เข้าข่าย “ทำหน้าที่กรรมการบริหาร” หรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเข้าข่าย แต่ก็ไม่มีโทษถึงขั้นยุบพรรค เพราะ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 97 ระบุห้าม ว่ากรรมการบริหารพรรคที่เคยถูกยุบห้ามไปเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น หรือ จัดตั้งพรรคการเมืองอื่นเท่านั้น โดยบัญญัติบทกำหนดโทษเป็นความผิดเฉพาะตัวเท่านั้น โดยมีโทษตามมาตรา 120 ของบ พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน ว่าต้องระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ กกต. ไม่เคยสามารถเอาผิดกับผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้วมายุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองได้เลย เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานสาวไปถึงได้ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบ้านเลขที่ 111หรือ นายบรรหาร ศิลปอาชา
**เผาไทยยันแม้วไม่สละสัญชาติไทย
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แค่แนะนำนโยบายให้พรรคเพื่อไทย ก็ถูกกล่าวหาว่าถือสัญชาติมอนเตเนโกร ซึ่งอาจจะทำให้ถูกยุบพรรค แต่พรรคเชื่อว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ส่งคนไปสังเกตการณ์งานเปิดตัวนโยบายด้วยจะไม่หลับตาข้างเดียวแล้วยุบพรรคเพื่อไทย เพราะวันนี้ ทั้งนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ถูกเชิญไปบ้านพิษณุโลกและทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ล่าสุด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา ก็ออกมาประกาศรวมพรรคการเมืองกับพรรคเพื่อแผนดินของกลุ่ม 3 พี ซึ่งเป็นการกระทำที่น่าจะถูกยุบพรรคมากกว่าการแนะนำนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ
“พ.ต.ท.ทักษิณใช้สิทธิในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่สามารถแนะนำให้ทุกพรรคการเมือง ไปจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ได้สละสัญชาติไทย จึงอยากให้ประชาธิปัตย์ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียก่อน เพราะนายอภิสิทธิ์นั้นยอมรับเองว่ายังถือสัญชาติอังกฤษและสัญชาติไทยพร้อมกันใน ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ไม่มีแนวโน้มที่จะสละสัญชาติอังกฤษอีก ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าละอายอย่างยิ่ง” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
**ปัดกระแส "เจ๊มิ่ง" ไม่เอาเพื่อไทย
ส่วนกระแสข่าวนายมิ่งขวัญ เเสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ไม่ปรากฎตัวในงานเปิดนโยบายรวมไปถึงบรรดา ส.ส.คนสนิทของนายมิ่งขวัญ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานพรรคเพื่อไทย กว่า 20 คนไม่ได้เดินทางไปร่วมงานด้วยนั้น ตนขอยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่มีการลาออกของ ส.ส.คนใดในพรรคอีก ส่วนกรณีที่นายมิ่งขวัญไม่มาร่วมงานนั้น เนื่องจากว่าติดภารกิจ และได้ทำการแจ้งกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเอาไว้แล้ว อีกทั้งนโยบายของพรรคบางส่วนก็เป็นแนวความคิดของนายมิ่งขวัญด้วย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากการเปิดนโยบายเสร็จสิ้นไปแล้ว พรรคก็จะเดินหน้าเปิดเวทีปราศรัย เพื่อไปสอบถามประชาชนในแนวความคิดที่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยนำมาปฏิบัติ และก็จะได้เป็นการกำหนดนโยบายที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมด้วย โดยในวันที่ 29 เม.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยก็จะเดินทางลงพ้นที่จังหวัดกำแพงเพชร
**“ประชา” สมัครเข้ารังวันนี้
ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ เวลา 12.30 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และหลังจากนั้นจะเข้าร่วมประชุมกับพรรคเพื่อไทยด้วย วันเดียวกันแกนนำพรรคเพื่อไทยจะได้มีการหารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการทำงานร่วมกันอีกครั้ง
**แม้วจะลง ส.ส.ระบบเขต
มีรายงานว่า ค่ำวันที่ 23 เม.ย. นอกจากจะวีดีโอลิงก์เปิดนโยบายพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้วีดิโอลิงก์เข้ามา ที่เมืองพัทยาครบรอบกิจกรรมเสื้อแดง โดยตอนหนึ่งกล่าวว่า “กลับมาประเทศไทยเมื่อไหร่ จะลงสมัคร ส.ส.เพราะมองไว้แล้ว ว่าจะลงที่ไหน ถ้าลงก็จะสะกิด ส.ส.ที่เป็นอยู่ลาออกแล้ว ผมก็จะลงสมัครทันที”.