เมื่อวานนี้ ( 24 เม.ย. ) เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเสนอนโยบาย 3 ด้าน ที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้น ดังนี้
**นโยบายด้านเศรษฐกิจ
1. รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เชื่อมคุนหมิง ภาคอีสาน สู่ภาคใต้ เชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย เพื่อพัฒนาการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว
2. สร้างแหลมฉบังให้เป็นเมืองท่าสมบูรณ์แบบ (Harbor City) พร้อมรถไฟความเร็วสูง เชื่อมกรุงเทพฯ แหลมฉบังและระยอง และเครือข่ายโลจิสติกส์ ด้วยเงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท
3. พลิกโฉมเมืองท่องเที่ยวตลอดชายฝั่งทะเลภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อให้ ประเทศ ไทยเป็น “มนต์เสน่ห์แห่งเอเชีย” (The Rhythm of Asia) ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ต่อปี
4. ขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3 G อินเตอร์เน็ตชุมชน สู่ทุกตำบลทั่วประเทศ ภายใน 4 ปี
5. สร้างเขตเศรษฐกิจเกษตรพิเศษ เพื่อจัดระบบการผลิต การแปรรูป และการตลาดสินค้า เกษตร ที่มีมาตรฐานคุณภาพ และมูลค่าสูง
6. เดินหน้าต่อในการบริหารจัดการแหล่งน้ำทั่วประเทศ ขยายพื้นที่ชลประทาน เพิ่มปริมาณน้ำ อุตสาหกรรม และขยายประปาชุมชน
7. เร่งจัดหาพลังงานทดแทน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจาก พืชพลังงาน ลม แสงอาทิตย์ ชีวภาพ และขยะ
** ด้านสังคม และครอบครัว
1. ไฟฟ้าฟรีถาวร สำหรับผู้ใช้ไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน
2. จัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด จัดตั้งกองกำลังพิเศษ 2,500 นาย
3. มอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ทุกคนทุกเดือน
4. โครงการบ้านมั่นคง (ซ่อมแซม จัดสาธารณูปโภค และสร้างบ้านใหม่) ของชุมชนแออัดใน เมือง และหมู่บ้านทั่วประเทศ
5. บัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรีอย่างมีคุณภาพ
6. เพิ่มเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย 250,000 คน
7. พัฒนาศูนย์เด็กเล็กคุณภาพในทุกพื้นที่
**ด้านค่าครองชีพ และประกันสังคม
1. เพิ่มเงินกำไรอีกร้อยละ 25 จากโครงการประกันรายได้เกษตรกร (ชาวนา ชาวไร่ข้าวโพด ชาวมันสำปะหลัง)
2. ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำร้อยละ 25 ในเวลา 2 ปี พร้อมพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน
3. จัดโฉนดชุมชนให้เกษตรกรมีที่ทำกินอีก 250,000 คน บนที่ดินของรัฐ
4. ปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และสร้างโอกาสใหม่แก่ชีวิตของประชาชนให้ครบ 1 ล้านคน
5. ขยายประกันสังคมสำหรับเกษตรกรและแรงงานนอกระบบให้ครอบคลุม 25 ล้านคน เพื่อรับเงินชดเชยรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และบำเหน็จชราภาพ
6. จัดให้มีบำนาญประชาชนหลังอายุ 60 ปี โดยรัฐร่วมสมทบในกองทุนการออมแห่งชาติ 7. พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างสินค้าและบริการ บนพื้นฐานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยงบประมาณ 20,000 ล้านบาท
**เด็กแม้วขายฝัน"บัตรเดรดิตชาวนา"
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วีดีโอลิงค์มาแนะแนวทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภายในงาน ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทั่วประเทศ ณ ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมากคือ ไอเดีย เรื่อง "เครดิตการ์ด" ของ เกษตรกร
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า " เกษตรกรอยู่ต่างจังหวัด เมื่อไม่มีเงินก็ต้องไปวิงวอนเถ้าแก่ขอปุ๋ย ยอมจ่ายดอกเบี้ย แต่เมื่อเอาการ์ดไปวางแล้วรูด มันเท่ มีศีกดิ์ศรีกว่าเยอะ วิธีการคือ จากที่รับจำนำอยู่แล้ว ก็คำนวณข้าวว่า ทำข้าวได้กี่ตัน เป็นเงินเท่าไร แล้วตั้งวงเงินไว้ อย่างเช่น มีวงเงินอยู่จำนวนหนึ่งก็เอาไปซื้อ หรือใช้เป็นค่าจ้างวาน จากนั้นใช้ระบบทำด้วยคอมพิวเตอร์ จำกัดการใช้ไม่ให้ไปซื้อสิ่งของอย่างอื่น เมื่อเอาข้าวส่งมอบจำนำครั้งหนึ่ง ล้างบัญชี แล้วก็จบ ครั้งหน้าก็เอาไปใหม่ เพราะฉะนั้นจะไม่มีหนี้เสีย"
ล่าสุดนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช.คลัง ขยายแนวคิดเรื่อง"บัตรชาวนา" ว่า แนวความคิดในการทำบัตรให้เกษตรกรที่เป็นเหมือนเครดิตการ์ดใน การนำไปใช้ในการจัดซื้อปัจจัยการผลิต น่าจะเป็นวิธีการที่ดีในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร ในเรื่องการตกเขียว การกู้หนี้นอกระบบ การถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง เป็นการเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับเกษตรกร ที่ไม่ต้องไปกราบไหว้ใครเพื่อ กู้ยืมเงินมาซื้อปัจจัยการผลิตอีกต่อไป อีกทั้งยังจะทำให้เกษตรกรได้ซื้อราคาปัจจัยการผลิตในราคาที่ถูกลง
โดยวิธีการ คือ รัฐจะจัดทำบัตรเกษตรกร ซึ่งเหมือนกับเครดิตการ์ดให้กับเกษตรกร โดย เกษตรกร สามารถที่จะนำไปจัดซื้อปัจจัยการผลิตทุกชนิดได้ล่วงหน้า โดยรัฐจะเป็นผู้ชำระให้ก่อน โดยเกษตรกรไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบไม่ต้องรับการตกเขียว และไม่ต้องไปกราบไหว้ห้างร้านที่จำหน่ายปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงฯลฯ
โดยบัตรนี้จะสามารถซื้อได้เฉพาะปัจจัยการผลิตเท่านั้น และจะมีวงเงินกำหนด และปริมาณการจัดซื้อในแต่ละชนิด ตามจำนวนเนื้อที่เพาะปลูกที่เกษตรกรมีอยู่ โดยหลังจากเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ก็จะนำมาหักกลบหนี้ที่นำไปใช้ในการซื้อปัจจัยการผลิต โดยที่รัฐจะไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตกรกรแต่อย่างไร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของเกษตรกรลดลง เพราะไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ยมหาโหดจากเงินกู้นอกระบบ
อีกทั้งการที่รัฐจะเป็นผู้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตให้ก่อน ซึ่งเป็นปริมาณที่มาก รัฐก็จะสามารถต่อรองราคาปัจจัยการผลิตต่างๆให้ถูกลงมาได้ เพื่อให้ชาวนาได้ปัจจัยการผลิตที่ถูกลง และเชื่อว่าบริษัทที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตเหล่านี้ก็ยินดีที่จะลด ราคาลงเพื่อสนองนโยบายของรัฐ และได้ประโยชน์ในการที่จะสามารถขายสินค้าได้เป็นจำนวนมาก โดยมีรัฐเป็นผู้ชำระให้ล่วงหน้า เหมือนกับการทำเซคเคียวรีไทซ์เซชั่นรายได้ให้กับเกษตรกรล่วงหน้า ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยกเว้น นายทุนปล่อยกู้หนี้นอกระบบ และพ่อค้าคนกลางที่คอยเอาเปรียบเกษตรเท่านั้นที่อาจจะไม่ชอบใจในนโยบายนี้ เพราะจะไม่ได้ผลประโยชน์จากเกษตรกรอย่างที่เคยได้รับ อย่างไรก็ดีในทุกขั้นตอนเหล่านี้จะต้องไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น
“เมื่อไรก็ตามที่สามารถทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ก็เท่ากับประเทศนี้ได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว" อดีต รมช.คลัง กล่าว
**"ภูมิใจห้อย"ถกยุทธศาสตร์พรรควันนี้
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ว่า ขณะนี้การจัดตัวผู้สมัครเขตเสร็จแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ แต่ระบบบัญชีรายชื่อ ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งยุทธศาสตร์การหาเสียงและนโยบายของพรรคได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยการประชุมพรรควันนี้ (25 เม.ย.) แกนนำพรรคจะนำแผนยุทธศาสตร์มาหารือกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำคนสำคัญของพรรค ได้ให้กำลังใจกับลูกพรรคก่อนการเลือกตั้ง โดยมีการถ่ายทอดประสบการณ์ทางการเมือง และการรณรงค์หาเสียง ซึ่งนายเนวิน เน้นย้ำว่าการที่ ส.ส.จะได้คะแนน ต้องไปเอาคะแนนให้กับตัวเองโดยให้ผู้สมัครส.ส. ต้องลงพื้นที่มากที่สุด
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งในนี้กรรมการบริหารพรรคจะนำยุทธศาสตร์ และนโยบายหาเสียงมาหารือในที่ประชุม แต่ยังไม่มีการประกาศยุทธศาสตร์พรรคอย่างเป็นทางการ เพราะขณะนี้ยังมีเวลาอีกพอสมควรก่อนมีการยุบสภา ถึงแม้หลายพรรคการเมืองจะประกาศยุทธศาสตร์ในการหาเสียงไปแล้วก่อนหน้านี้ก็ตาม
**นโยบายด้านเศรษฐกิจ
1. รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เชื่อมคุนหมิง ภาคอีสาน สู่ภาคใต้ เชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย เพื่อพัฒนาการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว
2. สร้างแหลมฉบังให้เป็นเมืองท่าสมบูรณ์แบบ (Harbor City) พร้อมรถไฟความเร็วสูง เชื่อมกรุงเทพฯ แหลมฉบังและระยอง และเครือข่ายโลจิสติกส์ ด้วยเงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท
3. พลิกโฉมเมืองท่องเที่ยวตลอดชายฝั่งทะเลภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อให้ ประเทศ ไทยเป็น “มนต์เสน่ห์แห่งเอเชีย” (The Rhythm of Asia) ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ต่อปี
4. ขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3 G อินเตอร์เน็ตชุมชน สู่ทุกตำบลทั่วประเทศ ภายใน 4 ปี
5. สร้างเขตเศรษฐกิจเกษตรพิเศษ เพื่อจัดระบบการผลิต การแปรรูป และการตลาดสินค้า เกษตร ที่มีมาตรฐานคุณภาพ และมูลค่าสูง
6. เดินหน้าต่อในการบริหารจัดการแหล่งน้ำทั่วประเทศ ขยายพื้นที่ชลประทาน เพิ่มปริมาณน้ำ อุตสาหกรรม และขยายประปาชุมชน
7. เร่งจัดหาพลังงานทดแทน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจาก พืชพลังงาน ลม แสงอาทิตย์ ชีวภาพ และขยะ
** ด้านสังคม และครอบครัว
1. ไฟฟ้าฟรีถาวร สำหรับผู้ใช้ไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน
2. จัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด จัดตั้งกองกำลังพิเศษ 2,500 นาย
3. มอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ทุกคนทุกเดือน
4. โครงการบ้านมั่นคง (ซ่อมแซม จัดสาธารณูปโภค และสร้างบ้านใหม่) ของชุมชนแออัดใน เมือง และหมู่บ้านทั่วประเทศ
5. บัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรีอย่างมีคุณภาพ
6. เพิ่มเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย 250,000 คน
7. พัฒนาศูนย์เด็กเล็กคุณภาพในทุกพื้นที่
**ด้านค่าครองชีพ และประกันสังคม
1. เพิ่มเงินกำไรอีกร้อยละ 25 จากโครงการประกันรายได้เกษตรกร (ชาวนา ชาวไร่ข้าวโพด ชาวมันสำปะหลัง)
2. ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำร้อยละ 25 ในเวลา 2 ปี พร้อมพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน
3. จัดโฉนดชุมชนให้เกษตรกรมีที่ทำกินอีก 250,000 คน บนที่ดินของรัฐ
4. ปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และสร้างโอกาสใหม่แก่ชีวิตของประชาชนให้ครบ 1 ล้านคน
5. ขยายประกันสังคมสำหรับเกษตรกรและแรงงานนอกระบบให้ครอบคลุม 25 ล้านคน เพื่อรับเงินชดเชยรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และบำเหน็จชราภาพ
6. จัดให้มีบำนาญประชาชนหลังอายุ 60 ปี โดยรัฐร่วมสมทบในกองทุนการออมแห่งชาติ 7. พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างสินค้าและบริการ บนพื้นฐานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยงบประมาณ 20,000 ล้านบาท
**เด็กแม้วขายฝัน"บัตรเดรดิตชาวนา"
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วีดีโอลิงค์มาแนะแนวทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภายในงาน ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทั่วประเทศ ณ ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมากคือ ไอเดีย เรื่อง "เครดิตการ์ด" ของ เกษตรกร
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า " เกษตรกรอยู่ต่างจังหวัด เมื่อไม่มีเงินก็ต้องไปวิงวอนเถ้าแก่ขอปุ๋ย ยอมจ่ายดอกเบี้ย แต่เมื่อเอาการ์ดไปวางแล้วรูด มันเท่ มีศีกดิ์ศรีกว่าเยอะ วิธีการคือ จากที่รับจำนำอยู่แล้ว ก็คำนวณข้าวว่า ทำข้าวได้กี่ตัน เป็นเงินเท่าไร แล้วตั้งวงเงินไว้ อย่างเช่น มีวงเงินอยู่จำนวนหนึ่งก็เอาไปซื้อ หรือใช้เป็นค่าจ้างวาน จากนั้นใช้ระบบทำด้วยคอมพิวเตอร์ จำกัดการใช้ไม่ให้ไปซื้อสิ่งของอย่างอื่น เมื่อเอาข้าวส่งมอบจำนำครั้งหนึ่ง ล้างบัญชี แล้วก็จบ ครั้งหน้าก็เอาไปใหม่ เพราะฉะนั้นจะไม่มีหนี้เสีย"
ล่าสุดนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช.คลัง ขยายแนวคิดเรื่อง"บัตรชาวนา" ว่า แนวความคิดในการทำบัตรให้เกษตรกรที่เป็นเหมือนเครดิตการ์ดใน การนำไปใช้ในการจัดซื้อปัจจัยการผลิต น่าจะเป็นวิธีการที่ดีในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร ในเรื่องการตกเขียว การกู้หนี้นอกระบบ การถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง เป็นการเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับเกษตรกร ที่ไม่ต้องไปกราบไหว้ใครเพื่อ กู้ยืมเงินมาซื้อปัจจัยการผลิตอีกต่อไป อีกทั้งยังจะทำให้เกษตรกรได้ซื้อราคาปัจจัยการผลิตในราคาที่ถูกลง
โดยวิธีการ คือ รัฐจะจัดทำบัตรเกษตรกร ซึ่งเหมือนกับเครดิตการ์ดให้กับเกษตรกร โดย เกษตรกร สามารถที่จะนำไปจัดซื้อปัจจัยการผลิตทุกชนิดได้ล่วงหน้า โดยรัฐจะเป็นผู้ชำระให้ก่อน โดยเกษตรกรไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบไม่ต้องรับการตกเขียว และไม่ต้องไปกราบไหว้ห้างร้านที่จำหน่ายปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงฯลฯ
โดยบัตรนี้จะสามารถซื้อได้เฉพาะปัจจัยการผลิตเท่านั้น และจะมีวงเงินกำหนด และปริมาณการจัดซื้อในแต่ละชนิด ตามจำนวนเนื้อที่เพาะปลูกที่เกษตรกรมีอยู่ โดยหลังจากเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ก็จะนำมาหักกลบหนี้ที่นำไปใช้ในการซื้อปัจจัยการผลิต โดยที่รัฐจะไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตกรกรแต่อย่างไร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของเกษตรกรลดลง เพราะไม่ต้องไปเสียดอกเบี้ยมหาโหดจากเงินกู้นอกระบบ
อีกทั้งการที่รัฐจะเป็นผู้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตให้ก่อน ซึ่งเป็นปริมาณที่มาก รัฐก็จะสามารถต่อรองราคาปัจจัยการผลิตต่างๆให้ถูกลงมาได้ เพื่อให้ชาวนาได้ปัจจัยการผลิตที่ถูกลง และเชื่อว่าบริษัทที่จำหน่ายปัจจัยการผลิตเหล่านี้ก็ยินดีที่จะลด ราคาลงเพื่อสนองนโยบายของรัฐ และได้ประโยชน์ในการที่จะสามารถขายสินค้าได้เป็นจำนวนมาก โดยมีรัฐเป็นผู้ชำระให้ล่วงหน้า เหมือนกับการทำเซคเคียวรีไทซ์เซชั่นรายได้ให้กับเกษตรกรล่วงหน้า ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยกเว้น นายทุนปล่อยกู้หนี้นอกระบบ และพ่อค้าคนกลางที่คอยเอาเปรียบเกษตรเท่านั้นที่อาจจะไม่ชอบใจในนโยบายนี้ เพราะจะไม่ได้ผลประโยชน์จากเกษตรกรอย่างที่เคยได้รับ อย่างไรก็ดีในทุกขั้นตอนเหล่านี้จะต้องไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น
“เมื่อไรก็ตามที่สามารถทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ก็เท่ากับประเทศนี้ได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว" อดีต รมช.คลัง กล่าว
**"ภูมิใจห้อย"ถกยุทธศาสตร์พรรควันนี้
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย ว่า ขณะนี้การจัดตัวผู้สมัครเขตเสร็จแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ แต่ระบบบัญชีรายชื่อ ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งยุทธศาสตร์การหาเสียงและนโยบายของพรรคได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยการประชุมพรรควันนี้ (25 เม.ย.) แกนนำพรรคจะนำแผนยุทธศาสตร์มาหารือกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำคนสำคัญของพรรค ได้ให้กำลังใจกับลูกพรรคก่อนการเลือกตั้ง โดยมีการถ่ายทอดประสบการณ์ทางการเมือง และการรณรงค์หาเสียง ซึ่งนายเนวิน เน้นย้ำว่าการที่ ส.ส.จะได้คะแนน ต้องไปเอาคะแนนให้กับตัวเองโดยให้ผู้สมัครส.ส. ต้องลงพื้นที่มากที่สุด
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งในนี้กรรมการบริหารพรรคจะนำยุทธศาสตร์ และนโยบายหาเสียงมาหารือในที่ประชุม แต่ยังไม่มีการประกาศยุทธศาสตร์พรรคอย่างเป็นทางการ เพราะขณะนี้ยังมีเวลาอีกพอสมควรก่อนมีการยุบสภา ถึงแม้หลายพรรคการเมืองจะประกาศยุทธศาสตร์ในการหาเสียงไปแล้วก่อนหน้านี้ก็ตาม