จากอดีตถึงปัจจุบัน การดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ช่วยผลักดันให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน จากเดิมที่ไทยต้องพึ่งพาการนำเข้ามาสู่การผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าและการส่งออก จนส่งผลให้ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอาเซียนในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
นโยบายของบีโอไอที่สนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตใช้ไทยเป็นฐานการผลิตของภูมิภาคได้มีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 13 ของโลก วันนี้เราคือฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อของโลก รวมทั้งเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพอีกด้วย
จากเดิมที่คนไทยต้องซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ บีโอไอก็ได้ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของกลุ่มนี้ขึ้นในประเทศ ทำให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ต่างมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ต่างก็เข้ามาลงทุนในประเทศไทย จนกลายเป็นฐานการผลิตและส่งออกฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ อันดับ 1 ของโลก
บทบาทการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของบีโอไอ ยังช่วยให้เกิดการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยนำจุดแข็งที่ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำให้สามารถผลักดันอุตสาหกรรมอาหารของไทยก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมอาหารชั้นนำของโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารป้อนคนทั่วโลก รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา จนกลายเป็นผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย
นอกจากนี้ บีโอไอยังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษและพลาสติก ยาและเวชภัณฑ์ เป็นต้น
นโยบายในการส่งเสริมการลงทุน ได้เปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ เพื่อให้ทันต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก และเอื้อต่อการสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคอุตสาหกรรม จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ บีโอไอได้ผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมของไทย ก้าวไปสู่การลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่อุตสาหกรรมไทย
อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคอุตสาหกรรมในวันนี้ ไม่อาจมุ่งเน้นเพียงแค่เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่หากต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
บีโอไอ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างการลงทุนเพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ ลงทุนแล้วเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมาย ให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศ สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเกื้อกูลกัน และจะนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
ภายใต้นโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บีโอไอมีมาตรการกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม กระตุ้นให้ลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานทดแทน และกระตุ้นให้ลงทุนปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต ให้โรงงานอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงกระตุ้นให้มีการผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 10 – 25 พฤศจิกายน 2554 ประเทศไทยจะมีการจัดงานนิทรรศการระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ชื่อว่า BOI Fair 2011 Going Green for the Future เป็นงานแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยของอุตสาหกรรม รวมทั้งจัดแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความตั้งใจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของภาคอุตสาหกรรมแล้ว งานบีโอไอแฟร์ ยังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนประชาชนคนไทยให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนอีกด้วย
ขณะนี้ มีบริษัทชั้นนำ ทั้งของไทยและต่างประเทศ ตอบรับเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงานบีโอไอแฟร์ 2011 เป็นจำนวนมาก และได้มีการจองพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการกลางแจ้ง ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี จนครบ 84 พาวิลเลียนแล้ว โดยบริษัทจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เครื่องดื่ม ปิโตรเคมี กระดาษ
และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทชั้นนำกว่า 30 ราย ได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญาจองพื้นที่ในงานบีโอไอแฟร์ อย่างเป็นทางการ และหลายบริษัทได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะจัดแสดงทั้งเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และเทคโนโลยีการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของโลก มาให้คนไทยได้เห็นก่อนใคร ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร อุปกรณ์ ไบโอพลาสติก พลังงานทดแทน
บีโอไอแฟร์ 2011 ปลายปีนี้ จึงไม่ใช่แค่นิทรรศการที่ยิ่งใหญ่สุดจะไฮเทคเท่านั้น แต่ยังเป็นนิทรรศการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย รวมทั้งจะเป็นการตอกย้ำ สร้างความมั่นใจให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมในวันนี้ พร้อมที่จะพัฒนาและดำรงอยู่เคียงคู่ไปกับคุณภาพสังคมที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี และสิ่งแวดล้อมที่ดีของประเทศไทย
ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่ศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2553-8111 หรือที่ head@boi.go.th
นโยบายของบีโอไอที่สนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตใช้ไทยเป็นฐานการผลิตของภูมิภาคได้มีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 13 ของโลก วันนี้เราคือฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อของโลก รวมทั้งเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพอีกด้วย
จากเดิมที่คนไทยต้องซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ บีโอไอก็ได้ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของกลุ่มนี้ขึ้นในประเทศ ทำให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ต่างมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ต่างก็เข้ามาลงทุนในประเทศไทย จนกลายเป็นฐานการผลิตและส่งออกฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ อันดับ 1 ของโลก
บทบาทการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของบีโอไอ ยังช่วยให้เกิดการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยนำจุดแข็งที่ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำให้สามารถผลักดันอุตสาหกรรมอาหารของไทยก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมอาหารชั้นนำของโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารป้อนคนทั่วโลก รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา จนกลายเป็นผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย
นอกจากนี้ บีโอไอยังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษและพลาสติก ยาและเวชภัณฑ์ เป็นต้น
นโยบายในการส่งเสริมการลงทุน ได้เปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ เพื่อให้ทันต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก และเอื้อต่อการสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคอุตสาหกรรม จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ บีโอไอได้ผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมของไทย ก้าวไปสู่การลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่อุตสาหกรรมไทย
อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคอุตสาหกรรมในวันนี้ ไม่อาจมุ่งเน้นเพียงแค่เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่หากต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
บีโอไอ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างการลงทุนเพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ ลงทุนแล้วเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมาย ให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศ สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเกื้อกูลกัน และจะนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
ภายใต้นโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บีโอไอมีมาตรการกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม กระตุ้นให้ลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานทดแทน และกระตุ้นให้ลงทุนปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต ให้โรงงานอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงกระตุ้นให้มีการผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 10 – 25 พฤศจิกายน 2554 ประเทศไทยจะมีการจัดงานนิทรรศการระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ชื่อว่า BOI Fair 2011 Going Green for the Future เป็นงานแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยของอุตสาหกรรม รวมทั้งจัดแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความตั้งใจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของภาคอุตสาหกรรมแล้ว งานบีโอไอแฟร์ ยังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนประชาชนคนไทยให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนอีกด้วย
ขณะนี้ มีบริษัทชั้นนำ ทั้งของไทยและต่างประเทศ ตอบรับเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงานบีโอไอแฟร์ 2011 เป็นจำนวนมาก และได้มีการจองพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการกลางแจ้ง ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี จนครบ 84 พาวิลเลียนแล้ว โดยบริษัทจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เครื่องดื่ม ปิโตรเคมี กระดาษ
และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทชั้นนำกว่า 30 ราย ได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญาจองพื้นที่ในงานบีโอไอแฟร์ อย่างเป็นทางการ และหลายบริษัทได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะจัดแสดงทั้งเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และเทคโนโลยีการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของโลก มาให้คนไทยได้เห็นก่อนใคร ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร อุปกรณ์ ไบโอพลาสติก พลังงานทดแทน
บีโอไอแฟร์ 2011 ปลายปีนี้ จึงไม่ใช่แค่นิทรรศการที่ยิ่งใหญ่สุดจะไฮเทคเท่านั้น แต่ยังเป็นนิทรรศการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย รวมทั้งจะเป็นการตอกย้ำ สร้างความมั่นใจให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมในวันนี้ พร้อมที่จะพัฒนาและดำรงอยู่เคียงคู่ไปกับคุณภาพสังคมที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี และสิ่งแวดล้อมที่ดีของประเทศไทย
ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่ศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2553-8111 หรือที่ head@boi.go.th
