xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ลั่น 5 ปี ไทยติดท็อปเทนผลิตรถยนต์ “บริดจสโตน” ยกนิ้วให้เป็นพี่เบิ้มในอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“มาร์ค” ชี้ ศก.โลก เปราะบาง-อยู่ในภาวะเสี่ยง เตือนธุรกิจยานยนต์ อาจเจอผลกระทบ พร้อมคาดหวังอีก 5 ปี ไทยติด 1 ใน 10 ผู้ผลิตอันดับโลก ผู้บริหารบริดจสโตน ยกไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญที่สุดในอาเซียน เผยมูลค่าลงทุนสูงถึง 7 หมื่นล้าน

นายโชชิ อารากาวา ประธานคณะกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานบริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor : HIA) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าเยี่ยมคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

โดย นายโชชิ ขอบคุณสำหรับการพบปะในครั้งนี้ และแสดงความยินดีที่ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนของ BOI โดยตนยินดีสนับสนุนการลงทุนของบริษัท บริดจสโตน ในประเทศไทยซึ่งขณะนี้มีมูลค่าการลงทุนถึง 70,000 ล้านบาท ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางการลงทุนของบริษัทฯ ที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และมีความพร้อมในหลายด้าน เช่นคุณภาพชีวิตและสังคม ที่ดีกว่าในหลายประเทศ

ส่วนนายกฯ กล่าวถึงความสำคัญของ นายโชชิ ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน ของ BOI เราะถือว่าเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบปะกับผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำทั่วโลก และเห็นว่าที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์มีการฟื้นตัวอย่างมาก และมียอดขายเพิ่มสูงอย่างมหาศาลในหลายประเทศ

เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีการส่งออกเมื่อปีที่แล้วกว่าร้อยละ 60 และในอีก 5 ปีข้างหน้า ไทยจะก้าวไปสู่ 1 ใน 10 ของผู้ผลิตของโลก เพราะประเทศไทยมีความได้เปรียบในหลายด้าน เช่น มีการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่องมาหลายทศวรรษ รัฐบาลมีนโยบายที่ต่อเนื่องในการส่งเสริมอุตสาหกรรม และตลาดอาเซียน ที่กำลังจะกลายเป็นตลาดเดียวในอนาคตอันใกล้

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังอ่อนไหว และมีภาวะเสี่ยง อาจกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม รัฐบาลจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากบริษัทมีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการในประเทศไทยอย่างไร ขอได้แจ้งให้รัฐบาลทราบทันทีจะได้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

นายกฯ และ นายโชชิ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาราคาน้ำมัน และยางพาราที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าคงจะลดลงได้ยาก จึงต้องหันไปเน้นการพัฒนารถยนต์ ECO Car ที่จะช่วยประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ในส่วนของประเทศไทย นอกจากจะเน้นการพัฒนารถยนต์ดังกล่าวแล้ว ยังมีการขยายพื้นที่การเพาะปลูกยางพาราขึ้นในหลายส่วนของประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดด้วย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงานคุณภาพ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลได้กำชับให้กระทรวงแรงงานดูแลปัญหาแรงงานอย่างใกล้ชิด และเร่งผลิตบุคลากรอาชีวศึกษา เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น