“อภิสิทธิ์” มอบหมาย “เทพเทือก” นั่งรักษาการนายกฯ ดูแลสถานการณ์ทางการเมือง ในระหว่างการเดินไปประชุม WEF ด้าน พผ.ผวากระแสข่าวปฏิวัติ จี้ “มาร์ค” ชิงยุบสภาหลังแก้ รธน.เสร็จสิ้น หวั่น รบ.นี้เกิดและดับเพราะทหาร พร้อมเร่งแก้ปัญหาระดับผู้นำ ให้มีแนวทางชัดเจน แนะเปลี่ยน “รมต.องอาจ” ไปเจรจาแทน “กษิต” ค้าน บัวแก้ว ออกสมุดปกขาว
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชา ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ทั้งนี้ คาดว่า หลังการเลี้ยงน้ำชาแล้วได้มีการหารือนอกรอบกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุม ประจำปี World Economic Forum (WEF) ครั้งที่ 41 ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 28-31 ม.ค.นี้ เพื่อมอบหมายภารกิจ และนโยบายการดูแลสถานการณ์การเมืองแก่นายสุเทพ ที่รักษาการนายกรัฐมนตรี
ด้าน นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ โฆษกวอร์รูมพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติว่า ยอมรับว่า เวลานี้มีกระแสข่าวการปฏิวัติออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการพูดถึงขั้นว่าปีนี้จะไม่มีการเลือกตั้ง สถานการณ์การเมืองเวลานี้ค่อนข้างจะแปลกๆ หลายต่อหลายเรื่อง มีการชุมนุมของ 3 กลุ่ม พร้อมกันออกมาไล่รัฐบาล โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาเตรียมวางระเบิดได้ที่สี่แยกสวนมิสกวัน ถนนราชดำเนินนอก แขวง-เขตดุสิต กทม.ก่อนการชุมนุมของกลุ่มคนพันธมิตรฯ และสามารถขยายผลจับกุมคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และระเบิดที่ซุกซ่อน ที่ดูเหมือนว่า ง่ายเหลือเกิน มีการรับสารภาพอย่างง่ายดาย บอกหมดว่า มีการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ อย่างไร เพิ่งรู้ว่าโจรบ้านเราจับแล้วคายความลับทุกอย่างหมด ส่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯ ตนก็ไม่เชื่อว่า จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพราะแนวร่วมยังไม่มากเท่าไร
“แต่ทั้งนี้ นายกฯควรรีบดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ควรประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว นายกฯอภิสิทธิ์ จะได้ไม่ถูกพูดได้ว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากทหาร และไปเพราะทหาร” นพ.ภูมินทร์ กล่าว
ขณะที่ นายต่อพงษ์ ไชยสาสน์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาความสัมพันธ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ยังมีอยู่นั้นว่า เท่าที่พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยวิเคราะห์สถานการณ์แล้ว ทางพรรคเพื่อไทย อยากให้รัฐบาลทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการระดับผู้นำ เพื่อให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนในการเจรจาแก้ไขปัญหากรณีพระวิหาร และอีกหลายเรื่อง ต่างควรรีบส่งตัวแทนพบปะเจรจาอาจเป็นแบบทวีภาคี พร้อมไม่เห็นด้วยที่กระทรวงการต่างประเทศ จะออกสมุดปกขาว จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์สองประเทศแย่ลงไป ควรคำนึงถึงความละเอียดอ่อนในการดำเนินการมากกว่านี้ เพราะสถานการณ์ไปไกลเกินกว่าจะมาคิดออกสมุดปกขาว
“ถึงวันนี้ต้องยอมรับว่า ตลอด 2 ปี ที่รัฐบาลบริหารประเทศมา เห็นได้ชัดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ไทยกับกัมพูชา ไม่ดีขึ้น และไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นเกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี จะต้องให้ใจ และมีใจในการพูดคุยเจรจากับผู้นำของกัมพูชามากกว่านี้ เชื่อว่าปัญหาจะไม่เกิดการเผชิญหน้าขึ้นอย่างในขณะนี้ จนมีกลุ่มคนออกมากดดัน อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ควรเปลี่ยนบุคคลในรัฐบาลในการเข้าไปเจรจาโดยเห็นได้ชัดหลังจาก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปพบหารือกับ สมเด็จ ฮุนเซ็น กลับมามีการแลกเปลี่ยน และความสัมพันธ์ดีขึ้น จนถึงวันนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรียังไม่สายที่จะแก้ไขปัญหา” นายต่อพงษ์ ย้ำ
ส่วนกรณีที่กัมพูชามีการปักธงชาติกัมพูชา บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศในปัญหาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.นั้น นายต่อพงษ์ ตอบว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะเป็นพื้นที่ข้อพิพาท แต่หากเป็นพื้นที่ที่บนพระวิหาร ก็ทำได้ เพราะเป็นพื้นที่ของกัมพูชา
