“มาร์ค” กร้าวสั่งปลดธงเขมรเหนือวัดแก้วฯ มั่นใจ “ประยุทธ์” ไม่ปฏิวัติ

“มาร์ค” เข้มหากมีธงเขมรที่วัดแก้วฯ จริง ต้องเอาลง เหตุมีบทเรียนมาแล้วในพื้นที่ 7 คนไทยถูกจับ มีการชักธงจนกัมพูชานำมาอ้าง เตรียมนำปัญหาป้ายเขมรในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหารรายงานให้ กก.มรดกโลก รู้หากยังเดินหน้าบริหารจัดการพื้นที่จะเกิดความขัดแย้งรุนแรง นายกฯมั่นใจ “ประยุทธ์” ไม่ปฏิวัติ ยันสูตร 375+125 ไม่มีใครได้เปรียบ แต่อยู่ที่ควรมนิยมของประชาชน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชามีการปักธงชาติกัมพูชา บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ใกล้ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ ว่า ถ้ามีก็คงจะต้องเอาลง ยกตัวอย่างกรณีพื้นที่ที่คนไทย 7 คนถูกจับกุม บริเวณนั้นก็เคยมีปัญหาเรื่องการชักธง ก็บอกไม่ได้ ซึ่งเป็นแนวที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว และยังไม่ทราบว่ามีเรื่องปักธงตรงไหนอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จะนำไปใช้ประโยชน์ในเวทีมรดกโลกอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ต้องรายงานให้ทางคณะกรรมการมรดกโลก เห็นว่าหากเดินหน้าบริหารจัดการพื้นที่ตรงนี้ มีแต่จะทำให้เกิดความตรึงเครียด ความขัดแย้ง ความรุนแรง ซึ่งตรงกันข้ามกับวัตถุประสงค์ของการมีอยู่ของคณะกรรมการมรดกโลก

สำหรับข่าการปฏิวัตินั้น นายอภสิทิธิ์ยืนยันว่า ไม่มี เพราะทหารคงไม่คิดจะปฏิวัติ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวสั้นๆ ว่า มั่นใจ

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.เขต ให้น้อยลง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพิ่มมากขึ้นว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีปัญหา ไม่ถือว่าเป็นความแตกแยกภายในพรรค เวลาที่มีการเลือกตั้ง มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.เปลี่ยนแปลงเขตก็จะมีปัญหาเป็นเรื่องปกติ เป็นปัญหาของนักการเมือง เรื่องนี้พรรคการเมืองจะแก้กันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยึดหลักอย่างไรพิจารณา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยึดหลักความเหมาะสมถ้าจำเป็นต้องลดไป 1 คน อีก 1 คน จะทำอย่างไร ต่อข้อถามที่ว่า พรรคเพื่อไทย มองว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้เปรียบจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนดังกล่าว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าไปวิเคราะห์อย่างนั้นเพราะอะไร ในเมื่อหลายฝ่ายและพรรคเพื่อไทยเองก็เรียกร้องให้เป็นเขตเล็ก บัญชีรายชื่อทั้งพรรคเพื่อไทย หรือเดิมพรรคพลังประชาชน กับพรรคประชาธิปัตย์ ในเขตเลือกตั้ง ก็ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน ขึ้นอยู่กับความนิยมของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะมีการเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ และจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมคิดว่าทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง เราเพิ่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปไม่นาน แต่มีสถานการณ์ใหม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น คิดว่า เดือนหน้าสถานการณ์จะชัดเจนมากขึ้น

ต่อข้อถามว่า หมายความว่านายกรัฐมนตีรจะต้องสามารถเดินทางลงพื้นที่เพื่อหาเสียงเลือกตั้งตามจังหวัดต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตามที่ตนลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ก็ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าเป็นปัญหาความรุนแรง ในใจตนอยากเรียกร้อง ว่า “ถ้าใช้จิตใจของความเป็นประชาธิปไตยก็ไม่ควรขัดขวางกัน ไม่ว่าจะกรณีใดๆ”

ส่วนที่ นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่า หากสถานการณ์สงบจะเตรียมพร้อมยุบสภา เลือกตั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ามีความชัดเจนจะบอก