ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ภายหลังจากมีการเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่เสร็จสิ้น โดย พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ส.ว.สรรหา ได้รับเลือกเป็นประธานคนใหม่ จากนั้นที่ประชุมได้รับรองรายชื่อกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำวุฒิสภา ทั้ง 22 คณะ ก่อนที่จะมีการนัดประชุมกมธ. เพื่อเลือกประธาน ในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ได้หารือว่า ในช่วงบ่ายที่จะมีการเลือกประธานกมธ. 22 คณะนั้น ขณะนี้ทราบว่ามีการล็อบบี้โดยกล่าวหาว่าตนไปข่มขู่ ส.ว.ให้บางคนมาลงมติเลือกประธานกมธ.คณะหนึ่งให้เป็นไปตามวิถีที่ตนต้องการ ซึ่งขอยืนยันว่า ตนเป็นแค่นายประสิทธิ์ ไม่มียศ “พลเอก” จะทำได้อย่างไร ขณะนี้มี กมธ.คณะหนึ่งคือ คณะวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร และโทรคมนาคม ซึ่งมีสมาชิก 2 ฝ่ายก้ำกึ่งกัน ในจำนวน 15 คน ซึ่งมี กมธ.บางคนถูกกดดันไม่ให้เข้าประชุมเพื่อเลือกประธานกมธ.บ้าง เพราะเสียงที่ขาดไป 1 เสียง จะทำให้การเลือกประธานกมธ.เปลี่ยนไปทันที จึงขอปรึกษาให้ รองประธานวุฒิสภา รักษาการประธานวุฒิสภา งดการประชุม กมธ. เพื่อเลือกประธานกมธ. ในคณะที่มีเสียงก้ำกึ่งกัน และสมาชิกมาไม่ครบในช่วงบ่าย
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมยืนยันว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเอง ทั้งที่ผมมีหลักฐานพยานบุคคลยืนยันได้ว่าในการกระทำเช่นนี้เกิดจากบุคคลที่เป็น ส.ว.รายหนึ่ง ยศพลเอก ที่ชอบพูดว่า จะเข้ามาขจัดคนชั่ว รักความเป็นธรรม แต่กลับมาดำเนินการกดดัน เล่นเกมนอกสภา ขณะนี้มี ส.ว.ที่เป็นกมธ.วิทยาศาสตร์ฯ ถูกกดดันแบบนี้อย่างน้อย 4 คน โดยใช้วิธีการให้รัฐมนตรี ส.ส. หรือผู้มีอำนาจในพื้นที่ บีบให้เลือกประธานที่มาจาก ส.ว.สรรหา ผู้หนึ่ง เหตุการณ์แบบนี้จะทำให้เกิดความชอบธรรมเป็นกลางในฐานะวุฒิสภาได้อย่างไร ในเมื่อคนที่อ้างว่าจะมาขจัดคนชั่วกลับประพฤติเสียเอง" นายประสิทธิ์ กล่าว
ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนรู้สึกถึงความผิดปกติตั้งแต่วันแรกที่ กมธ.คณะนี้ มีผู้มาแสดงความจำนงเป็นกมธ. ถึง 32 คน ไม่รู้ว่า มีขุมทองอยู่ในคณะนี้หรืออย่างไร ตนเป็นกมธ.มา 3 ปี ไม่ได้ทองสักเส้นเดียว เพียงแต่เมื่อทำมาแล้ว 3 ปี ก็อยากสานงานต่อ แต่มีข่าวว่าผู้หลักผู้ใหญ่มาล็อบบี้ ข่มขู่ จึงไม่สบายใจ
ต่อมานายประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เบื้องหลังการเลือกกมธ. ที่บอกว่าบริสุทธิ์ยุติธรรมนั้น ไม่จริง มีการเตรียมการมาทั้งนั้น ต่างคนต่างเตรียมกันมา และใส่ร้ายกัน
เมื่อถามว่าคณะดังกล่าวมีผลประโยชน์ขนาดไหน ถึงต้องแข่งขันแย่งชิงกันหนักอย่างนี้ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่การทำงานที่ผ่านมาตรวจสอบได้ทุกเรื่องที่เราศึกษาส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หมด
เมื่อถามว่าเกี่ยวกับการเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า มันก็รวมกันอยู่ในนั้นด้วย เมื่อถามซ้ำว่ากรรมาธิการฯไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติ กสทช. นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การตรวจสอบประวัติกรรมาธิการฯ ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แค่นั้น ที่ผ่านมาตนได้สั่งให้ตรวจสอบกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กทช.) ส่งเงินมาให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 84 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่า เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เลยทำให้ทุกอย่างต้องมาถล่มตน เขาทำโครงการแล้วจ่ายเงินสปอนเซอร์มาที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จึงอยากให้สื่อไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย และอยากถามว่าคนที่ทำแบบนี้สมควรมาเป็น กสทช.หรือไม่ ซื้อเสียงล่วงหน้าแบบนี้
เมื่อถามว่าคนที่ส่งเงินมาเกี่ยวกับการลงสมัครด้วยหรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เขาสมัครหมดทั้ง 5 คน แล้วเขาส่งมาทั้ง 5 คน นั่นแหละ เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ( กทช. ) ตอนนี้ใช่หรือไม่ นายประสิทธิ์ ตอบว่า ใช่ เงินนี้ส่งมาประมาณวันที่ 24-25 มี.ค. ลองไปถามเลขาธิการวุฒิสภาได้
เมื่อถามว่าแสดงว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการซื้อเสียงล่วงหน้าของกรรมการ กสทช. นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนถามไป กำลังจะสอบ สำคัญอยู่ตรงที่ขั้นตอนการเลือกกรรมการ กสทช.จาก 44 คนให้เหลือ 11 คน มันจะล็อบบี้กันตรงนี้ รับรองล็อกกันมโหฬาร เพราะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ ต้องดูแล กสทช. ส่วนโครงการที่เขาเอาเงินมาทำ ไปสืบเอาเอง ตนไปสั่งสอบเรื่องนี้เพราะดูแล้วมันมีเหตุมีผล เลยโดยแบบนี้
ต่อมา เวลา 13.30 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อเลือกประธาน กมธ.จำนวน 22 คณะ โดยที่จับตามากที่สุด คือ กมธ.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร และโทรคมนาคม เนื่องจากนายประสิทธิ ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีการล็อบบี้เลือกประธานกมธ. ระหว่างการประชุมวุฒิสภา
มีรายงานว่า ในการประชุมกมธ.วิทยาศาสตร์ฯ เป็นไปอย่างตึงเครียด เพราะมีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 14 คน จากทั้งหมด 15 คน โดยนายธันว์ ออสุวรรณ ส.ว.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม ทำให้ไม่สามารถเลือกประธานกมธ.ได้ เพราะทั้ง พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และ นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน ทั้งสองฝ่ายมีเสียงสนับสนุน 7 คะแนนเสียงเท่ากัน จึงมีผู้เสนอให้เลื่อนการประชุมเพื่อเลือกประธานกมธ. ออกไปเป็นวันที่ 25 เม.ย. เวลา 11.00 น. เพื่อกมธ.เดินทางมาประชุมให้ครบจำนวน
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.ว่า การกล่าวหาว่า นายทหารยศ "พลเอก" คนหนึ่ง เข้าไปล็อบบี้ตำแหน่งประธานกมธ. คิดว่าคงเป็นใครไม่ได้นอกจากตน เรื่องนี้ส่วนตัวไม่สบายใจตั้งแต่แรก เพราะมีการชิงไหวชิงพริบตั้งแต่การเลือก กมธ.แล้ว เหมือนเป็นความไม่ไว้วางใจกัน ตกอยู่บนความหวาดระแวง เอารัดเอาเปรียบ ภาพที่ออกมาทำให้ตนรู้สึกรันทดใจมาก สำหรับเหตุการณ์นี้เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย จึงเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 25 เม.ย.
" วันนี้ที่มีการกล่าวหา คิดเป็นการกล่าวหาผมโดยตรง คุณคิดว่าผมเป็นคนอย่างนั้นหรือ ขอเรียนว่า ประวัติผมไม่เคยรังแกใคร แต่ถ้าใครถูกรังแก ผมก็ไม่ชอบ และใครถูกรังแกให้มาบอก ผมพร้อมยินดีช่วย ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษชายชาติทหารตัวเล็กๆ คนหนึ่งไม่เคยใช้อิทธิพลใดๆ แม้จะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต ตั้งแต่รับราชการจนถึงเกษียณ "
เมื่อถามว่า การแข่งขันกันอย่างรุนแรงใน กมธ.วิทยาศาสตร์ มาจากการมีผลประโยชน์เกี่ยวกับการสรรหา กสทช. หรือไม่ พล.อ. สมเจตน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องกลับไปดูว่า 3 ปีที่ผ่านมา กมธ.ชุดนี้เกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร แต่จะเป็นศัตรูกับคนทำร้ายประเทศชาติเท่านั้น
ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ได้หารือว่า ในช่วงบ่ายที่จะมีการเลือกประธานกมธ. 22 คณะนั้น ขณะนี้ทราบว่ามีการล็อบบี้โดยกล่าวหาว่าตนไปข่มขู่ ส.ว.ให้บางคนมาลงมติเลือกประธานกมธ.คณะหนึ่งให้เป็นไปตามวิถีที่ตนต้องการ ซึ่งขอยืนยันว่า ตนเป็นแค่นายประสิทธิ์ ไม่มียศ “พลเอก” จะทำได้อย่างไร ขณะนี้มี กมธ.คณะหนึ่งคือ คณะวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร และโทรคมนาคม ซึ่งมีสมาชิก 2 ฝ่ายก้ำกึ่งกัน ในจำนวน 15 คน ซึ่งมี กมธ.บางคนถูกกดดันไม่ให้เข้าประชุมเพื่อเลือกประธานกมธ.บ้าง เพราะเสียงที่ขาดไป 1 เสียง จะทำให้การเลือกประธานกมธ.เปลี่ยนไปทันที จึงขอปรึกษาให้ รองประธานวุฒิสภา รักษาการประธานวุฒิสภา งดการประชุม กมธ. เพื่อเลือกประธานกมธ. ในคณะที่มีเสียงก้ำกึ่งกัน และสมาชิกมาไม่ครบในช่วงบ่าย
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมยืนยันว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเอง ทั้งที่ผมมีหลักฐานพยานบุคคลยืนยันได้ว่าในการกระทำเช่นนี้เกิดจากบุคคลที่เป็น ส.ว.รายหนึ่ง ยศพลเอก ที่ชอบพูดว่า จะเข้ามาขจัดคนชั่ว รักความเป็นธรรม แต่กลับมาดำเนินการกดดัน เล่นเกมนอกสภา ขณะนี้มี ส.ว.ที่เป็นกมธ.วิทยาศาสตร์ฯ ถูกกดดันแบบนี้อย่างน้อย 4 คน โดยใช้วิธีการให้รัฐมนตรี ส.ส. หรือผู้มีอำนาจในพื้นที่ บีบให้เลือกประธานที่มาจาก ส.ว.สรรหา ผู้หนึ่ง เหตุการณ์แบบนี้จะทำให้เกิดความชอบธรรมเป็นกลางในฐานะวุฒิสภาได้อย่างไร ในเมื่อคนที่อ้างว่าจะมาขจัดคนชั่วกลับประพฤติเสียเอง" นายประสิทธิ์ กล่าว
ด้านนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนรู้สึกถึงความผิดปกติตั้งแต่วันแรกที่ กมธ.คณะนี้ มีผู้มาแสดงความจำนงเป็นกมธ. ถึง 32 คน ไม่รู้ว่า มีขุมทองอยู่ในคณะนี้หรืออย่างไร ตนเป็นกมธ.มา 3 ปี ไม่ได้ทองสักเส้นเดียว เพียงแต่เมื่อทำมาแล้ว 3 ปี ก็อยากสานงานต่อ แต่มีข่าวว่าผู้หลักผู้ใหญ่มาล็อบบี้ ข่มขู่ จึงไม่สบายใจ
ต่อมานายประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เบื้องหลังการเลือกกมธ. ที่บอกว่าบริสุทธิ์ยุติธรรมนั้น ไม่จริง มีการเตรียมการมาทั้งนั้น ต่างคนต่างเตรียมกันมา และใส่ร้ายกัน
เมื่อถามว่าคณะดังกล่าวมีผลประโยชน์ขนาดไหน ถึงต้องแข่งขันแย่งชิงกันหนักอย่างนี้ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่การทำงานที่ผ่านมาตรวจสอบได้ทุกเรื่องที่เราศึกษาส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หมด
เมื่อถามว่าเกี่ยวกับการเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า มันก็รวมกันอยู่ในนั้นด้วย เมื่อถามซ้ำว่ากรรมาธิการฯไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติ กสทช. นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การตรวจสอบประวัติกรรมาธิการฯ ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แค่นั้น ที่ผ่านมาตนได้สั่งให้ตรวจสอบกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กทช.) ส่งเงินมาให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 84 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่า เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เลยทำให้ทุกอย่างต้องมาถล่มตน เขาทำโครงการแล้วจ่ายเงินสปอนเซอร์มาที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จึงอยากให้สื่อไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย และอยากถามว่าคนที่ทำแบบนี้สมควรมาเป็น กสทช.หรือไม่ ซื้อเสียงล่วงหน้าแบบนี้
เมื่อถามว่าคนที่ส่งเงินมาเกี่ยวกับการลงสมัครด้วยหรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เขาสมัครหมดทั้ง 5 คน แล้วเขาส่งมาทั้ง 5 คน นั่นแหละ เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ( กทช. ) ตอนนี้ใช่หรือไม่ นายประสิทธิ์ ตอบว่า ใช่ เงินนี้ส่งมาประมาณวันที่ 24-25 มี.ค. ลองไปถามเลขาธิการวุฒิสภาได้
เมื่อถามว่าแสดงว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการซื้อเสียงล่วงหน้าของกรรมการ กสทช. นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนถามไป กำลังจะสอบ สำคัญอยู่ตรงที่ขั้นตอนการเลือกกรรมการ กสทช.จาก 44 คนให้เหลือ 11 คน มันจะล็อบบี้กันตรงนี้ รับรองล็อกกันมโหฬาร เพราะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ ต้องดูแล กสทช. ส่วนโครงการที่เขาเอาเงินมาทำ ไปสืบเอาเอง ตนไปสั่งสอบเรื่องนี้เพราะดูแล้วมันมีเหตุมีผล เลยโดยแบบนี้
ต่อมา เวลา 13.30 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อเลือกประธาน กมธ.จำนวน 22 คณะ โดยที่จับตามากที่สุด คือ กมธ.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร และโทรคมนาคม เนื่องจากนายประสิทธิ ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีการล็อบบี้เลือกประธานกมธ. ระหว่างการประชุมวุฒิสภา
มีรายงานว่า ในการประชุมกมธ.วิทยาศาสตร์ฯ เป็นไปอย่างตึงเครียด เพราะมีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 14 คน จากทั้งหมด 15 คน โดยนายธันว์ ออสุวรรณ ส.ว.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม ทำให้ไม่สามารถเลือกประธานกมธ.ได้ เพราะทั้ง พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และ นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน ทั้งสองฝ่ายมีเสียงสนับสนุน 7 คะแนนเสียงเท่ากัน จึงมีผู้เสนอให้เลื่อนการประชุมเพื่อเลือกประธานกมธ. ออกไปเป็นวันที่ 25 เม.ย. เวลา 11.00 น. เพื่อกมธ.เดินทางมาประชุมให้ครบจำนวน
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.ว่า การกล่าวหาว่า นายทหารยศ "พลเอก" คนหนึ่ง เข้าไปล็อบบี้ตำแหน่งประธานกมธ. คิดว่าคงเป็นใครไม่ได้นอกจากตน เรื่องนี้ส่วนตัวไม่สบายใจตั้งแต่แรก เพราะมีการชิงไหวชิงพริบตั้งแต่การเลือก กมธ.แล้ว เหมือนเป็นความไม่ไว้วางใจกัน ตกอยู่บนความหวาดระแวง เอารัดเอาเปรียบ ภาพที่ออกมาทำให้ตนรู้สึกรันทดใจมาก สำหรับเหตุการณ์นี้เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย จึงเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 25 เม.ย.
" วันนี้ที่มีการกล่าวหา คิดเป็นการกล่าวหาผมโดยตรง คุณคิดว่าผมเป็นคนอย่างนั้นหรือ ขอเรียนว่า ประวัติผมไม่เคยรังแกใคร แต่ถ้าใครถูกรังแก ผมก็ไม่ชอบ และใครถูกรังแกให้มาบอก ผมพร้อมยินดีช่วย ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษชายชาติทหารตัวเล็กๆ คนหนึ่งไม่เคยใช้อิทธิพลใดๆ แม้จะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต ตั้งแต่รับราชการจนถึงเกษียณ "
เมื่อถามว่า การแข่งขันกันอย่างรุนแรงใน กมธ.วิทยาศาสตร์ มาจากการมีผลประโยชน์เกี่ยวกับการสรรหา กสทช. หรือไม่ พล.อ. สมเจตน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องกลับไปดูว่า 3 ปีที่ผ่านมา กมธ.ชุดนี้เกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร แต่จะเป็นศัตรูกับคนทำร้ายประเทศชาติเท่านั้น