รายงานข่าวจากวุฒิสภาแจ้งว่า การขอเสียงสนับสนุนบุคคลชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่จะมีการประชุมเพื่อเลือกประธานคนใหม่ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ มีความเข้มข้นหลังจากในช่วงเที่ยงวันที่ 19 เม.ย. ส.ว.เลือกตั้ง เสียงข้างมากได้หยั่งเสียงสนับสนุนนายนิคม ให้ลงชิงตำแหน่งประธานเพียงคนเดียว ซึ่งมีข้อตกลงว่า ผู้สนับสนุนกลุ่มที่แพ้การหยั่งเสียงจะต้องเทคะแนนมาสนับสนุนนายนิคม ทั้งหมด เพื่อแข่งกับพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ตัวแทนฝั่งส.ว.สรรหา ที่จะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มส.ว.สรรหาสายทหาร นำโดยพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม และกลุ่ม 40 ส.ว.
ข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ดี มีข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2551 ข้อ 6 บัญญัติว่า กรณีมีการเสนอชื่อ 2 ชื่อ ให้คนที่ได้รับคะแนนมากสุดเป็นผู้ได้รับเลือก ฉะนั้นในขณะนี้เมื่อเช็คเสียงสนับสนุนแล้วระหว่างนายนิคม และพล.อ.ธีรเดช ยังคงก้ำกึ่งกันมาก โดยนายนิคม มีเสียงจากส.ว.เลือกตั้ง ประมาณ 65 เสียง เนื่องจากส.ว.เลือกตั้งที่เหลือประมาณ 11 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นกลุ่ม 40 ส.ว. อาทิ นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และอีกส่วนเป็นส.ว.สายภาคใต้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนส.ว.จากสายสรรหาเป็นประธาน ดังนั้นนายนิคม จึงต้องอาศัยเสียงจากส.ว.สรรหาบางส่วน มาสนับสนุนเพิ่มเติม โดยกลุ่มผู้สนับสนุนนายนิคม ได้พยายามขอเสียงจากส.ว.สรรหาที่คุ้นเคยกันโดยตั้งเป้าว่า หากได้ถึง 15 เสียง น่าจะชนะ อาทิ นางกอบกุล พันธ์เจริญวรกุล นายธวัช บวรวนิชกูร เพื่อนวปรอ.รุ่นเดียวกับนายนิคม นายอนุรักษ์ นิยมเวช มาสนับสนุนนายนิคมให้เป็นประธาน
นอกจากนี้คงต้องหาเสียงจากส.ว.สรรหามาสนับสนุนนายนิคม เพิ่มเติม โดยคงต้องเปิดให้คนใดคนหนึ่งจากสายสรรหาดังกล่าว มาเป็นรองประธานคนที่ 1 พร้อมกันนี้ ก็คงจัดสรรประธานคณะกรรมาธิการสามัญ 22 คณะ ที่กำลังเกลี่ยกันใหม่ไปพร้อมกันในคราวเดียว อย่างไรก็ดี ส.ว.สรรหา ที่เปิดเผยตัวอยากมาเป็นรองประธานคนที่ 1 นั้น ตอนนี้มีนายอนุรักษ์ แต่ทางเราก็ยังไม่เคาะว่า จะเป็นใคร โดยกำลังพิจารณาตัวบุคคลอยู่
วันเดียวกันเ ก่อนหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. ส.ว.เลือกตั้ง ได้นัดประชุมเพื่อหยั่งเสียงเลือกตัวแทนลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา มี พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ส.ว.อ่างทอง เป็นประธาน โดยให้สว.ทั้ง 75 คน จาก 76เลือก ขาดเพียง น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ที่เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ผู้ถูกเสนอชื่อ 3 คน ได้แก่ นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา ได้ 37 คะแนน นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ได้ 28 คะแนน และนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้ 28 คะแนน ด้วยวิธีลงคะแนนลับ
นายนิคม กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีความเป็นกลาง ไม่มีประเด็นการเมืองใดที่เราต้องไปต่อรอง หรือทำให้วุฒิสภานั้นเสื่อมเสีย ส่วนที่มีข้อกล่าวหาจาก ส.ว.สรรหา ว่านายนิคมมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ นายนิคม กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองกลุ่มต่างๆ เลย ซึ่งตนก็รู้จักกันทุกกลุ่มไม่ว่าจะนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ทำให้เรามีความสัมพันธ์และรู้จักมักคุ้นกันเป็นเรื่องธรรมดา จึงไม่ให้นำมาโยงเรื่องกัน
ส่วนจะทำให้ ส.ว. สลัดคาบที่ผูกติดกับฝ่ายการเมืองได้อย่างไร นายนิคม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าจะให้ไปบอกว่านักการเมืองอย่ามายุ่งกับ ส.ว. คงไม่ใช่ ยิ่งเป็นสมาชิกสภาด้วยกันความสนิทสนมย่อมเกิดขึ้น แต่ว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติสำคัญกว่า ขณะที่พล.ต.อ.โกวิท กล่าวเสริมว่า การคบกันไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าไม่คบกันจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาคิดอย่างไร แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน.
ข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ดี มีข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2551 ข้อ 6 บัญญัติว่า กรณีมีการเสนอชื่อ 2 ชื่อ ให้คนที่ได้รับคะแนนมากสุดเป็นผู้ได้รับเลือก ฉะนั้นในขณะนี้เมื่อเช็คเสียงสนับสนุนแล้วระหว่างนายนิคม และพล.อ.ธีรเดช ยังคงก้ำกึ่งกันมาก โดยนายนิคม มีเสียงจากส.ว.เลือกตั้ง ประมาณ 65 เสียง เนื่องจากส.ว.เลือกตั้งที่เหลือประมาณ 11 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นกลุ่ม 40 ส.ว. อาทิ นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และอีกส่วนเป็นส.ว.สายภาคใต้ มีแนวโน้มจะสนับสนุนส.ว.จากสายสรรหาเป็นประธาน ดังนั้นนายนิคม จึงต้องอาศัยเสียงจากส.ว.สรรหาบางส่วน มาสนับสนุนเพิ่มเติม โดยกลุ่มผู้สนับสนุนนายนิคม ได้พยายามขอเสียงจากส.ว.สรรหาที่คุ้นเคยกันโดยตั้งเป้าว่า หากได้ถึง 15 เสียง น่าจะชนะ อาทิ นางกอบกุล พันธ์เจริญวรกุล นายธวัช บวรวนิชกูร เพื่อนวปรอ.รุ่นเดียวกับนายนิคม นายอนุรักษ์ นิยมเวช มาสนับสนุนนายนิคมให้เป็นประธาน
นอกจากนี้คงต้องหาเสียงจากส.ว.สรรหามาสนับสนุนนายนิคม เพิ่มเติม โดยคงต้องเปิดให้คนใดคนหนึ่งจากสายสรรหาดังกล่าว มาเป็นรองประธานคนที่ 1 พร้อมกันนี้ ก็คงจัดสรรประธานคณะกรรมาธิการสามัญ 22 คณะ ที่กำลังเกลี่ยกันใหม่ไปพร้อมกันในคราวเดียว อย่างไรก็ดี ส.ว.สรรหา ที่เปิดเผยตัวอยากมาเป็นรองประธานคนที่ 1 นั้น ตอนนี้มีนายอนุรักษ์ แต่ทางเราก็ยังไม่เคาะว่า จะเป็นใคร โดยกำลังพิจารณาตัวบุคคลอยู่
วันเดียวกันเ ก่อนหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. ส.ว.เลือกตั้ง ได้นัดประชุมเพื่อหยั่งเสียงเลือกตัวแทนลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา มี พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ส.ว.อ่างทอง เป็นประธาน โดยให้สว.ทั้ง 75 คน จาก 76เลือก ขาดเพียง น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ที่เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ผู้ถูกเสนอชื่อ 3 คน ได้แก่ นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา ได้ 37 คะแนน นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ได้ 28 คะแนน และนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้ 28 คะแนน ด้วยวิธีลงคะแนนลับ
นายนิคม กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา มีความเป็นกลาง ไม่มีประเด็นการเมืองใดที่เราต้องไปต่อรอง หรือทำให้วุฒิสภานั้นเสื่อมเสีย ส่วนที่มีข้อกล่าวหาจาก ส.ว.สรรหา ว่านายนิคมมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ นายนิคม กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองกลุ่มต่างๆ เลย ซึ่งตนก็รู้จักกันทุกกลุ่มไม่ว่าจะนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ทำให้เรามีความสัมพันธ์และรู้จักมักคุ้นกันเป็นเรื่องธรรมดา จึงไม่ให้นำมาโยงเรื่องกัน
ส่วนจะทำให้ ส.ว. สลัดคาบที่ผูกติดกับฝ่ายการเมืองได้อย่างไร นายนิคม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าจะให้ไปบอกว่านักการเมืองอย่ามายุ่งกับ ส.ว. คงไม่ใช่ ยิ่งเป็นสมาชิกสภาด้วยกันความสนิทสนมย่อมเกิดขึ้น แต่ว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติสำคัญกว่า ขณะที่พล.ต.อ.โกวิท กล่าวเสริมว่า การคบกันไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าไม่คบกันจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาคิดอย่างไร แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน.
