ส.ว.สรรหา คาด “เรืองไกร” มั่วร้อง กกต.สอบต้นสังกัด ส่งชิง ส.ว.ที่มาอ้างขัดต่อกม.รธน.ควรศึกษาตรวจสอบให้ดีกว่านี้ พูดเป็นนัยแนะจับตาคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ วุฒิสภา มีวาระซ่อนเร้น
วันนี้ (26 เม.ย.) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยืนเรื่องต่อ กกต.เพื่อร้องคัดค้านผลการรับรองการสรรหา ส.ว.เนื่องจากเห็นว่าองค์กรที่เสนอชื่อ พล.อ.สมเจตน์ เสนอบุคคลเข้ารับการสรรหา 2 คน ซึ่งขัด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ว่า น่าจะเป็นความเข้าใจผิดของนายเรืองไกร เพราะหลังจากวันสมัคร ตนได้เปิดดูเวบไซต์ของ กกต.แม้จะพบว่า เป็นอย่างที่ นายเรืองไกร พูด คือ ตนได้รับการเสนอชื่อจากสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วน พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ ส.ว.สรรหา ได้รับการเสนอชื่อจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ดี ตรงนี้น่าจะเป็นความผิดพลาดของ กกต.เพราะความจริงแล้ว ตนได้รับการเสนอชื่อจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ขณะที่ พล.อ.เลิศฤทธิ์ เสนอโดยกระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า มีกระบวนการกำลังทำลายตน ซึ่งถ้า นายเรืองไกร รอบคอบกว่านี้คงจะไม่เกิดความผิดพลาด และขอให้สื่อมวลชนและสังคมตรวจสอบกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม วุฒิสภาด้วยว่ามีอะไรซ่อนเร้นอยู่หรือไม่
เมื่อถามว่า ได้รับสัญญาณถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างไร พล.อ.สมเจตน์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “หมายความว่าอย่างไร ถามอย่างนี้แสดงว่าผมได้รับคำสั่งใครมาหรือ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการได้รับข้อมูลเรื่องการทุจริตทางด้านการสื่อสารหรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลมามาก จึงต้องการตรวจสอบ และตนจะขวางไม่ให้เกิดความไม่ชอบมาพากลขึ้นในคณะกรรมาธิการชุดนี้ ที่บางคนพูดเรื่องปฏิวัติขึ้นมา ไปเอาอะไรมาผูกกับเรื่องเลือกประธานคณะกรรมาธิการชุดนี้ เพราะเป็นไปไม่ได้เลย ขอฝากว่า อย่าเป็นห่วงเรื่องปฏิวัติ เพราะเกิดยาก ถ้าสังคมรักษาระบอบประชาธิปไตยที่ถึงแม้ขณะนี้ดูไม่สมบูรณ์ให้เดินต่อไปได้ไม่ถึงทางตัน และการปกป้องสถาบันที่คนไทยเคารพรักให้ดำรงอยู่อย่างมั่นคง ถ้าทำได้ก็ไม่มีปฏิวัติ แต่ก็ยังมีบุคคลไปผูกโยงซึ่งอยากถามว่า เป็นกลุ่มไหนที่ชอบทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ขณะนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามแนวชายแดนอยู่ แล้ว สังคมควรจะร่วมมือร่วมใจกันมากกว่ามาทะเลาะเบาะแว้งกัน ภัยนอกกำลังจะถึงตัวอยู่แล้ว ยังไม่รู้สึก ยังมัวแต่แก่งแย่งผลประโยชน์ แล้วจะเหลือแผ่นดินไว้ให้ลุกหลานได้อย่างไร