xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.วิทย์เดือด!! “ประสิทธิ์” โวย “พล.อ.” บีบเลือกสรรหานั่ง ปธ.“สมเจตน์” สุดรันทดโดนพาดพิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.ว.สุพรรณฯ ปัดล็อบบี้ประธาน กมธ.โวย ส.ว.ยศ “พล.อ.” ใช้ผู้มีอำนาจกดดัน 4 กมธ.วิทย์ บีบเลือก ปธ.เชื่อโยงคัดสรร กสทช.ไล่ไปสอบ กทช.ส่งเงินซื้อเสียงวุฒิฯ 84 ล้าน ขณะที่การประชุมสุดเครียด หลังผู้ท้าชิง 2 คน คะแนนเสมอกัน ก่อนเลื่อนประชุมไป 25 เม.ย.ด้าน “สมเจตน์” สุดรันทดถูกพาดพิง ลั่นไม่เคยรังแกใคร เซ็ง ส.ว.แบ่งฝ่ายไม่ตรงตามเจตนารมณ์ รธน.

วันนี้ (22 เม.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ เมื่อวันที่ 22 เมษายน มี นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ภายหลังจากเลือกประธานวุฒิสภาคนใหม่เสร็จสิ้น ที่ประชุมได้รับรองรายชื่อกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำวุฒิสภาทั้ง 22 คณะ ก่อนที่จะมีการนัดประชุม กมธ.เพื่อเลือกประธานในช่วงบ่ายวันที่ 22 เมษายน อย่างไรก็ดี นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ขอหารือว่า ในช่วงบ่ายที่จะมีการเลือกประธาน กมธ.22 คณะ ขณะนี้ทราบว่า มีการล็อบบี้โดยกล่าวหาว่า ตนไปข่มขู่ ส.ว.ให้บางคนมาลงมติเลือกประธาน กมธ.คณะหนึ่งให้เป็นไปตามวิถีที่ตนต้องการ ซึ่งขอยืนยันว่า ตนเป็นแค่ นายประสิทธิ์ ไม่มียศ “พลเอก” จะทำได้อย่างไร ขณะนี้มี กมธ.คณะหนึ่ง คือ คณะวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร และโทรคมนาคม ซึ่งมีสมาชิก 2 ฝ่ายก้ำกึ่งกัน ในจำนวน 15 คน ซึ่งมี กมธ.บางคนถูกกดดันไม่ให้เข้าประชุมเพื่อเลือกประธาน กมธ.บ้าง เพราะเสียงที่ขาดไป 1 เสียง จะทำให้การเลือกประธาน กมธ.เปลี่ยนไปทันที จึงขอปรึกษาให้รองประธานวุฒิสภา รักษาการประธานวุฒิสภา งดการประชุม กมธ.เพื่อเลือกประธาน กมธ.ในคณะที่มีเสียงก้ำกึ่งกันและสมาชิกมามาครบในช่วงบ่ายวันนี้

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมยืนยันว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเอง ทั้งที่ผมมีหลักฐานพยานบุคคลยืนยันได้ว่า ในการกระทำเช่นนี้เกิดจากบุคคลที่เป็น ส.ว.รายหนึ่ง ยศพลเอก ที่ชอบพูดว่า จะเข้ามาขจัดคนชั่ว รักความเป็นธรรม แต่กลับมาดำเนินการกดดันเล่นเกมนอกสภา ขณะนี้มี ส.ว.ที่เป็น กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ ถูกกดดันแบบนี้อย่างน้อย 4 คน โดยใช้วิธีการให้รัฐมนตรี ส.ส.หรือผู้มีอำนาจในพื้นที่ บีบให้เลือกประธานที่มาจาก ส.ว.สรรหาผู้หนึ่ง เหตุการณ์แบบนี้จะทำให้เกิดความชอบธรรมเป็นกลางในฐานะวุฒิสภาได้อย่างไรในเมื่อคนที่อ้างว่า จะมาขจัดคนชั่วกลับประพฤติเสียเอง” นายประสิทธิ์ กล่าว

ด้าน นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนรู้สึกถึงความผิดปกติตั้งแต่วันแรกที่ กมธ.คณะนี้ มีผู้มาแสดงความจำนงเป็น กมธ.32 คน ไม่รู้ว่า มีขุมทองอยู่ในคณะนี้อะไร ตนเป็น กมธ.มา 3 ปี ไม่ได้ทองสักเส้นเดียว เพียงแต่เมื่อทำมาแล้ว 3 ปี ก็อยากสานงานต่อ แต่มีข่าวว่า ผู้หลักผู้ใหญ่มาล็อบบี้ข่มขู่ จึงไม่สบายใจ เพราะควรมาพูดคุยกันไม่ใช่

ส่วน พล.ท.พงษ์เอก อภิรักษ์โยธิน ส.ว.พะเยา กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจที่มีการล็อบบี้ และกดดัน ทั้งนี้ ในการตั้ง กมธ.ขึ้นมาก็เพื่อให้ทำงานในแต่ละด้าน ซึ่งล็อบบี้มีการทำหลายครั้งถึงขนาดไม่ให้สมาชิกเข้ามาประชุมให้หายสาบสูญไปเลย จะโผล่ก็ตอนเรื่องสงบแล้ว ซึ่งไม่ใช่แนวทางในการทำงานที่ดีในอนาคต การล็อบบี้ให้ใครมาไม่มาหรือให้เลือกคนนั้นคนนี้วิธีการแบบนี้ต่อไปจะทำให้การทำงานร่วมกันเหนื่อยหนัก ขอร้องว่าอย่ามาล็อบบี้ หรือกดดันกันเลย

ต่อมา นายประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เบื้องหลังการเลือกกรรมาธิการที่บอกว่าบริสุทธิ์ยุติธรรมนั้น ไม่จริง มีการเตรียมการมาทั้งนั้น ต่างคนต่างเตรียมกันมา และใส่ร้ายกัน โดยบอกว่าตนไปข่มขู่ ถามว่า อย่าง นายประสิทธิ์ จะไปทำอะไรได้ เพราะไม่มียศถาบรรดาศักดิ์เหมือนคนอื่น ที่ใช้ให้รัฐมนตรี และ ส.ส.ไปขอร้อง ส.ว.ที่เป็นกรรมาธิการ ทำให้การเลือกประธานคณะกรรมาธิการ ที่ยังมีเสียงก้ำกึ่งระหว่าง 7 ต่อ 8 เสียง ทำให้เสียงสวิงเปลี่ยนข้างไปสนับสนุนผู้ที่ตนต้องการ เชื่อว่า จะมี ส.ว.บางคนหายไป 1 ไม่มาประชุม หรือถ้ามาก็เปลี่ยนไปลงให้อีกข้าง เมื่อถามว่า คณะดังกล่าวมีผลประโยชน์ขนาดไหนถึงต้องแข่งขันแย่งชิงกันหนักอย่างนี้ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่การทำงานที่ผ่านมาตรวจสอบได้ทุกเรื่องที่เราศึกษาส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หมด

เมื่อถามว่า เกี่ยวกับการเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) หรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า มันก็รวมกันอยู่ในนั้นด้วย เมื่อถามซ้ำว่า กรรมาธิการไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติ กสทช.นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การตรวจสอบประวัติกรรมาธิการทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แค่นั้นที่ผ่านมาตนได้สั่งให้ตรวจสอบกรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ส่งเงินมาให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 84 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เลยทำให้ทุกอย่างต้องมาถล่มตน เขาทำโครงการแล้วจ่ายเงินสปอนเซอร์มาที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จึงอยากให้สื่อไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย และอยากถามว่าคนที่ทำแบบนี้สมควรมาเป็น กสทช.หรือไม่ ซื้อเสียงล่วงหน้าแบบนี้

เมื่อถามว่า คนที่ส่งเงินมาเกี่ยวกับการลงสมัครด้วยหรือไม่ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เขาสมัครหมดทั้ง 5 คน แล้วเขาส่งมาทั้ง 5 คนนั่นแหละ เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ตอนนี้ใช่หรือไม่ นายประสิทธิ์ ตอบว่า ใช่ เงินนี้ส่งมาประมาณวันที่ 24-25 มี.ค.ลองไปถามเลขาธิการวุฒิสภาได้ เมื่อถามว่า แสดงว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการซื้อเสียงล่วงหน้าของกรรมการ กสทช.นายประสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนถามไป กำลังจะสอบ สำคัญอยู่ตรงที่ขั้นตอนการเลือกกรรมการ กสทช.จาก 44 คน ให้เหลือ 11 คน มันจะล็อบบี้กันตรงนี้รับรองล็อกกันมโหฬาร เพราะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ ต้องดูแล กสทช.ส่วนโครงการที่เขาเอาเงินมาทำไปสืบเอาเอง ตนไปสั่งสอบเรื่องนี้เพราะดูแล้วมันมีเหตุมีผลเลยโดยแบบนี้

จากนั้นเวลา 13.30 น.ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อเลือกประธาน กมธ.จำนวน 22 คณะ โดยที่จับตามากที่สุด คือ คณะ กมธ.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม เนื่องจาก นายประสิทธิ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีการล็อบบี้เลือกประธาน กมธ.ระหว่างการประชุมวุฒิสภา

มีรายงานว่า ในการประชุม กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ เป็นไปอย่างตึงเครียด เพราะมีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 14 คน จากทั้งหมด 15 คน โดย นายธันว์ ออสุวรรณ ส.ว.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม ทำให้ไม่สามารถเลือกประธาน กมธ.ได้ เพราะทั้ง พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และ นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน ทั้งสองฝ่ายมีเสียงสนับสนุน 7 คะแนนเสียงเท่ากัน จึงมีผู้เสนอให้เลื่อนการประชุมเพื่อเลือกประธาน กมธ.ออกไปเป็นวันที่ 25 เม.ย.เวลา 11.00 น.เพื่อให้ กมธ.เดินทางมาประชุมให้ครบจำนวน

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.ว่า การกล่าวหาว่า นายทหารยศ พล.อ.คนหนึ่งเข้าไปล็อบบี้ตำแหน่งประธาน กมธ. คิดว่า คงเป็นใครไม่ได้นอกจากตน เรื่องนี้ส่วนตัวไม่สบายใจตั้งแต่แรก เพราะมีการชิงไหวชิงพริบตั้งแต่การเลือก กม.แล้ว เหมือนเป็นการไม่ให้ความวางใจกัน ตกอยู่บนความหวาดระแวง เอารัดเอาเปรียบ กับภาพที่ออกมาทำให้ตนรู้สึกรันทดใจ เพราะเด็กชั้นประถมยังไม่ทำกันขนาดนี้เลย สำหรับเหตุการณ์นี้เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่ายจึงเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 25 เม.ย.โดยจะมีการเลื่อนประชุมอีก

“วันนี้ที่มีการกล่าวหาคิดเป็นการกล่าวหาผมโดยตรง คุณคิดว่า ผมเป็นคนอย่างนั้นเหรอ ขอเรียนว่า ประวัติผมไม่เคยรังแกใคร แต่ถ้าใครถูกรังแก ผมก็ไม่ชอบและใครถูกรังแกให้มาบอกผมพร้อมยินดีช่วย ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษชายชาติทหารตัวเล็กๆ คนหนึ่งไม่เคยใช้อิทธิพลใดๆ แม้จะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตตั้งแต่รับราชการจนถึงเกษียณ” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ภาพของวุฒิสภาเหมือนกับมีการแบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายบริหารและฝ่ายค้าน ไม่ตรงกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งวุฒิสภาควรแตกต่างจากสภาผู้แทนราษฎรโดยวุฒิสภาควรทำหน้าที่ถ่วงดุลอำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติแต่ภาพที่ปรากฏออกมาขณะนี้มันไม่ใช่

เมื่อถามว่า การแข่งขันกันอย่างรุนแรงใน กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ มาจากการมีผลประโยชน์เกี่ยวกับการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องให้กลับไปดูว่า 3 ปีที่ผ่านมา กมธ.ชุดนี้เกิดอะไร

เมื่อถามว่า ที่เคยประกาศจะเข้าขจัดคนเลว เพราะต้องการเข้าจัดการภายใน กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ ใช่หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องนี้ ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใครแต่จะเป็นศัตรูกับคนทำร้ายประเทศชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น