xs
xsm
sm
md
lg

ฤาชาติ..มีแต่..คนทำดี-ไม่ได้ดี..คนทำชั่ว-กลับได้ดี?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สอดแนมการเมือง”
โดย…ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ปัญหาชาติไทยขณะนี้ ใหญ่เกินกว่านักการเมือง 500 คนในรัฐสภา จะแก้ไขได้อีกแล้ว!

ด้วยนักการเมืองส่วนใหญ่ ล้วนยึดอำนาจรัฐได้ด้วยการซื้อเสียงเลือกตั้ง แถมยังใช้อำนาจรัฐไปกับการโกงกินบ้านเมืองให้ตนและพวกพ้องอีกด้วย

นั่นเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้สังคมไทยจมสู่วิกฤตในทุกมิติ โดยเฉพาะการเมืองไทยได้กลายเป็นซ่องโจร ของบรรดานักการเมืองกำมะลอ ที่ทำตัวเป็น“ผีปอบ”สวาปามโกงกิน สารพัดโครงการอย่างตะกละตะกราม

จนสังคมไทยเกิดค่านิยมผิดๆ ว่า สังคมไทย..มีแต่คนทำดี..ไม่ได้ดี..มีให้เห็น(เกร่อไปหมด)-แต่คนทำชั่ว..กลับได้ดี..มี(ให้เห็น)ถมไป!

สุดท้าย..ก็เกิดโพลส่งเดชสรุปว่า นักการเมืองโกงก็ไม่เป็นไร ขอให้ประชาชนได้ผลประโยชน์บ้าง..ก็ OK

นักธุรกิจและผู้มีอิทธิพลที่ซื้อเสียงเลือกตั้ง เพื่อเข้ามาเป็นนักการเมืองกำมะลอส่วนใหญ่ในรัฐสภานั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย และเป็นภัยต่อความมั่นคงอันดับแรกของชาติไทย!

นั่นเป็นความจริงที่ทรงเหตุผล ซึ่งคนไทยทั้งประเทศต่างรับรู้-รับทราบกันอย่างแจ่มแจ้ง!

น่าฉงน..ที่ผู้นำหน่วยงานความมั่นคงของชาติ ยังคงปล่อยให้นักการเมืองซื้อเสียงเลือกตั้งที่ทำผิดฏกหมาย นั่งหน้าสลอนทั้งในรัฐสภาและรัฐบาล ปล่อยให้คนชั่วเหล่านั้นโกงกินชาติและข่มขู่คุกคามประชาชน ที่รู้เท่าทันการกระทำความชั่ว ของประดานักการเมืองผู้ชั่วช้ามาตลอด

โดยนักการเมืองกำมะลอผู้ฉ้อฉล มักใช้นายตำรวจบางคนเที่ยวยัดเยียด ข้อหาเกินจริงให้กับประชาชนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างพันธมิตรฯ ในขณะเดียวกัน..ก็ไม่ยอมใช้กฏหมายลงโทษเหล่าผู้กระทำความผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองอีกด้วย

แถมรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่มี“เทพเทือก”บงการอยู่เบื้องหลัง หวังเพียงภาพพจน์ทางการเมืองด้วยการชูนโยบาย“ปรองดอง”อันจอมปลอม จนถึงกับให้รองนายกฯ“หนั่น-หูกาง”และตำรวจใหญ่คนหนึ่ง ไปเป็นพยานให้ผู้ต้องหาเผาบ้านเผาเมืองและก่อการร้าย จนศาลฯตัดสินให้ประกันตัวผู้กระทำความผิดมากมายหลายคน

ที่สำคัญ..รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังปัดความรับผิดชอบของตน เพียงหวังผลบวกทางการเมืองกับคนเสื้อแดง ด้วยการให้หน่วยงาน ดีเอสไอ.ทำการสืบสวน-สอบสวน การปฏิบัติหน้าที่คืนความสงบสุขสู่ชาติของทหาร โดยทางดีเอสไอ.ได้มีข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ทหาร..มีส่วนในการสังหารผู้คน ที่เผาบ้านเผามือง และก่อการจลาจลกว่า 10 ราย

ทำให้ทหารหาญของชาติ ที่เสียสละชีวิตนำความสงบมาสู่บ้านเมือง ที่เป็นวีรบุรุษของชาติไทย..กลับกลายเป็นจำเลยหรือ“ฆาตกร”กระหายเลือดไปเสียฉิบ!

ผู้นำที่รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติ จะต้องรับรู้ว่า..การเลือกตั้งที่มีการซื้อเสียงหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จากซื้อเสียงประชาชนในอดีตด้วยปลาทูแค่เข่งเดียว กลายเป็นปัจจุบันต้องใช้เงินซื้อกันถึง 30 ล้านบาทต่อ ส.ส.หนึ่งคน

วันนี้..แค่ซื้อตัว ส.ส.มาสังกัดพรรคภูมิใจใครบางคน มีการทุ่มเงินซื้อ ส.ส.ต่อคนด้วยเงินถึง 60 ล้านบาท นั่นยังไม่รวมเงินหาเสียง..ที่ต้องใช้เงินอีกไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อเขตเลือกตั้งครับ

แต่การลงทุนเพื่อหาประโยชน์จากการเมืองนั้น..คุ้ม เพราะเศรษฐีคนหนึ่ง..ได้เป็นผู้นำชาติด้วยการใช้เงินซื้อ ส.ส.และซื้อเสียงชาวบ้านถึง 3 หมื่นล้านบาท ทว่า..เขาก็ถอนทุนบวกกำไรในเวลาเพียง 5 ปี ด้วยการสวาปามเงินเข้ากระเป๋าตนได้หลายแสนล้านบาท!

หากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ การใช้เงินยึดอำนาจรัฐของประเทศไทยครั้งนี้ พวกนักการเมืองชั่วจะใช้เงินซื้อเสียงไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพราะพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านล้วนมีเงินไม่โปร่งใสมากมายไว้สู้กันในสนามเลือกตั้งครับ

การเลือกตั้งที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ายึดและใช้อำนาจรัฐอย่างฉ้อฉลนี้ จึงไม่เป็นประชาธิปไตยและผิดกฏหมาย แถมเป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอีกด้วย อืม..ผู้รับผิดชอบความมั่นคงของชาติ..สำเหนียกและรู้ไหม?

นักการเมืองขี้ฉ้อจะใช้อำนาจรัฐโกงกินชาติ ข่มเหงรังแกประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ โยกย้ายข้าราชการอย่างอธรรม ผู้รับผิดชอบความมั่นคงของชาติ สำเหนียกหรือรับรู้ไหมล่ะว่า..นั่นคือ.. ภยันอันตรายร้ายแรงอันดับแรกของชาติไทย?

ที่สำคัญ..นอกจากหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติไทย ไม่ยอมแก้ปัญหาหรือจัดการกับนักการเมืองขี้ฉ้อส่วนใหญ่ ที่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ ในทุกมิติของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว

ที่น่าตกใจก็คือ หัวหน้าหน่วยงานที่กำกับดูแลความมั่นคงของชาติบางคน ยังกลับไปเดินตามก้นรับใช้นักการเมืองที่โกงชาติ อันเสมือนเป็นการช่วยหรือส่งเสริม ให้นักการเมืองกำมะลอทำร้าย-ทำลายชาติและประชาชนโดยตรงอีกด้วย

ถึงขนาดไปหลงคำโป้ปดให้ร้ายป้ายสี ของนักการเมืองชั่วบางคนว่า พลเมือง“เหลือง-แดง”ล้วนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ!

ทั้งๆที่“คนเสื้อเหลือง”หรือพันธมิตรฯนั้น เป็นภาคพลเมืองดีที่เปี่ยมจิตใจอันเสียสละมุ่งมั่นกับการต่อสู้ปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และผลประโยชน์ของส่วนรวมมาตลอด โดยไม่เคยได้ผลประโยชน์ทางการเมืองตอบแทนใดๆ เลย

ทว่า..ผู้รับผิดชอบหน่วยงานความมั่นคงบางคน กลับมีความคิดและทำตัวเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติเสียเอง เพราะไม่สามารถแยกแยะประชาชนว่า กลุ่มไหนดี-กลุ่มไหนชั่ว จึงสรุปแบบส่งเดชว่า..แดง-เหลือง ล้วนเป็นภัยต่อความมั่นคงเหมือนกัน!

ชาติไทยจึงวิกฤตอย่างหนัก เพราะผู้นำหน่วยงานความมั่นคงของชาติบางคน กำลังทำตัวหูหนวก-ตาบอด-สมองกลวงจนไม่รู้ว่า

พลเมืองสีเหลืองนั้น-คือนักสู้ผู้กล้าที่ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนทำเพื่อส่วนรวมโดยสันติ!

ส่วนพลเมืองแดงนั้น-ทำเพื่อใคร? เคยสร้างผลงานไม่ดีอะไรไว้บ้าง? ทุกคนรู้...

สุดท้าย..พลเมืองเลวไม่เกิน 500 คน ที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเข้าไปเป็นนักการเมืองขี้โกงคนพวกนี้แหละ..คือ..ตัวการที่ทำให้ชาติเผชิญวิกฤตร้ายแรง หากผู้นำหน่วยงานความมั่นคงของชาติยังหลงในลาภ-ยศ-เงินทอง และยังทำตัวเป็นขี้ข้านักการเมืองชั่วเหล่านั้น ระวัง..จะสิ้นชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะผู้นำหน่วยงานด้านความมั่นคง ไม่ยอมทำหน้าที่หลักของตนอย่างจริงจัง

เพราะพวกคุณที่รับผิดชอบความมั่นคงของชาติ จงใจแสร้งโง่หรือตั้งใจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ด้วยการทำเป็นทองไม่รู้ร้อน จึงทำให้ภาคประชาชนคนเสื้อเหลืองที่รักชาติ จำต้องออกมาปกป้องรักษาแผ่นดินไทย และต่อสู้กับบรรดานักการเมืองขี้โกงไงล่ะครับ

จริงๆ แล้ว..ผู้นำหน่วยความมั่นคงของชาติไทย ควรจะขอบคุณพลเมืองคนเสื้อเหลือง ที่ออกมาต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ไหนได้..หนอย..ดันกลับมาให้ร้ายป้ายสี ยัดเยียดข้อหาเกินจริงให้พันธมิตรฯ ว่าเป็น“ผู้ก่อการร้าย”หรือเป็น“ภัยต่อความมั่นคง”ไปเสียฉิบ บ้านนี้เมืองนี้ช่างไร้ความยุติธรรมจริงๆ

บ้านเมือง..ที่คนทำดี-ไม่ได้ดี-ทำชั่วได้ดี-มีถมไป ระวังเถอะ..คนดีจะเลิกทำดี หันไปทำชั่วกันหมดนะ..พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย..!!!

กำลังโหลดความคิดเห็น