อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บุรุษที่ทหารนอกและในราชการบางคน ลงทุนทำ “ส้มโอ” หล่นใส่จนได้เป็นนายกรัฐมนตรีไทย ด้วยการพลิกขั้วการเมืองเตะโด่ง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ตกเก้าอี้นายกฯ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551
ยิ่ง “อภิสิทธิ์” ประกาศจะสร้างการเมืองที่ล้มเหลวให้กลับมาเข้มแข็งมั่นคง จะสร้างนิติรัฐที่เที่ยงธรรมขึ้นในชาติไทย เพื่อนำความสุขหวนคืนสู่สังคมไทยอีกครา..
แต่..ฝันของคนไทยทั้งชาติก็ต้องสลายหายวับไปกับตา ด้วย 2 ปีกว่าที่นายกฯ อภิสิทธิ์ได้บริหารชาติบ้านเมืองแบบ “สุนัขยังไม่รับประทาน” เพราะนายกฯ อภิสิทธิ์ดีแต่พูด (โกหก) และยังพูดอย่างทำอย่าง อีกทั้งอ่อนแอไร้สภาวะความเป็นผู้นำ แต่เปี่ยมความเจ้าเล่ห์แสนกล แยกถูก-ผิด-ชั่ว-ดีไม่ได้ จนทำให้สังคมทั้งสังคมไร้ขื่อแป ฯลฯ
นายกฯ อภิสิทธิ์ได้ทำให้กระบวนการยุติธรรมไร้ค่า เพราะมิได้เอาผิดอย่างจริงจังกับขบวนการคนเสื้อแดง-เสื้อดำ ที่ปฏิบัติการเผาบ้านเผาเมืองและก่อการร้าย ใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าทหาร และคนบริสุทธิ์ บาดเจ็บล้มตายอย่างมากมายกลางเมืองหลวง
ที่สำคัญนายกฯ อภิสิทธิ์นั่นแหละ ได้กลายเป็นตัวการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายของชาติไทยอย่างไม่รับผิดชอบอีกด้วย
โดยนายกฯ อภิสิทธิ์มุ่งแต่จะสร้างภาพลักษณ์จอมปลอมทางการเมืองให้ตนด้วยการชูนโยบาย “ปรองดอง” กำมะลอขึ้นมาหลอกลวงคนไทยทั้งชาติด้วยเล่ห์กล “ให้ประกันตัว” คนเสื้อแดง-เสื้อดำถึงขนาดให้ “เสธ.สนั่น” รองนายกฯและนายพลตำรวจใหญ่คนหนึ่ง ไปเป็นพยานให้จำเลยด้วยถ้อยคำโกหกว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธตามที่เป็นข่าว กอร์ปกับดีเอสไอก็ไม่ได้คัดค้านการขอประกันตัวชั่วคราวของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 7 คนอีกด้วย
งานนี้..ศาลฯ เลยให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมด เรียบร้อยโรงเรียน “ธิดาแดง” เมียของหมอเหวงครับ
มหกรรม “ปรองดอง” ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงได้เฮ จึงดาหน้าออกจากที่ซ่อนเข้ามอบตัวเป็นทิวแถว สุดท้าย..คนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ระบุเป็นผู้ก่อการร้าย ก็ได้ประกันตัวกันถ้วนหน้า แถมผู้ก่อการร้ายบางคนยังได้รับอิสรภาพ โดยไม่ต้องเสียเงินประกันตัวแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย!
ทั้งๆ ที่นายกฯ อภิสิทธิ์รู้อยู่เต็มอกว่า การปรองดองไม่มีวันจะเกิดขึ้นได้เลย หากนักโทษชายทักษิณยังไม่ได้รับการนิรโทษกรรมความผิด และหนทางจะพ้นผิดทางกฎหมายได้ เมื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ครอบครองอำนาจรัฐไว้ในกำมือเท่านั้น
นายกฯ อภิสิทธิ์ยังรู้อีกว่า หากทักษิณซื้อเสียงจนชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง โอกาสเป็นนายกฯ ซ้ำสองของอภิสิทธิ์..ก็เป็นหมัน แต่ครั้นจะลากรัฐบาลห่วยแตกนี้ต่อไป นายกฯ อภิสิทธิ์ก็รู้ว่า..คะแนนนิยมของตนต่อประชาชนจะต้องตกต่ำลงเรื่อยๆ ที่สำคัญ..อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองที่ไม่คาดฝันก็ได้..จริงไหม?
อภิสิทธิ์-จึงตัดสินใจจะ “ยุบสภา” ในเร็ววันนี้ เพื่อใช้การเลือกตั้งฟอกความผิดที่พวกตนก่อ ด้วยการใช้เงินซื้อเสียงเพื่อยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้ง จากนั้นก็จะพ่นวาทกรรมโป้ปด-อวดโอ้-ฟาดหัวผู้ไม่รู้ว่า คนไทยได้เลือกตั้งให้พวกตนเป็นผู้แทนราษฎรและรัฐบาลไงล่ะครับ
วันนี้..นักซื้อเสียงเลือกตั้งที่ชั่วร้ายทั้งหลาย ได้สร้างวงจรอุบาทว์อย่างถาวรขึ้นในชาติไทยแล้ว นั่นคือ
ยามใด..ที่โจรการเมืองทำผิดกับการโกงกินชาติ จนถูกสื่อมวลชนและองค์กรภาคพลเมืองแฉโพยจนล่อนจ้อน โจรการเมืองก็จะใช้วิธียุบสภาใช้การเลือกตั้งฟอกตัว ซึ่งถือเป็นมหกรรมใช้เงินซื้อเสียงแข่งกัน หากพรรคใดได้ ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่งในสภา ก็ได้สิทธิ์ในการเลือกประธานสภาตามด้วยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล
หลังถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อพระพักตร์ “ในหลวง” แล้ว นักซื้อเสียงเลือกตั้งทุกคนก็จะเริ่มเทศกาลคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมืองกันอย่างมโหฬารอีกครา..
วงจรอุบาทว์ทางการเมืองชั่วๆ ดำรงอยู่ในชาติไทยได้ เพราะโจรการเมืองรู้ว่า..ธุรกิจทางการเมืองนั้น คืนทุนบวกกำไรได้มาก-รวดเร็ว-ปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อ เรียกว่า..กฎหมายเอาผิดโจรการเมืองได้ยากหรือไม่ได้เลย
ธุรกิจการเมืองไทยจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มแสนคุ้ม สำหรับประดาโจรการเมืองนักซื้อเสียงเลือกตั้งในยุคนี้ไปเสียแล้วครับ!
ดังนั้น การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ของ “อภิสิทธิ์” นอกจากจะเป็นแค่การฟอกตัวของประดานักซื้อเสียงเลือกตั้งแล้ว ยังเพื่ออ้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ เพื่อการโกงกินชาติบ้านเมืองชนิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีวันสิ้นสุด..เอวัง..
ยุบสภา-เลือกตั้ง นอกจากไม่ได้แก้ปัญหาชาติบ้านเมืองแล้ว การซื้อเสียงเลือกตั้งเพื่อเข้ายึดครองอำนาจรัฐแบบฉ้อฉล คือ อันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข!
ยุบสภา-ซื้อเสียงเลือกตั้งที่โจรการเมืองใช้เป็นวิธีฟอกตัวนั้น เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติไทยมานานแล้วครับ!!
ประดาโจรการเมืองที่เข้ามาทำธุรกิจการเมืองอย่างสามานย์ คือ “มะเร็งร้าย” ที่คนไทยต้องรีบขจัดออกไปจากสังคมไทยโดยเร็วที่สุดครับ!!!
ยิ่ง “อภิสิทธิ์” ประกาศจะสร้างการเมืองที่ล้มเหลวให้กลับมาเข้มแข็งมั่นคง จะสร้างนิติรัฐที่เที่ยงธรรมขึ้นในชาติไทย เพื่อนำความสุขหวนคืนสู่สังคมไทยอีกครา..
แต่..ฝันของคนไทยทั้งชาติก็ต้องสลายหายวับไปกับตา ด้วย 2 ปีกว่าที่นายกฯ อภิสิทธิ์ได้บริหารชาติบ้านเมืองแบบ “สุนัขยังไม่รับประทาน” เพราะนายกฯ อภิสิทธิ์ดีแต่พูด (โกหก) และยังพูดอย่างทำอย่าง อีกทั้งอ่อนแอไร้สภาวะความเป็นผู้นำ แต่เปี่ยมความเจ้าเล่ห์แสนกล แยกถูก-ผิด-ชั่ว-ดีไม่ได้ จนทำให้สังคมทั้งสังคมไร้ขื่อแป ฯลฯ
นายกฯ อภิสิทธิ์ได้ทำให้กระบวนการยุติธรรมไร้ค่า เพราะมิได้เอาผิดอย่างจริงจังกับขบวนการคนเสื้อแดง-เสื้อดำ ที่ปฏิบัติการเผาบ้านเผาเมืองและก่อการร้าย ใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าทหาร และคนบริสุทธิ์ บาดเจ็บล้มตายอย่างมากมายกลางเมืองหลวง
ที่สำคัญนายกฯ อภิสิทธิ์นั่นแหละ ได้กลายเป็นตัวการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายของชาติไทยอย่างไม่รับผิดชอบอีกด้วย
โดยนายกฯ อภิสิทธิ์มุ่งแต่จะสร้างภาพลักษณ์จอมปลอมทางการเมืองให้ตนด้วยการชูนโยบาย “ปรองดอง” กำมะลอขึ้นมาหลอกลวงคนไทยทั้งชาติด้วยเล่ห์กล “ให้ประกันตัว” คนเสื้อแดง-เสื้อดำถึงขนาดให้ “เสธ.สนั่น” รองนายกฯและนายพลตำรวจใหญ่คนหนึ่ง ไปเป็นพยานให้จำเลยด้วยถ้อยคำโกหกว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธตามที่เป็นข่าว กอร์ปกับดีเอสไอก็ไม่ได้คัดค้านการขอประกันตัวชั่วคราวของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 7 คนอีกด้วย
งานนี้..ศาลฯ เลยให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมด เรียบร้อยโรงเรียน “ธิดาแดง” เมียของหมอเหวงครับ
มหกรรม “ปรองดอง” ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงได้เฮ จึงดาหน้าออกจากที่ซ่อนเข้ามอบตัวเป็นทิวแถว สุดท้าย..คนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ระบุเป็นผู้ก่อการร้าย ก็ได้ประกันตัวกันถ้วนหน้า แถมผู้ก่อการร้ายบางคนยังได้รับอิสรภาพ โดยไม่ต้องเสียเงินประกันตัวแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย!
ทั้งๆ ที่นายกฯ อภิสิทธิ์รู้อยู่เต็มอกว่า การปรองดองไม่มีวันจะเกิดขึ้นได้เลย หากนักโทษชายทักษิณยังไม่ได้รับการนิรโทษกรรมความผิด และหนทางจะพ้นผิดทางกฎหมายได้ เมื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ครอบครองอำนาจรัฐไว้ในกำมือเท่านั้น
นายกฯ อภิสิทธิ์ยังรู้อีกว่า หากทักษิณซื้อเสียงจนชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง โอกาสเป็นนายกฯ ซ้ำสองของอภิสิทธิ์..ก็เป็นหมัน แต่ครั้นจะลากรัฐบาลห่วยแตกนี้ต่อไป นายกฯ อภิสิทธิ์ก็รู้ว่า..คะแนนนิยมของตนต่อประชาชนจะต้องตกต่ำลงเรื่อยๆ ที่สำคัญ..อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองที่ไม่คาดฝันก็ได้..จริงไหม?
อภิสิทธิ์-จึงตัดสินใจจะ “ยุบสภา” ในเร็ววันนี้ เพื่อใช้การเลือกตั้งฟอกความผิดที่พวกตนก่อ ด้วยการใช้เงินซื้อเสียงเพื่อยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้ง จากนั้นก็จะพ่นวาทกรรมโป้ปด-อวดโอ้-ฟาดหัวผู้ไม่รู้ว่า คนไทยได้เลือกตั้งให้พวกตนเป็นผู้แทนราษฎรและรัฐบาลไงล่ะครับ
วันนี้..นักซื้อเสียงเลือกตั้งที่ชั่วร้ายทั้งหลาย ได้สร้างวงจรอุบาทว์อย่างถาวรขึ้นในชาติไทยแล้ว นั่นคือ
ยามใด..ที่โจรการเมืองทำผิดกับการโกงกินชาติ จนถูกสื่อมวลชนและองค์กรภาคพลเมืองแฉโพยจนล่อนจ้อน โจรการเมืองก็จะใช้วิธียุบสภาใช้การเลือกตั้งฟอกตัว ซึ่งถือเป็นมหกรรมใช้เงินซื้อเสียงแข่งกัน หากพรรคใดได้ ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่งในสภา ก็ได้สิทธิ์ในการเลือกประธานสภาตามด้วยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล
หลังถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อพระพักตร์ “ในหลวง” แล้ว นักซื้อเสียงเลือกตั้งทุกคนก็จะเริ่มเทศกาลคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมืองกันอย่างมโหฬารอีกครา..
วงจรอุบาทว์ทางการเมืองชั่วๆ ดำรงอยู่ในชาติไทยได้ เพราะโจรการเมืองรู้ว่า..ธุรกิจทางการเมืองนั้น คืนทุนบวกกำไรได้มาก-รวดเร็ว-ปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อ เรียกว่า..กฎหมายเอาผิดโจรการเมืองได้ยากหรือไม่ได้เลย
ธุรกิจการเมืองไทยจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มแสนคุ้ม สำหรับประดาโจรการเมืองนักซื้อเสียงเลือกตั้งในยุคนี้ไปเสียแล้วครับ!
ดังนั้น การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ของ “อภิสิทธิ์” นอกจากจะเป็นแค่การฟอกตัวของประดานักซื้อเสียงเลือกตั้งแล้ว ยังเพื่ออ้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ เพื่อการโกงกินชาติบ้านเมืองชนิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีวันสิ้นสุด..เอวัง..
ยุบสภา-เลือกตั้ง นอกจากไม่ได้แก้ปัญหาชาติบ้านเมืองแล้ว การซื้อเสียงเลือกตั้งเพื่อเข้ายึดครองอำนาจรัฐแบบฉ้อฉล คือ อันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข!
ยุบสภา-ซื้อเสียงเลือกตั้งที่โจรการเมืองใช้เป็นวิธีฟอกตัวนั้น เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติไทยมานานแล้วครับ!!
ประดาโจรการเมืองที่เข้ามาทำธุรกิจการเมืองอย่างสามานย์ คือ “มะเร็งร้าย” ที่คนไทยต้องรีบขจัดออกไปจากสังคมไทยโดยเร็วที่สุดครับ!!!