00... เชื่อว่า หากใครที่ได้รับชม รับฟัง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล"มาร์ค"ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการตอบโต้ระหว่าง"นายจตุพร พรหมพันธ์"กับ"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ"ในประเด็นการชุมนุม จนนำไปสู่ความรุนแรง เผาบ้าน เผาเมือง ของมวลชนคนเสื้อแดง
ฝ่ายแรกซึ่งมีดีกรีเป็นแกนนำคนสำคัญ และตกเป็นจำเลยฐานก่อการร้าย เขาพูดอย่างเต็มปาก เต็มคำว่า "นายสุเทพ"พูดโกหกแบบหน้าด้านๆและตั้งแต่เขาเกิดมาก็ไม่เคยเห็นใครพูดโกหก มากเท่ากับนายสุเทพ มาก่อน พร้อมกับ ยืนยันว่า ข้อมูลที่เขานำมาอภิปราย เป็นความจริง ที่ได้มาจาก ดีเอสไอ และตลอดเวลาการชุมนุมของคนเสื้อแดง ก็ทำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ตามหลัก สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ไม่ใช่ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามที่นายสุเทพ กล่าวหา ส่วนกองกำลังติดอาวุธ หรือ คนชุดดำ ไม่ใช่พวกเขา
ฝ่ายหลัง มีดีกรีเป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งถือเป็น แม่ทัพคนสำคัญแห่ง ศอฉ.ราบ 11 ที่สุดท้ายสามารถนำพารัฐนาวา"มาร์ค"ให้ชนะศึกในสงครามกับคนเสื้อแดงมาแบบ ลุ้นระทึก นาทีต่อนาที โดยที่"นายสุเทพ"พูดเสียงดัง ฟังชัดเช่นกันว่า นายจตุพร พูดโกหก โดยเฉพาะกรณีกล่าวหา ทหารฆ่าประชาชน ในวัดปทุมฯนอกจากนั้น การลำดับเหตุการณ์ การชุมนุม ในแต่ละช่วง แต่ละตอน โดยมีภาพเหตุการณ์มาประกอบ พร้อมๆกับย้ำว่า กลุ่มคนเสื้อแดง ทำแบบป่าเถื่อน โหดเหี้ยม เหมือนกับไม่ใช่คน จนนำไปสู่การเผาบ้านเผาเมือง
จากข้อมูลที่ตอบโต้ กันไปมา แน่นอน หากมีเด็ก หรือ เยาวชน ที่ไม่ได้ติดตามความเป็นมาของการชุมนุมของคนเสื้อแดง จนนำไปสู่การเผาบ้าน เผาเมือง นั่งฟัง นั่งชมอยู่ พวกเขาเหล่านั้น อาจจะเชื่อต่างกัน คือ ฝ่ายหนึ่งอาจจะเชื่อข้อมูลของ นายจตุพร โดยไม่เชื่อข้อมูลของ นายสุเทพ และอีกฝ่ายอาจจะเชื่อข้อมูลของ นายสุเทพ โดยไม่เชื่อข้อมูลของ นายจตุพร
ดังนั้น เมื่อ ข้อมูลของแต่ละฝ่าย ที่ต่างยืนยันว่า ฝ่ายตนพูดจริง และอีกฝ่ายพูดเท็จ ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง สำหรับการรับชมของกลุ่มเด็กและเยาวชน หรือ ประชาชนคนรากหญ้าที่ไม่รู้เรื่องเอาจริงๆ ...และซ้ำร้าย หากเขาเชื่อว่านายจตุพร พูดจริง เขาก็จะเกลียดชังรัฐบาลและนายสุเทพ มากยิ่งขึ้น และนายจตุพร ก็จะกลายเป็น "ฮี่โร่"ของพวกเขา ที่เขาต้องยึดเป็นแบบอย่าง ซึ่งถือว่า อันตรายมากๆหากเด็กหรือเยาวชน คนนั้นชอบและคลั่งไคล้"จตุพร พรหมพันธ์"
00...มาถึงคำพูดเรื่องปรองดอง ที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่พูดย้ำในสภาว่า รัฐบาลมีความจริงใจในการปรองดอง เพื่อนำพาประเทศ ไปสู่ความสงบสุข แต่ในขณะที่อีกฝ่าย คือ เหล่า ส.ส.พลพรรคเพื่อไทย ที่อภิปราย เสียงดังๆว่า พวกเขาไม่ต้องการปรองดอง เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้กระทำความผิด พวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย แต่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ คือ ผู้ก่อการร้าย ที่สั่งทหารฆ่าประชาชนเสียเอง
จากคำว่า"ปรองดอง"จึงทำให้ประชาชนคนธรรดา ต่างมึนงงว่า สรุปแล้ว ประเทศนี้ ใครอยากปรองดอง และใครไม่ต้องการปรองดอง ส่วนที่ศาลสถิตยุติธรรมเกิดอารมย์ปรองดอง ด้วยการปล่อยตัวชั่วคราว แกนนำคนเสื้อแดง แบบรายวัน รวมทั้ง กรณี ดีเอสไอ ให้ประกันตัวแกนนำที่หลบหนีและเข้ามอบตัวไปอย่างง่ายดาย โดยยึดตามมาตรฐานเดียวกัน ทั้งหมดนี้"ใครคือคนสั่งให้ปรองดอง"
เพราะหากลำดับเหตุการณ์ นับแต่วันที่ แกนนำ นปช.ทั้ง 7 ก้าวเดินออกจากประตูคุก พวกเขาก็ประกาศชัดเจนว่า พวกเขาไม่ผิด และพวกเขาจะเดินหน้าเรียกร้องหาความยุติธรรม เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังในคุกทั้งหมด และจะชุมนุมกับคนเสื้อแดงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป
ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนีก็เข้ามอบตัวแบบรายวัน และหลังมอบตัวก็ได้ประกันตัว จากนั้นแกนนำทั้งหมดก็ไปปรากฎตัวด้วยการขึ้นเวทีคนเสื้อแดง ปลุกระดม มวลชนคนเสื้อแดง แบบไม่เกรงกลัวเงื่อนไขของศาลในการให้ประกันตัวแต่อย่างใด
00...ใช่หลายคนพูดตรงกันว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดง นับจากนี้ไป ก่อนถึงวันยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ พวกเขาจะชุมนุมเพื่อนำไปสู่ผลการเลือกตั้งโดยจะไม่ก่อเหตุรุนแรง และ พวกเขาจะเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากหลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว โดยที่ พรรคเพื่อไทย พรรคของ"ทักษิณ ชินวัตร"ชนะการเลือกตั้ง พวกเขาจะต้องเป็นรัฐบาล แต่หากสิ่งที่พรรคเขาคาดหวัง เกิดผิดคาดคือ พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นการเพิ่มรอยแค้นให้คนเสื้อแดงหรือไม่ จากนั้นเหตุการณ์การชุมนุมหลังเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามมาแน่นอน ซึ่งหากมีวันนั้นจริง การชุมนุม เผาบ้าน เผาเมือง จะเกิดตามมาและหนักกว่าครั้งที่ผ่านมาแบบหลายเท่าตัว แล้ววันนั้น ประเทศไทย จะอยู่อย่างไร
ดังนั้น จึงอยากถามผู้มีอำนาจในประเทศนี้ว่า..."ใคร"คือผู้ที่ต้องการปรองดอง ใครคือคนสั่งปล่อยเหล่าผู้ก่อการร้ายแกนนำแดงเผาเมือง ไปเสริมทัพการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่ชุมนุมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับสู่ประเทศไทย!!!
ฝ่ายแรกซึ่งมีดีกรีเป็นแกนนำคนสำคัญ และตกเป็นจำเลยฐานก่อการร้าย เขาพูดอย่างเต็มปาก เต็มคำว่า "นายสุเทพ"พูดโกหกแบบหน้าด้านๆและตั้งแต่เขาเกิดมาก็ไม่เคยเห็นใครพูดโกหก มากเท่ากับนายสุเทพ มาก่อน พร้อมกับ ยืนยันว่า ข้อมูลที่เขานำมาอภิปราย เป็นความจริง ที่ได้มาจาก ดีเอสไอ และตลอดเวลาการชุมนุมของคนเสื้อแดง ก็ทำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ตามหลัก สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ไม่ใช่ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามที่นายสุเทพ กล่าวหา ส่วนกองกำลังติดอาวุธ หรือ คนชุดดำ ไม่ใช่พวกเขา
ฝ่ายหลัง มีดีกรีเป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งถือเป็น แม่ทัพคนสำคัญแห่ง ศอฉ.ราบ 11 ที่สุดท้ายสามารถนำพารัฐนาวา"มาร์ค"ให้ชนะศึกในสงครามกับคนเสื้อแดงมาแบบ ลุ้นระทึก นาทีต่อนาที โดยที่"นายสุเทพ"พูดเสียงดัง ฟังชัดเช่นกันว่า นายจตุพร พูดโกหก โดยเฉพาะกรณีกล่าวหา ทหารฆ่าประชาชน ในวัดปทุมฯนอกจากนั้น การลำดับเหตุการณ์ การชุมนุม ในแต่ละช่วง แต่ละตอน โดยมีภาพเหตุการณ์มาประกอบ พร้อมๆกับย้ำว่า กลุ่มคนเสื้อแดง ทำแบบป่าเถื่อน โหดเหี้ยม เหมือนกับไม่ใช่คน จนนำไปสู่การเผาบ้านเผาเมือง
จากข้อมูลที่ตอบโต้ กันไปมา แน่นอน หากมีเด็ก หรือ เยาวชน ที่ไม่ได้ติดตามความเป็นมาของการชุมนุมของคนเสื้อแดง จนนำไปสู่การเผาบ้าน เผาเมือง นั่งฟัง นั่งชมอยู่ พวกเขาเหล่านั้น อาจจะเชื่อต่างกัน คือ ฝ่ายหนึ่งอาจจะเชื่อข้อมูลของ นายจตุพร โดยไม่เชื่อข้อมูลของ นายสุเทพ และอีกฝ่ายอาจจะเชื่อข้อมูลของ นายสุเทพ โดยไม่เชื่อข้อมูลของ นายจตุพร
ดังนั้น เมื่อ ข้อมูลของแต่ละฝ่าย ที่ต่างยืนยันว่า ฝ่ายตนพูดจริง และอีกฝ่ายพูดเท็จ ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง สำหรับการรับชมของกลุ่มเด็กและเยาวชน หรือ ประชาชนคนรากหญ้าที่ไม่รู้เรื่องเอาจริงๆ ...และซ้ำร้าย หากเขาเชื่อว่านายจตุพร พูดจริง เขาก็จะเกลียดชังรัฐบาลและนายสุเทพ มากยิ่งขึ้น และนายจตุพร ก็จะกลายเป็น "ฮี่โร่"ของพวกเขา ที่เขาต้องยึดเป็นแบบอย่าง ซึ่งถือว่า อันตรายมากๆหากเด็กหรือเยาวชน คนนั้นชอบและคลั่งไคล้"จตุพร พรหมพันธ์"
00...มาถึงคำพูดเรื่องปรองดอง ที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่พูดย้ำในสภาว่า รัฐบาลมีความจริงใจในการปรองดอง เพื่อนำพาประเทศ ไปสู่ความสงบสุข แต่ในขณะที่อีกฝ่าย คือ เหล่า ส.ส.พลพรรคเพื่อไทย ที่อภิปราย เสียงดังๆว่า พวกเขาไม่ต้องการปรองดอง เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้กระทำความผิด พวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย แต่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ คือ ผู้ก่อการร้าย ที่สั่งทหารฆ่าประชาชนเสียเอง
จากคำว่า"ปรองดอง"จึงทำให้ประชาชนคนธรรดา ต่างมึนงงว่า สรุปแล้ว ประเทศนี้ ใครอยากปรองดอง และใครไม่ต้องการปรองดอง ส่วนที่ศาลสถิตยุติธรรมเกิดอารมย์ปรองดอง ด้วยการปล่อยตัวชั่วคราว แกนนำคนเสื้อแดง แบบรายวัน รวมทั้ง กรณี ดีเอสไอ ให้ประกันตัวแกนนำที่หลบหนีและเข้ามอบตัวไปอย่างง่ายดาย โดยยึดตามมาตรฐานเดียวกัน ทั้งหมดนี้"ใครคือคนสั่งให้ปรองดอง"
เพราะหากลำดับเหตุการณ์ นับแต่วันที่ แกนนำ นปช.ทั้ง 7 ก้าวเดินออกจากประตูคุก พวกเขาก็ประกาศชัดเจนว่า พวกเขาไม่ผิด และพวกเขาจะเดินหน้าเรียกร้องหาความยุติธรรม เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังในคุกทั้งหมด และจะชุมนุมกับคนเสื้อแดงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป
ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนีก็เข้ามอบตัวแบบรายวัน และหลังมอบตัวก็ได้ประกันตัว จากนั้นแกนนำทั้งหมดก็ไปปรากฎตัวด้วยการขึ้นเวทีคนเสื้อแดง ปลุกระดม มวลชนคนเสื้อแดง แบบไม่เกรงกลัวเงื่อนไขของศาลในการให้ประกันตัวแต่อย่างใด
00...ใช่หลายคนพูดตรงกันว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดง นับจากนี้ไป ก่อนถึงวันยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ พวกเขาจะชุมนุมเพื่อนำไปสู่ผลการเลือกตั้งโดยจะไม่ก่อเหตุรุนแรง และ พวกเขาจะเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากหลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว โดยที่ พรรคเพื่อไทย พรรคของ"ทักษิณ ชินวัตร"ชนะการเลือกตั้ง พวกเขาจะต้องเป็นรัฐบาล แต่หากสิ่งที่พรรคเขาคาดหวัง เกิดผิดคาดคือ พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นการเพิ่มรอยแค้นให้คนเสื้อแดงหรือไม่ จากนั้นเหตุการณ์การชุมนุมหลังเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามมาแน่นอน ซึ่งหากมีวันนั้นจริง การชุมนุม เผาบ้าน เผาเมือง จะเกิดตามมาและหนักกว่าครั้งที่ผ่านมาแบบหลายเท่าตัว แล้ววันนั้น ประเทศไทย จะอยู่อย่างไร
ดังนั้น จึงอยากถามผู้มีอำนาจในประเทศนี้ว่า..."ใคร"คือผู้ที่ต้องการปรองดอง ใครคือคนสั่งปล่อยเหล่าผู้ก่อการร้ายแกนนำแดงเผาเมือง ไปเสริมทัพการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่ชุมนุมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับสู่ประเทศไทย!!!