นายกฯ จี้แดงกลับไปเลือกตั้ง เชื่อ “นช.แม้ว” โม้กลับมาใน 6 เดือน แค่หาเสียง แปลกใจบอกให้รัฐอยู่ครบทั้งที่ปีที่แล้วเสนอวันเลือกตั้งกลับไม่ยอมหยุดป่วน แนะดูใครพูดเชื่อได้ไม่ได้ เชื่อไม่เป็นปัญหาหลัง “เติ้ง” ไม่อยากให้ยุบสภา โต้พันธมิตรฯ ยันสถานการณ์ไม่เหมือนปลายสมัย “ทักษิณ” ย้ำ ยุบสภา พ.ค.ช่วยชาติเดินหน้า
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วานนี้ (12 มี.ค.) ว่า เหตุการณ์ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนกรณีที่ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย จะโฟนอินถี่ขึ้นนั้น คงตอบยากว่าจะมาบ่อยหรือไม่บ่อยอย่างไร แต่ตนเองยืนยันว่า ตอนนี้บ้านเมืองควรจะเดินหน้า และจะเห็นได้ว่า ปัญหาของประชาชนจริงๆ ที่ต้องการ คือ การมาแก้ปัญหา เรื่องของปากท้อง เรื่องของเศรษฐกิจ ตนไม่อยากให้คนจำนวนหนึ่งจะเป็นนักการเมือง อดีตนักการเมือง หรือ นักเคลื่อนไหว มาทำให้ประเด็นของประเทศถูกเบี่ยงเบนไปจากความต้องการ และความเดือดร้อนของประชาชนที่แท้จริง ตนถึงบอกว่าวันนี้ เมื่อเรากำหนดชัดเจนขึ้นแล้ว ว่า การยุบสภาไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ทุกคนควรกลับมาช่วยกันเข้าสู่ระบบตรงนี้จะดีกว่า และให้พี่น้องประชาชนเป็นคนชี้ขาดว่าจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร แต่หากเราจะให้ความสำคัญกับนักการเมือง นักเคลื่อนไหวอย่างเดียว บ้านเมืองก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ และกลายเป็นว่า เสียงส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้มีโอกาสสะท้อนออกมาเท่ากับ ประเด็นที่เป็นเสียงดังๆ ของนักเคลื่อนไหวกับนักการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่ นายกรัฐมนตรี กำหนดวันยุบสภาอย่างชัดเจน ได้ประเมินหรือไม่ว่าสถานการณ์ทางเมืองหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร และเตรียมที่จะรับมือไว้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะต้องดูเพราะยังมีอีกหลายเรื่องระหว่างนี้จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม อย่างสัปดาห์หน้ามีเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งต้องดูว่าตรงนั้นจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะกลับมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนภายใน 6 เดือน ถือเป็นสัญญาณอะไร หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อาจเป็นการหาเสียง เมื่อถามว่า แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีคดีอยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ฟังแต่อ่านจากข่าว เพียงแต่บอกว่าจะมีคนมาทำอะไรอย่างนี้ ไม่เป็นไร เอาว่าขอให้เป็นอย่างนั้นจริงเถอะว่าทุกคนมุ่งจะมาแก้ปัญหาให้ ประชาชนมากกว่าที่จะวนเวียนอยู่กับเรื่องเก่าๆ เดิมๆ ของตัวคุณทักษิณ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ห่วงอะไรมากกกว่ากันระหว่างการเคลื่อนไหวกับนอกสภา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องดูทุกส่วน ซึ่งจริงๆ แล้วต้องยอมรับว่าเรามีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีพรรคการเมืองซึ่งเดินคู่ขนานเป็นขบวนการพร้อมๆ กันไป กับการเคลื่อนไหวนอกสภา และปีที่แล้วความรุนแรงทั้งหมด ยังแถมเรื่องกองกำลังเข้าไปอีก ซึ่งสภาพอย่างนั้นที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น
“วันนี้ อยากให้มันกลับมาสู่ระบบสภาฯ การเมืองภาคประชาชนที่มีการเรียกร้องประเด็นต่างๆ หรือมีส่วนร่วมประเด็นต่างๆ ก็ว่ากันไป แต่ไม่ควรมีลักษณะของการเอาพรรคการเมืองก็เอา และมีมวลชนไว้เคลื่อนไหวนอกสภาฯ เพื่อสอดคล้องกับพรรคการเมืองด้วย และที่ต้องไม่ให้ทำอีกเด็ดขาด คือเรื่องกองกำลัง” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์ขณะนี้ดูเหมือนว่า ถ้าหลังเลือกตั้งกลับมาพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้กลับมามีอำนาจ การที่จะสร้างความวุ่นวายจะยังไม่จบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ยิ่งฟ้องประชาชนและชาวโลกว่า ข้อเรียกร้องต่างๆ ที่เคยพูดถึงเรื่องประชาธิปไตยก็ไม่เป็นจริง
“ผมก็แปลกใจว่า วันนี้พอบอกว่าจะยุบสภาฯ คุณทักษิณ กลับมาบอกว่าให้อยู่ให้ครบไปก็ได้ แล้วทำไมปีที่แล้วพอเราเสนอให้มีการเลือกตั้ง มีวันชัดเจน กลับไม่ยอมที่จะหยุดเคลื่อนไหว จนนำมาสู่ความสูญเสียจำนวนมาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า ในทางกลับกัน พ.ต.ท.ทักษิณ บอกไม่เชื่อคำพูดนายกฯ เรื่องยุบสภา ต้องหารสามหารสี่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กลับไปดูดีกว่าว่าคำพูดใครบ้าง เชื่อได้เชื่อไม่ได้ เมื่อถามว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาท้วงติงเรื่องวันยุบสภา จำเป็นที่จะต้องไปทำความเข้าใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราคุยกันแล้ว หลายท่านไม่เห็นด้วยแต่ตนก็ได้อธิบายไปแล้ว ทุกคนยอมรับได้ แต่จะให้ทุกคนพอใจ บังคับกันไม่ได้ เมื่อถามว่า ในงานระดมทุนของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้มีโอกาสคุยกับนายบรรหาร เกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ท่านก็แหย่นิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่เป็นไร ท่านระดมทุนแล้วนี่
เมื่อถามว่า หมายความว่า วันนี้ทุกฝ่ายเข้าใจดี ถึงการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว แต่นักการเมืองแต่ละคนอาจจะประเมินสถานการณ์การเมืองไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นธรรมดา แต่ไม่ได้เป็นปัญหา อุปสรรคอะไร แต่ละพรรคสามารถที่เดินหน้าได้ เมื่อถามว่า คิดว่าหลังเลือกตั้ง พรรคร่วมรัฐบาลทุกวันนี้ยังจะสนับสนุนตัวนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า ในขณะที่กำลังถอยหลังไปสู่การเลือกตั้งยังมีอีกหลายฝ่าย รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บอกจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและอยากให้เลือกการลาออกทั้งคณะ แล้วใช้มาตรา 7 มากกว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลานี้ตนยังมองไม่เห็นว่ามันเข้าไปสู่เงื่อนไขลักษณะนั้นอย่างไร เพราะกระบวนการต่างๆ ต้องเดินไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า มีความพยายามเปรียบเทียบว่าสถานการณ์วันนี้กับสถานการณ์ปลายรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองไม่คิดว่าเหมือนกันเลย ขณะนี้เราอยู่ในระบบรัฐสภา พรรคการเมืองต่างๆ ก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการของรัฐธรรมนูญ มีการแข่งขัน มีทางเลือกให้กับประชาชน ทางพรรคการเมืองใหม่เองก็สามารถที่จะเสนอตัวเองเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ในความรู้สึกของนายกรัฐมนตรี คิดว่า หลังเลือกตั้ง สถานการณ์บ้านเมืองจะดีกว่านี้ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนตั้งใจอย่างนั้นและคิดว่าการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม จะช่วยให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ดีกว่า ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง และยุบสภา ในเดือนพฤษภาคม เมื่อถามว่า แสดงว่า นายกฯ มั่นใจว่า การยุบสภา จะทำให้เดินไปข้างหน้าได้ แต่ไม่ได้มั่นใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่า เรื่องการเมือง จะให้ใครมาพูดอะไร 100% คง พูดไม่ได้หรอก แต่เราต้องเอาหลักประกันที่ดีที่สุด และเชื่อว่า หลักประกันที่ดีที่สุดสำหรับ บ้านเมืองระยะยาวคือระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และจังหวะเวลาแบบนี้ คือจังหวะเวลาที่เราอาศัยกระบวนการประชาธิปไตย ให้พี่น้องประชาชนไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงในการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า ระหว่างทางตอนนี้มีอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลมากที่สุด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งเราจะต้องดูแลไปควบคู่กับฝ่ายความมั่นคง ขณะเดียวกันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็คุยและมองตรงกัน โดยตนได้คุยกับทางกกต.ว่า ทั้งกกต.และนักการเมืองมีหน้าที่ในการรักษาระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้น อะไรที่จะมากระทบตรงนี้ต้องช่วยกันอยู่แล้ว ทางกกต.ก็ บอกว่าของท่านทำได้เต็มที่พอมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่ก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ฝ่ายบริหารต้องใช้มาตรการทางความมั่นคงในการดูแล ซึ่งเรามองตรงกัน เมื่อถามว่า การข่าวได้รายงานความผิดปกติการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวาน (12 มี.ค) ไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีความพยายามปูดประเด็นการยุบพรรคพลังประชาชนอีกว่ามีเบื้องหน้า เบื้องหลัง จะยิ่งสร้างความสับสนให้กับประชาชน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่แหละประชาชนจะได้ชัดเจนว่าในส่วนของตนเองต้องการบ้านเมืองเดินหน้า ในส่วนของนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช.และ พรรคเพื่อไทย ต้องการให้บ้านเมืองวนเวียนอยู่กับเรื่องเหล่านี้ ก็ดีประชาชนจะได้เลือก ถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาล เราก็จะเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย ก็ไปเถียงกันต่อในเรื่องยุบพรรคพลังประชาชน
เมื่อถามว่า การที่นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขากกต.ออกมาระบุวันเลือกตั้งในวันที่ 26 มิถุนายน แต่อาจเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 ก.ค.นั้น เป็นไปได้ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กกต. เป็นผู้มีหน้าที่ในการกำหนดวันอยู่แล้ว
ทั้งนี้ หลังนายกรัฐมนตรี เสร็จภารกิจตามกำหนดการณ์ที่แจ้งไว้ สื่อมวลชนได้ถามว่าวันนี้มีภารกิจเพิ่มหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีจะกลับบ้าน ไปเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ