ท่าทีของ”ธิดา ถาวรเศรษฐ”รักษาการประธานนปช.และ”จตุพร พรหมพันธ์”แกนนำนปช.-คนเสื้อแดงประกาศชัดเจนกลางเวทีปราศรัยอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อกลางดึก 12 มีนาคม 54 ในการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ยืนยันว่า
คนเสื้อแดงจะไม่ยอมยุติการชุมนุมป่วนบ้านป่วนเมือง ด้วยการจะนัดชุมนุมคนเสื้อแดงไปเรื่อยๆ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง แม้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะ “ยุบสภา”จัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ คนเสื้อแดงก็จะไม่ยอมสลายตัวเอง จะนัดรวมตัวกันไปเรื่อยๆ
ประเด็นนี้ คงทำให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ปวดกระโหลกไม่น้อย
ย่อมหมายถึงว่า แผนการของทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง จะเดินคู่ขนานขนาบกันไปตลอดช่วงการหาเสียงเลือกตั้งไปจนถึงหลังการเลือกตั้ง เพื่อให้เคลื่อนไหวในสองกรณีสำคัญคือ
หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว เพื่อไทยไม่ได้คะแนนเสียงส.ส.มาอันดับหนึ่ง วิเคราะห์กันว่า ทักษิณ ชินวัตร ก็จะใช้ คนเสื้อแดง เป็นกองกำลังเคลื่อนไหวไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งโดยบอกว่า มีการโกงเลือกตั้ง ทุจริตการนับคะแนน ทำบัตรเลือกตั้งกาคะแนนไว้ล่วงหน้าแล้ว หรือสาระพัดข้อกล่าวหาตามสไตล์ที่จะโยนเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม
แต่หากว่าเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แต่คะแนนเสียงไม่ห่างจากพรรคอันดับสองอย่างประชาธิปัตย์มาก ช่วงแรกประชาธิปัตย์อาจให้เพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะลึกๆ แล้วประชาธิปัตย์ได้ตกลงกับพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชาติไทยพัฒนา-ภูมิใจไทย ที่จะเป็นสองพรรคตัวแปรสำคัญในการเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ให้แพ็กกันแน่น ไม่ต้องไปจับมือกับเพื่อไทย
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ประชาธิปัตย์ก็จะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลแข่ง แล้วกุมเสียงข้างมากได้
ถึงตอนนั้น จะได้เห็นภาพ ทักษิณ และคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนด้วยวาทกรรมเดิมๆ เช่นคนมีบารมีแทรกแซงการเมือง ไม่ยอมให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยมีกองทัพคอยอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้น เสื้อแดง จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ ด้วยการอ้างว่าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย เพื่อไทยถูกปล้นชัยชนะ
สองกรณีดังกล่าว ยืนยันได้ว่าไม่เหนือความจริงที่จะเกิดขึ้นแน่นอน เห็นได้จากคำพูดของแกนนำบนเวทีเช่น จตุพร พรหมพันธ์ที่บอกว่า
“การเลือกตั้ง ไม่มีความหมายใดๆกับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต จะมีเลือกตั้งตอนนี้หรือตอนไหน หากอภิสิทธิ์ยังไม่ถูกดำเนินคดีคนเสื้อแดงก็ยังต้องชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ”
หรือที่ “ธิดาแดง” บอกว่า “เลือกตั้งรอบนี้ พรรคการเมืองพันธมิตรของเราต้องชนะการเลือกตั้ง เพราะคนเสื้อแดงมีสองขาคือขาในสภากับขานอกสภา ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ เสื้อแดงต้องเคลื่อนไหวต่อไปใน 4 แนวทางคือ ในกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัด ในโลกอินเตอร์เน็ต และในต่างประเทศ”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็บอกได้เลยว่า การยุบสภา เพื่อให้ทุกอย่างกลับไปที่การเลือกตั้ง ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเชื่อว่าจะทำให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายไปได้ แม้ไม่หมดไปแต่ก็ดีขึ้น สุดท้าย ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น หากยังมีการตั้งแง่ ไม่ยอมลดราวาศอกกันเช่นนี้
ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปจนถึงก่อนวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง คนเสื้อแดงไม่ยอมแสดงท่าทีอันชัดเจนว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้ง ยอมรับการจัดตั้งรัฐบาลที่เพื่อไทยอาจไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่กลับจะใช้เวทีเสื้อแดง ที่แม้จะไม่มีแกนนำนปช.ขึ้นเวที เพราะถึงตอนนั้นหลายคนจะกลายเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของเพื่อไทย ที่คงจะขึ้นเวทีปราศรัยเสื้อแดงไม่ได้ แต่ก็จะส่งแกนนำคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงสมัครส.ส.ขึ้นเวทีโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะพรรคการเมืองคู่แข่งเพื่อไทยอย่างเผ็ดร้อน โดยสามารถเรียกคะแนนให้พรรคเพื่อไทยได้ด้วย แถมยังเป็นเวทีทำลายฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนใบเหลืองใบแดงเหมือนเวทีปราศรัยของพรรคการเมือง
ถ้าถึงช่วงเลือกตั้ง แล้วสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้คนอาจสับสน และคิดไปว่าเลือกตั้งไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็จะไม่ออกมาลงคะแนนเสียง สุดท้าย การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอาจไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
จึงควรอย่างยิ่งที่ทักษิณ -แกนนำนปช. ต้องแสดงท่าทีให้ชัดว่าจะเอาอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพราะถึงวันนี้คดีความต่างๆ เช่นที่แกนนำนปช.ถูกเอาผิดคดีก่อการร้าย คดีก็ส่งฟ้องศาลไปแล้ว ศาลก็ให้ประกันตัวอดีตแกนนำนปช.เกือบทั้งหมดแล้ว เรื่องทั้งหมดก็ควรปล่อยให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม
ทักษิณและแกนนำนปช.ไม่ควรเลี้ยงคนเสื้อแดงเอาไว้กดดันข่มขู่ศาลเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้
การจะนัดชุมนุมแบบสองเดือนครั้ง จริงอยู่ เป็นสิทธิทางประชาธิปไตย แต่ก็ควรต้องยุติการให้ร้ายกับฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะฝ่ายศาล -กรมสอบสวนคดีพิเศษ-อัยการ เพื่อหวังกดดันคดีที่แกนนำทั้งหมดตกเป็นผู้ต้องหาก่อการร้าย และยิ่งหากประเทศอยู่ในช่วงเลือกตั้ง เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้ปัญหาการเมืองทุกอย่างจบที่การเลือกตั้ง จบที่การตัดสินใจบนเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย จะไม่มีการชุมนุมสัก 2 เดือนจะไม่ได้เชียวหรือ
ขณะเดียวกัน ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องยอมรับว่ายังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ โดยเฉพาะกับคนเสื้อแดง-คนอีสาน-คนเหนือ ก็ไม่ควรมาหาเสียงแบบลมๆแล้งๆ ให้ความหวังลอยลมกับประชาชนที่อาจรู้ไม่เท่าทัน ทักษิณ ชินวัตร พูดได้อย่างไรว่า หากเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาล รับรอง 6 เดือนหนี้สินประชาชนหมด มีแต่ความร่ำรวยอู้ฟู่กันทั้งประเทศ
ฟังแล้วก็แทบหัวเราะฟันหัก เพราะหาเสียงแบบนี้ มันหนักยิ่งกว่าตอนหาเสียงสมัยอยู่พลังธรรม บอกจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครให้หมดไปภายใน 6 เดือน ซึ่งก็ไม่มีใครทำได้อยู่แล้ว
รอบนี้ บอกจะทำให้คนไทยรวยมีเงินเต็มกระเป๋าใน 6 เดือน มันยิ่งกว่าโฆษณาชวนเชื่อ คงมีแต่คนเสียสติเท่านั้นที่จะเชื่อคำพูดโกหกทางไกลจากแอฟริกาใต้ของทักษิณ
ที่ก็ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทย จะบ้าจี้ เอาเรื่องนี้ไปขยายผลเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งหรือไม่ หากเอาจริง ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เพื่อไทยมันกลวงจริงๆ
เมื่อวันนี้ จะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว คนเสื้อแดง ก็ควรต้องปรับแผนการเคลื่อนไหว ให้สอดคล้องไปกับวาระการตัดสินใจของประชาชน ก็ที่ผ่านมา เรียกร้องกันให้มีการยุบสภา เลือกตั้งมิใช่หรือ
แล้วไฉนวันนี้ เมื่อจะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง กลับตั้งเงื่อนไขไว้เพียบ คล้ายกับไม่ยอมปล่อย คนเสื้อแดงหรือเพราะหมายมั่นจะเก็บพลังส่วนนี้ไว้ต่อรองกับกลุ่มคนบางคนหลังเลือกตั้ง เพื่อจะกลับมาเป็นรัฐบาลให้ได้
ใช่หรือไม่ ทักษิณ ชินวัตร ?