“บิ๊กตู่” ย้ำแก้ปัญหายาเสพติดเรื่องสำคัญ แนะ ศอ.ปชน.เน้นบูรณาการทุกฝ่าย

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ประยุทธ์” เยือนเชียงใหม่ รับฟังผลการดำเนินงาน ศอ.ปชน.พร้อมฝากทุกหน่วยงานดูเรื่อง “ปราบปราม-ลดความต้องการ” กับเพิ่ม “บูรณาการ-ตั้งเป้าหมาย” ย้ำ ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญ ทุกฝ่ายต้องทำงานต่อเนื่อง-เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างกันให้มาก

วันนี้ (11 ก.พ.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางมารับทราบความคืบหน้าในการปฏิบัติงานและรับฟังแนวทางการปฏิบัติงาน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในการประชุมคณะกรรมการและที่ปรึกษา ศูนย์อำนวยการประสานงานสกัดกั้น และแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปชน.) ครั้งที่ 2/2554 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่

การประชุมดังกล่าวเป็นไปตามโยบายของรัฐบาล เรื่องปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 3 ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั่วป้องกัน 9 โครงการ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมในการประชุม

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวภายหลังรับฟังผลการดำเนินงานและแนวทางการปฏิบัติงานจากหน่วยงานต่างๆ ว่า การมารับฟังผลการประชุมในครั้งนี้มาในฐานะของรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และจากการมอบหมายให้ติดตามความคืบหน้าจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเท่าที่ได้รับทราบข้อมูลต่างๆ แล้ว คิดว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างก็ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและมีการวางแผนการทำงานในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม มีข้อแนะนำที่อยากจะให้ทุกฝ่ายนำไปพิจารณา ได้แก่ เรื่องของการปราบปราม ซึ่งจากตัวเลขสถิติการจับกุมยาเสพติดหรือผู้ค้าตามแนวชายแดนนั้น ปรากฏว่า มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด แต่ในขณะเดียวกัน ปริมาณยาเสพติดที่แพร่หลายอยู่ในตัวเมืองหรือตามชุมชนก็มีมากด้วยเช่นกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะต้องนำข้อมูลส่วนนี้ไปวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่ายังมีการเล็ดลอดเข้ามาของยาเสพติดจากจุดอื่นๆ หรือกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการหรือสถานที่ในการขนถ่ายยาเสพติด

ขณะเดียวกัน เมื่อมีตัวเลขสถิติต่างๆ อยู่แล้ว การทำงานต่อไปในอนาคตจึงควรมีการวางเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่ามองแค่เพียงว่าสถิติมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร แต่ควรจะกำหนดเกณฑ์หรือตั้งตัวชี้วัดเพื่อเป็นเป้าหมายว่าผลการทำงานควรจะออกมาเป็นอย่างไร อย่างเช่นจะลดจำนวนยาเสพติดให้เหลือเท่าใด เป็นต้น แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อย่าสนใจเพียงแต่สถิติอย่างเดียวโดยไม่พิจารณาในมุมอื่นด้วย เพราะท้ายที่สุดชีวิตคนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถึงจะจับยาเสพติดได้จำนวนมหาศาล แต่ถ้าต้องเสียชีวิตของผู้ปฏิบัติงานไปเป็นจำนวนมากก็ไม่คุ้ม

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เรื่องต่อมาคือการทำงานตามแนวยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันที่ทุกฝ่ายดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาลนั้น อยากจะให้มีความชัดเจนมากยิ่งขั้นว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนใด รวมทั้งแต่ละหน่วยงานต้องพยายามบูรณาการการทำงานร่วมกันด้วย ซึ่งในส่วนนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีคำสั่งมาก่อนแล้วจึงทำ แต่สามารถพิจารณากันได้เองเลยว่าจะเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกันอย่างไร

เพราะหากต่างฝ่ายต่างทำงาน แม้จะทำงานในส่วนของตนเองได้ดี แต่ก็จะขาดการเชื่อมโยงกันทั้งระบบในภาพรวม ซึ่งจะทำให้ผลของงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งการทำงานจะต้องทำต่อเนื่องไปตลอด อย่าคิดว่านี่คือการปฏิบัติตามนโยบายในระยะที่ 3 หลังจากนี้ก็ไม่จำเป็นเน้นหนักอีกแล้ว ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าใครจะอยู่ใครจะไปก็ต้องดำเนินการตลอด หยุดไม่ได้

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคืออยากจะให้เน้นไปที่การลดความต้องการยาเสพติด โดยอยากให้ทุกหน่วยงานช่วยกันหากลไกที่จะทำให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติด โดยอาจจะใช้สื่อประชาสัมพันธ์ตามชุมชนหรือแหล่งเป้าหมายต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติดมากขึ้น รวมทั้งยังต้องมองในมิติอื่นๆ ด้วย

โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนา ที่อยากให้นำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาใช้ ทั้งนี้หน่วยงานต่างๆ จะต้องหาทางเข้าไปช่วยส่งเสริมชุมชน ทำให้คนมีอาชีพ มีการศึกษา และมีรายได้ เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้ตกไปอยู่ในเครือข่ายของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ขณะเดียวกัน กระบวนการการพัฒนาต้องเป็นไปตามที่ประชาชนหรือชุมชนต้องการและเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ไม่ใช่พัฒนาไปทั้งที่ประชาชนไม่ได้ต้องการจริงๆ

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่าทุกหน่วยงานถือว่าได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ หากต้องการการสนับสนุนหรือความชวยเหลือใดที่กองทัพบกสามารถดำเนินการได้ก็ขอให้ประสานมา ทางกองทัพยินดีจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ อย่างเช่นกรณีของการจัดตั้ง ศอ.ปชน.ในภาคเหนือนั้นก็เห็นว่าได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งอาจจะมีการหารือกันเพื่อจัดตั้งในภาคอื่นๆ ต่อไปด้วย