2 สัปดาห์แล้วที่ 7 คนไทยต้องนอนคุกกัมพูชา และจะต้องนอนอีกยาวนานเท่าไรไม่มีใครคาดการณ์ได้ เพราะรัฐบาลไทยใช้ความเป็นสุภาพบุรุษให้ความช่วยเหลือทั้ง 7 คนทุกช่องทาง แต่ละช่องทางนั้นล้วนขึ้นอยู่กับความเมตตา กรุณาของกัมพูชาเป็นที่ตั้ง ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลพูดกันไปคนละทางสองทาง ชาวบ้านโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง เข้าพบนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แสดงหลักฐาน น.ส. 3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้ง 7 คนไทยถูกทหารกัมพูชาจับบนดินแดนไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ
กรณีที่ 7 คนไทย นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด และพวกถูกทหารกัมพูชาจับที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยกัมพูชาอ้างว่า ทั้ง 7 คนรุกล้ำเข้าไปในแผ่นดินกัมพูชา ยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังระหว่างไทยกับกัมพูชา และระหว่างรัฐบาลไทยกับประชาชนคนไทยที่รักชาติรักประเทศส่วนหนึ่งอยู่ในขณะนี้ เนื่องจาก
ทันทีที่ 7 คนไทยถูกจับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีของเราต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้ง 7 คนไทยล่วงล้ำดินแดนกัมพูชาไปจริง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้นยืนยันว่า คนไทยทั้ง 7 คนล้ำแดนกัมพูชาไปเท่านั้นเท่านี้เมตร ล่าสุดบอกว่า 8 เมตร พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า เคยเป็นทหารหาญกองกำลังบูรพามาก่อน รู้จักคุ้นเคยพื้นที่ดี เราล้ำแดนกัมพูชาแน่นอน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก บอกให้เคารพศาลกัมพูชา ซึ่งกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดูเหมือนจะคล้อยตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม แต่ก็ยังบอกว่า กำลังใช้ทุกช่องทางช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คนให้ได้รับอิสรภาพ
ฝ่ายรัฐบาลดูเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญกับข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ด้านที่ว่าจุดที่คนไทยถูกจับเป็นที่ดินที่เป็นที่นาของชาวบ้านของคนไทยที่มีเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. ที่เคยทำนา และเสียภาษีให้รัฐบาลไทย โดยรัฐบาลไทยออกเอกสารดังกล่าวให้ตั้งแต่ปี 2517 โน่นแล้ว อาณาบริเวณดังกล่าว เคยเป็นค่ายเขมรอพยพหนีภัยสงคราม และเมื่อสงครามสงบก็ไม่กลับ ทำให้คนไทยที่เคยทำกินในที่ดินดังกล่าวเข้าไปทำกินไม่ได้ ร้องเรียนรัฐบาลมาหลายรัฐบาลแล้ว และหลายรัฐบาลก็เพิกเฉยละเลย
จนในที่สุด เรื่องถึงหูนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวที่ให้ความสนใจปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ จึงได้ลงพื้นที่ไปดูพื้นที่จริงๆ เพื่อที่จะได้หาทางช่วยเหลือชาวบ้าน และในที่สุดก็ถูกจับดังกล่าว
ประเทศไทยมีอาณาบริเวณติดต่อหลายประเทศ ทางเหนือเป็นพม่า ลาว ตะวันออกเป็นลาว กัมพูชา ใต้เป็นมาเลเซีย ตะวันตกเป็นพม่า การกระทบกระทั่งกันกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเรื่องปกติของประเทศที่มีอาณาบริเวณติดต่อกัน และก็สามารถแก้ปัญหาได้ ที่ยืดเยื้ออยู่ก็คือ กัมพูชา
รัฐบาลไทยพยายามใช้นโยบายเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็ดูเหมือนจะใช้ได้กับมาเลเซีย พม่า ลาว แต่กับกัมพูชาดูเหมือนจะไร้ผล ไม่ต้องดูอื่นไกลหรอกครับดูกรณี 7 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับตัวนี่ก็แล้วกัน ถ้าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สมมติว่าคนไทยทั้ง 7 คนล้ำแดนเขาไปจริงๆ ทหารกัมพูชาจับตัวไว้แล้วก็บอกกล่าวว่า นี่เป็นดินแดนกัมพูชา ขอให้ถอยออกไปเสียเท่านี้ก็สิ้นเรื่อง หรือเมื่อถูกจับไปแล้ว ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชาสั่งให้ปล่อยเสียก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องเอามาขึ้นศาลให้ยืดเยื้อยุ่งยาก
การกระทำของรัฐบาลกัมพูชาครั้งนี้มันบอกชัดเจนว่า กูไม่แคร์ก็ไม่เกรงใจ และกูไม่กลัวมึง
ทั้งที่อีกด้านหนึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าจุดที่คนไทยถูกจับ เป็นที่นาของชาวบ้านคนไทยที่มี น.ส. 3 ออกโดยรัฐบาลไทย กระนั้นโฆษกทหารของไทยก็ยังมีหน้าบอกว่า น.ส. 3 เอาไปอ้างกับต่างประเทศไม่ได้
ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีบ่อน้ำที่องค์การสหประชาชาติซึ่งมาช่วยเขมรอพยพในค่ายเขมรอพยพขุดขึ้น
ทั้งที่มีชาวกัมพูชาเป็นพันเป็นหมื่นคนหนีเข้าไทยอยู่ขณะนี้มาหางานทำบ้าง ทำมาค้าขายบ้าง
ทั้งที่บ่อนการพนันชายแดนไทย-กัมพูชานั้นอยู่ได้ด้วยนักพนันคนไทย
ถ้าหากเราจะใช้นโยบายแข็งกร้าวกดดันกัมพูชาให้ปล่อยคนไทยทั้ง 7 คนตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม2553 เรื่องก็น่าจะจบไปนานแล้ว แต่รัฐบาลไม่เอา
ผู้นำรัฐบาลไม่ว่ากระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ละล่ำละลักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนไทยทั้ง 7 คนรุกล้ำแผ่นดินกัมพูชาจริงๆ ฝ่ายทหารแม่ทัพภาค 2 บอกว่า คนไทยเหล่านี้ (ทั้ง 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับรักชาติจนทำให้ป่วนไปหมด) สื่อมวลชนไทยส่วนหนึ่งก็มีความเห็นทำนองว่าคนไทยทั้ง 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับบ้ารักชาติ คลั่งชาติจนเกินเหตุ ฝ่ายค้านก็พยายามที่จะจับผิดรัฐบาล นายกรัฐมนตรีสั่งการให้นายพนิชล้ำแดนกัมพูชาหรือไม่ มีคลิปวิดีโอว่าคนไทยล้ำแดนกัมพูชา
ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังหนีคุกคุยว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือถ้าหากรัฐบาลขอให้คุยกับกัมพูชา
ไม่ได้คิดที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยกันเลย
ประเทศที่มีพลเมืองไม่กี่ล้านคนหยามประเทศที่มีพลเมือง 64-65 ล้านคนได้ ก็เพราะผู้นำของประเทศขาดภาวะผู้นำ ขาดความกล้าหาญ และรัฐบาลขาดเอกภาพ คนในชาติขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่างนี้ละครับ พี่น้อง
กรณีที่ 7 คนไทย นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด และพวกถูกทหารกัมพูชาจับที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยกัมพูชาอ้างว่า ทั้ง 7 คนรุกล้ำเข้าไปในแผ่นดินกัมพูชา ยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังระหว่างไทยกับกัมพูชา และระหว่างรัฐบาลไทยกับประชาชนคนไทยที่รักชาติรักประเทศส่วนหนึ่งอยู่ในขณะนี้ เนื่องจาก
ทันทีที่ 7 คนไทยถูกจับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีของเราต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้ง 7 คนไทยล่วงล้ำดินแดนกัมพูชาไปจริง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้นยืนยันว่า คนไทยทั้ง 7 คนล้ำแดนกัมพูชาไปเท่านั้นเท่านี้เมตร ล่าสุดบอกว่า 8 เมตร พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า เคยเป็นทหารหาญกองกำลังบูรพามาก่อน รู้จักคุ้นเคยพื้นที่ดี เราล้ำแดนกัมพูชาแน่นอน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก บอกให้เคารพศาลกัมพูชา ซึ่งกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดูเหมือนจะคล้อยตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม แต่ก็ยังบอกว่า กำลังใช้ทุกช่องทางช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คนให้ได้รับอิสรภาพ
ฝ่ายรัฐบาลดูเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญกับข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ด้านที่ว่าจุดที่คนไทยถูกจับเป็นที่ดินที่เป็นที่นาของชาวบ้านของคนไทยที่มีเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. ที่เคยทำนา และเสียภาษีให้รัฐบาลไทย โดยรัฐบาลไทยออกเอกสารดังกล่าวให้ตั้งแต่ปี 2517 โน่นแล้ว อาณาบริเวณดังกล่าว เคยเป็นค่ายเขมรอพยพหนีภัยสงคราม และเมื่อสงครามสงบก็ไม่กลับ ทำให้คนไทยที่เคยทำกินในที่ดินดังกล่าวเข้าไปทำกินไม่ได้ ร้องเรียนรัฐบาลมาหลายรัฐบาลแล้ว และหลายรัฐบาลก็เพิกเฉยละเลย
จนในที่สุด เรื่องถึงหูนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวที่ให้ความสนใจปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ จึงได้ลงพื้นที่ไปดูพื้นที่จริงๆ เพื่อที่จะได้หาทางช่วยเหลือชาวบ้าน และในที่สุดก็ถูกจับดังกล่าว
ประเทศไทยมีอาณาบริเวณติดต่อหลายประเทศ ทางเหนือเป็นพม่า ลาว ตะวันออกเป็นลาว กัมพูชา ใต้เป็นมาเลเซีย ตะวันตกเป็นพม่า การกระทบกระทั่งกันกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเรื่องปกติของประเทศที่มีอาณาบริเวณติดต่อกัน และก็สามารถแก้ปัญหาได้ ที่ยืดเยื้ออยู่ก็คือ กัมพูชา
รัฐบาลไทยพยายามใช้นโยบายเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็ดูเหมือนจะใช้ได้กับมาเลเซีย พม่า ลาว แต่กับกัมพูชาดูเหมือนจะไร้ผล ไม่ต้องดูอื่นไกลหรอกครับดูกรณี 7 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับตัวนี่ก็แล้วกัน ถ้าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สมมติว่าคนไทยทั้ง 7 คนล้ำแดนเขาไปจริงๆ ทหารกัมพูชาจับตัวไว้แล้วก็บอกกล่าวว่า นี่เป็นดินแดนกัมพูชา ขอให้ถอยออกไปเสียเท่านี้ก็สิ้นเรื่อง หรือเมื่อถูกจับไปแล้ว ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชาสั่งให้ปล่อยเสียก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องเอามาขึ้นศาลให้ยืดเยื้อยุ่งยาก
การกระทำของรัฐบาลกัมพูชาครั้งนี้มันบอกชัดเจนว่า กูไม่แคร์ก็ไม่เกรงใจ และกูไม่กลัวมึง
ทั้งที่อีกด้านหนึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าจุดที่คนไทยถูกจับ เป็นที่นาของชาวบ้านคนไทยที่มี น.ส. 3 ออกโดยรัฐบาลไทย กระนั้นโฆษกทหารของไทยก็ยังมีหน้าบอกว่า น.ส. 3 เอาไปอ้างกับต่างประเทศไม่ได้
ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีบ่อน้ำที่องค์การสหประชาชาติซึ่งมาช่วยเขมรอพยพในค่ายเขมรอพยพขุดขึ้น
ทั้งที่มีชาวกัมพูชาเป็นพันเป็นหมื่นคนหนีเข้าไทยอยู่ขณะนี้มาหางานทำบ้าง ทำมาค้าขายบ้าง
ทั้งที่บ่อนการพนันชายแดนไทย-กัมพูชานั้นอยู่ได้ด้วยนักพนันคนไทย
ถ้าหากเราจะใช้นโยบายแข็งกร้าวกดดันกัมพูชาให้ปล่อยคนไทยทั้ง 7 คนตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม2553 เรื่องก็น่าจะจบไปนานแล้ว แต่รัฐบาลไม่เอา
ผู้นำรัฐบาลไม่ว่ากระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ละล่ำละลักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนไทยทั้ง 7 คนรุกล้ำแผ่นดินกัมพูชาจริงๆ ฝ่ายทหารแม่ทัพภาค 2 บอกว่า คนไทยเหล่านี้ (ทั้ง 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับรักชาติจนทำให้ป่วนไปหมด) สื่อมวลชนไทยส่วนหนึ่งก็มีความเห็นทำนองว่าคนไทยทั้ง 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับบ้ารักชาติ คลั่งชาติจนเกินเหตุ ฝ่ายค้านก็พยายามที่จะจับผิดรัฐบาล นายกรัฐมนตรีสั่งการให้นายพนิชล้ำแดนกัมพูชาหรือไม่ มีคลิปวิดีโอว่าคนไทยล้ำแดนกัมพูชา
ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังหนีคุกคุยว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือถ้าหากรัฐบาลขอให้คุยกับกัมพูชา
ไม่ได้คิดที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยกันเลย
ประเทศที่มีพลเมืองไม่กี่ล้านคนหยามประเทศที่มีพลเมือง 64-65 ล้านคนได้ ก็เพราะผู้นำของประเทศขาดภาวะผู้นำ ขาดความกล้าหาญ และรัฐบาลขาดเอกภาพ คนในชาติขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่างนี้ละครับ พี่น้อง
