เชียงราย - เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงทั้งเหนือและอีสานร่วมล่ารายชื่อ 5 หมื่นรายชื่อ เรียกร้องรัฐบาลชะลอการเห็นชอบในการสร้างเขื่อนไซยะบุรี เพื่อกั้นแม่น้ำโขงในแขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ระบุผลกระทบจากการสร้างเขื่อนมีมหาศาล ควรจะขยายออกไปอีก 10 ปี
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าช่วงก่อนและระหว่างเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เครือข่ายประชาชนลุ่มแม่น้ำโขง" ซึ่งประกอบไปด้วยองค์กรเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จ.เชียงราย หนองคาย เลย บึงกาฬ มุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ได้มีการออกประชาสัมพันธ์และขอเสียงสนับสนุนเป็นรายชื่อจากประชาชนทั่วไป เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยได้ชะลอการเห็นชอบในการสร้างเขื่อนไชยบุรีเพื่อกั้นแม่น้ำโขงในเขตแขวงไซยบุรี สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงคาน จ.เลย ประมาณ 200 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นโครงการที่เสนอโดย สปป.ลาว แต่ใช้ทุนเงินกู้จากรัฐบาลไทย เพื่อแลกกับการซื้อพลังงานไฟฟ้าของไทย
นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา ในฐานะตัวแทนจาก จ.เชียงราย เปิดเผยว่าพวกเราคาดหวังว่าจะได้รายชื่อจากประชาชนเพื่อเสนอไปยังรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 30,000 รายชื่อจากเป้าที่ตั้งเอาไว้ประมาณ 50,000 รายชื่อ โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อจะได้ร่วมกันเป็นตัวแทนเครือข่าย 8 จังหวัดๆ ละ 10 คนนำรายชื่อพร้อมข้อเสนอไปยื่นต่อรัฐบาลในวันที่ 18 เม.ย.นี้ และหลังจากนั้นก็จะยื่นไปยังสถานเอกอัครราชทูตของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) คือ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนามต่อไปอีกด้วย
นายสมเกียรติ กล่าวว่าสาเหตุที่ต้องยื่นหนังสือเพื่อให้ทบทวนและขอให้ชะลอความเห็นชอบจากรัฐบาลไทย เพราะคณะรัฐมนตรีไทยจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ขณะที่ผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงที่ผ่านมาก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าได้มีผลกระทบจริง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำโขงแห้ง การขึ้นลงของน้ำผิดปกติ กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ และระบบนิเวศวิทยา ฯลฯ รวมทั้งทาง MRC ก็มีความเห็นว่าควรจะมีการชะลอโครงการนี้ไปก่อนด้วยการศึกษาเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 10 ปี
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า โดยความเป็นจริงแล้วการจะดำเนินการใดๆ ในแม่น้ำโขงโดยเฉพาะการสร้างเขื่อนที่จะกระทบไปถึงประเทศอื่นๆ ที่ใช้แม่น้ำโขงร่วมกันจะต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 4 ชาติใน MRC ดังนั้นรัฐบาลไทยควรจะได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 4 ประเทศให้ครบถ้วนด้วย ซึ่งก็หมายถึงประเทศสมาชิก MRC ทั้งหมดนั่นเอง
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอจากทาง สปป.ลาว และรัฐบาลไทยพิจารณาเพื่อให้เงินกู้ยืม เพื่อการก่อสร้างและจัดวางระบบการซื้อกระแสไฟฟ้า แต่ยังต้องมีการประเมินผลและศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA อีกครั้งหนึ่ง แต่ภาคประชาชนก็อยากให้มีการชะลอเพื่อให้มีการศึกษาให้ครบถ้วนก่อนจะมีการอนุมัติด้วย
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าช่วงก่อนและระหว่างเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เครือข่ายประชาชนลุ่มแม่น้ำโขง" ซึ่งประกอบไปด้วยองค์กรเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จ.เชียงราย หนองคาย เลย บึงกาฬ มุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ได้มีการออกประชาสัมพันธ์และขอเสียงสนับสนุนเป็นรายชื่อจากประชาชนทั่วไป เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยได้ชะลอการเห็นชอบในการสร้างเขื่อนไชยบุรีเพื่อกั้นแม่น้ำโขงในเขตแขวงไซยบุรี สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงคาน จ.เลย ประมาณ 200 กิโลเมตร เนื่องจากเป็นโครงการที่เสนอโดย สปป.ลาว แต่ใช้ทุนเงินกู้จากรัฐบาลไทย เพื่อแลกกับการซื้อพลังงานไฟฟ้าของไทย
นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา ในฐานะตัวแทนจาก จ.เชียงราย เปิดเผยว่าพวกเราคาดหวังว่าจะได้รายชื่อจากประชาชนเพื่อเสนอไปยังรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 30,000 รายชื่อจากเป้าที่ตั้งเอาไว้ประมาณ 50,000 รายชื่อ โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อจะได้ร่วมกันเป็นตัวแทนเครือข่าย 8 จังหวัดๆ ละ 10 คนนำรายชื่อพร้อมข้อเสนอไปยื่นต่อรัฐบาลในวันที่ 18 เม.ย.นี้ และหลังจากนั้นก็จะยื่นไปยังสถานเอกอัครราชทูตของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) คือ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนามต่อไปอีกด้วย
นายสมเกียรติ กล่าวว่าสาเหตุที่ต้องยื่นหนังสือเพื่อให้ทบทวนและขอให้ชะลอความเห็นชอบจากรัฐบาลไทย เพราะคณะรัฐมนตรีไทยจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ขณะที่ผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงที่ผ่านมาก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าได้มีผลกระทบจริง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำโขงแห้ง การขึ้นลงของน้ำผิดปกติ กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ และระบบนิเวศวิทยา ฯลฯ รวมทั้งทาง MRC ก็มีความเห็นว่าควรจะมีการชะลอโครงการนี้ไปก่อนด้วยการศึกษาเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 10 ปี
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า โดยความเป็นจริงแล้วการจะดำเนินการใดๆ ในแม่น้ำโขงโดยเฉพาะการสร้างเขื่อนที่จะกระทบไปถึงประเทศอื่นๆ ที่ใช้แม่น้ำโขงร่วมกันจะต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 4 ชาติใน MRC ดังนั้นรัฐบาลไทยควรจะได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 4 ประเทศให้ครบถ้วนด้วย ซึ่งก็หมายถึงประเทศสมาชิก MRC ทั้งหมดนั่นเอง
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอจากทาง สปป.ลาว และรัฐบาลไทยพิจารณาเพื่อให้เงินกู้ยืม เพื่อการก่อสร้างและจัดวางระบบการซื้อกระแสไฟฟ้า แต่ยังต้องมีการประเมินผลและศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ EIA อีกครั้งหนึ่ง แต่ภาคประชาชนก็อยากให้มีการชะลอเพื่อให้มีการศึกษาให้ครบถ้วนก่อนจะมีการอนุมัติด้วย
