“สอดแนมการเมือง”
โดย…ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
สถานการณ์ตอนนี้..กำลังเดินหน้าเข้าสู่สภาพการเมือง“ลูกผี-ลูกคน”!
คือ มีทั้งคลื่นเหนือน้ำและใต้น้ำเคลื่อนไหวอย่างหนัก แน่นอน..คลื่นเหล่านั้นอาจผันแปรกลายเป็นคลื่นสึนามิ ที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ทางใดทางหนึ่งก็ได้..จริงไหมพ่อแม่พี่น้องเอ้ย...?
เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่เป็นหุ่นเชิดของเทพเทือก-ป้อม-เนวิน บริหารชาติบ้านเมืองมากว่า 2 ปี ด้วยผลงานสุดห่วยอันเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ยั่วยวน ชวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเสียนี่กระไร
รัฐบาลอภิสิทธิ์หุ่นเชิดของเทพเทือก-ป้อม-เนวิน ทำอะไรไว้บ้างน่ะหรือ..มาดูกัน..
รัฐบาลอภิสิทธิ์..โยกย้ายข้าราชการอย่างอยุติธรรมสุดๆ โดยเฉพาะข้าราชการระดับปลัดและอธิบดีในกระทรวงมหาดไทย..จริงไหม?
รัฐบาลอภิสิทธิ์..ปล่อยให้อันธพาลการเมือง ล้มการประชุมนานาชาติระดับอาเซี่ยนที่พัทยาทำให้ผู้นำประเทศต่างๆ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอด งานประชุมจึงต้องล้มโครมลง ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
งานนี้งานเดียว..อภิสิทธิ์ก็ไม่มีสิทธิ์จะนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วล่ะ เพราะทำให้คนและชาติไทยเสียชื่อไปทั่วโลก!
รัฐบาลอภิสิทธิ์..ยังปล่อยให้เกิดการเผาบ้านเผาเมืองครั้งแรก ในเดือนเมษายน 2551 จากนั้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไม่ยอมสำเหนียกในบทเรียนอันเจ็บปวด ไม่ยอมตัดไฟเสียแต่ต้นลมกับขบวนการอันธพาลการเมือง จนเกิดเหตุก่อการร้ายทั้งเผาบ้านเผาเมือง และใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าทหารและประชาชนคนบริสุทธิ์ จนต้องบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ในช่วงเดือนเมษายนจรดเดือนพฤษภาคม 2552 อีกครา
ความวิบัติทางการเมือง 2 ครั้ง นายกฯอภิสิทธิ์-เทพเทือก รองฯด้านความง่อนแง่น-ป้อม ณ กลาโหม ไม่มีใครสักคนโผล่หน้าออกมารับผิดชอบเลย ทุกคนยังหน้าด้านนั่งในตำแหน่งทางการเมือง ราวกับประเทศนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ..เฮ้อ..เวรกรรม..
รัฐบาลอภิสิทธิ์..เป็นรัฐบาลที่มากด้วยการคอร์รัปชั่นโกงกินในวงกว้าง..ใครจะเถียงบ้าง?
รัฐบาลอภิสิทธิ์..ยังบังอาจเหิมเกริมอย่างหนัก ถึงขั้นเอาผืนแผ่นดินที่บรรพบุรุษใช้เลือดเนื้อและชีวิตปกป้องรักษาเอาไว้ ไปสมคบยกผืนดิน 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหารให้กับชาติเขมรอย่างดื้อๆ โดยไม่แยแสสนใจความไม่พอใจของประชาชนทั้งประเทศ
งานนี้..บรรดานักการเมืองซื้อเสียงเลือกตั้ง ที่กำลังครองอำนาจรัฐจงใจขายชาติขายแผ่นดินเพื่อแลกกับผลประโยชน์น้ำมันใต้ท้องทะเลไทย-กัมพูชา ที่มีมูลค่ากว่า 5.5 ล้านๆ บาทกันอย่างโจ่งแจ้ง เรียกว่า..นักการเมืองชั่วกำลังใช้เล่ห์และกลโกง เอาน้ำมันที่เสมือน“ขุมทรัพย์ชาติไทย”มาเข้าพกเข้าห่อตนและพรรคพวกอย่างหน้าด้านๆ เลยหล่ะ..จริงไหม?
นั่นเป็นส่วนหนึ่งแห่งความผิดพลาดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้าง ดังกรณีน้ำมันพืชที่ทั้งแพงและขาดตลาด โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มที่ขึ้นราคาต่อลิตรถึง 9 บาท แต่ผู้บริโภคกลับหาซื้อไม่ได้..จนต้องเข้าคิวปันส่วนขายกันเลยครับ
เฮ้อ..หากมาดูการแก้ปัญหาก่อการร้ายที่ภาคใต้ด้วยแล้ว รัฐบาลอภิสิทธิ์ยิ่งสอบตกใหญ่เพราะไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ร้ายๆ ทางภาคใต้ให้ดีขึ้นได้เลย ตรงกันข้าม..เหตุก่อการร้ายกลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นพัฒนาเป็น“คาร์บอมบ์”เข้าทำลายล้างชีวิต เจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ส่วนพิบัติภัยจากธรรมชาติทั้งน้ำท่วม-ดินถล่ม ใส่ภาคใต้กว่า 8 จังหวัดนั้น เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด-ไม่คาดฝัน-ไม่ทันตั้งตัว ยิ่งมาเจอรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ่อนแอ-เหยาะแหยะ ไร้ความกล้าในการกระโดดเข้าไปแก้ปัญหาชาติและประชาชน แถมยังอ่อนหัดกับการบริหารจัดการ ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของแผ่นดินโดยรวมอีกด้วย
รัฐบาลอภิสิทธิ์จึงมิใช่เพียงแค่ทำให้เกิดความล้มเหลวทางการเมืองเท่านั้น หากแต่ทำให้เกิดวิกฤตในอีกมากมายหลายด้านขึ้น จนยากต่อการแก้ไขวิกฤตชาติได้อีกต่อไป
นักการเมืองกำมะลอที่ซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดครองและใช้อำนาจรัฐเพื่อการโกงกินและขายชาติ ได้ทำให้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ตกอยู่ในวังวนแห่งอันตรายรอบด้าน ชนิดที่ปล่อยให้พวกนักการเมืองกำมะลอขี้ฉ้อ นั่งบริหารชาติบ้านเมืองกันได้อีกต่อไป
กระแสรัฐประหารกระหึ่ม..เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นคนสร้างเงื่อนไข ให้อำนาจนอกระบบอย่างครบถ้วนหรือเกินพอแล้วในวันนี้ แต่รัฐประหารที่ผ่านมา..ก็เป็นแค่การยึดอำนาจ จากพวกรัฐบาลนักการเมืองกำมะลอโกงกิน มาเป็นรัฐบาลคณะนายทหารกับพวกโกงกินกัน โดยไม่มีการปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้นเลย
กระแสนักการเมืองกำมะลอโกงบ้านโกงเมือง ยุบสภา-คืนอำนาจประชาธิปไตยแบบจอมปลอมให้กับประชาชน ใช้งบประมาณรัฐจัดให้มีการเลือกตั้ง จากนั้นพวกนักการเมืองกำมะลอก็ทุ่มเงินซื้อเสียง เข้ายึดครองรัฐสภา-ยึดและใช้อำนาจรัฐในฐานะรัฐบาล เพื่อบรรดานักการเมืองกำมะลอจะได้อ้างว่า ประชาชนได้เลือกพวกตนและได้มอบอำนาจ นับหนึ่งในการบริหารหรือโกงกินชาติบ้านเมืองอีกครั้ง..อีกครั้ง..และ..อีกครั้ง จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ของชาติไทยไปเลย
บ้านเมืองจึงมีแต่นักการเมืองกำมะลอชั่วๆ ยั้วเยี้ยไปหมดทั้งในรัฐสภาและรัฐบาล นักการเมืองกำมะลอชั่วๆจึงเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำลายความมั่นคงของชาติและประชาชนโดยตรง มากว่า 10 ปีแล้วครับ!
พุทธศาสนาสอนว่า..ดับทุกข์ต้องดับที่ต้นเหตุแห่งทุกข์!
ดังนั้น ถ้ามีการยุบสภา-เลือกตั้งใหม่อีกครั้ง จึงต้องร่วมใจกันVOTE NO ครับ
แหม..ก็มันVOTE YES ไม่ลงนี่นา เพราะพรรคการเมืองใหญ่-น้อยไม่เคยส่งผู้สมัครที่เป็นคน มีแต่ส่งบรรดาสารพัดสัตว์มาให้คนไทยเลือก!
ระบบเลือกตั้งแบบไทยๆ ตามที่นักการเมืองกำมะลอขี้ฉ้อกำหนด จึงเต็มไปด้วยการโกง-การใช้เงินซื้อเสียง-การข่มขู่เข่นฆ่า โดยหลอกลวงคนไทยทั้งชาติมาตลอดว่า
เลือกตั้ง (ใช้เงินซื้อเสียง)- คือ-หนทางเดียวที่เป็นประชาธิปไตย (จอมปลอม) ครับ!
เมื่อใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งได้สส.เข้าสภาเกินกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว คราวนี้แหละ..บรรดานักการเมืองกำมะลอ ก็จะรอคำสั่งยกมือโหวตจากนายทุนใหญ่ของพรรคการเมืองว่า ใครจะได้ขึ้นไปนั่งในฐานะประธานและรองประธานสภา? ใครจะเข้าไปนั่งที่ตึกไทยคู่ฟ้าในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี? ใครจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไหน?
นักลงทุนธุรกิจการเมืองคนหนึ่ง ทุ่มเงินกว่า 3 หมื่นล้าน ตั้งพรรคการเมือง ซื้อ ส.ส.เกรดเอจากพรรคอื่น ใช้เงินซื้อเสียงประชาชนในสนามเลือกตั้งแบบไม่อั้น ในที่สุดก็ได้สส.เกินครึ่งสภา เรียกว่า..ยึดทั้งรัฐสภาและรัฐบาล เพื่อใช้อำนาจรัฐโกงทั้งราษฎร์ทั้งหลวงมา 4 ปีเต็ม
สุดท้าย..นักธุรกิจการเมืองคนนั้น..ถูกทหารรัฐประหารโค่นล้มลง แต่นักการเมืองกำมะลอขี้ฉ้อ..ก็รวยไปหลายแสนล้านบาทเลยครับ!
สึนามิทางการเมือง..จะเกิดก่อนการยุบสภา เกิดก่อนพวกนักการเมืองกำมะลอขี้ฉ้อ เริ่มวงจรอุบาทว์ซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐครั้งใหม่หรือไม่? ไม่มีใครรู้..แต่สถานการณ์อึมครึมแบบนี้..อย่ากระพริบตาครับ!