ASTVผู้จัดการรายวัน – เซเรบอส ชี้อานิสงส์สภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก บูมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทโตพรวด แบรนด์ ทุ่มงบ 30 ล้านบาท แตกไลน์”แบรนด์มัลติ นิวเทรียนท์” เจาะวัยทำงาน มั่นใจสิ้นปีปัจจัยบวกดันยอดโต 2หลัก
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิก จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ซุปไก่สกัด กล่าวว่า จากสภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก ทั้งสภาพอากาศที่หนาวจัดและนานหลายประเทศ และล่าสุดเกิดที่ประเทศไทยทั้งหนาว ฝนตก และร้อน และเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น
อีกทั้งปัจจัยบวกจากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีเม็ดเงินสะพัดหลายอุตสาหกรรม ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ผลักดันให้ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปีนี้มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
บริษัททุ่มงบ 30 ล้านบาท แตกไลน์แบรนด์มัลติ นิวเทรียนท์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ผสมซุปไก่สกัด โดยมีสารสกัดจากผักและผลไม้ 5 ชนิด และกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่รวม ซึ่งนับว่าเป็นการเข้าสู่เซ็กเมนต์ใหม่ของแบรนด์และทำให้มีสินค้าครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ โดยได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ และจัดกิจกรรมการตลาด
แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดเม็ดมูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีหลายเซกเมนต์ ทั้ง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียม เกลือแร่ ซึ่งจากการทำตลาดเชิงรุกบริษัทตั้งเป้ายอดขายตัวใหม่นี้ในช่วง 2 ปี 100 ล้านบาท คิดเป็น 10-20% รายได้แบรนด์ซุปไก่สกัดชนิดเม็ด จากปัจจุบันแบรนด์เม็ดมีสัดส่วนรายได้ 5% ของรายได้รวม
“ที่ผ่านมาการทำตลาดนักการตลาด จะคำนึงด้านประชากรศาสตร์ แบ่งตาม เพศ อายุ แต่การทำตลาดจากนี้ต้องคำนึงถึง 6 เทรนด์ที่เกิดขึ้น 1.พฤติกรรรมของผู้บริโภคทั่วโลกใส่ใจสุขภาพมากขึ้น 2.บรรจุภัณฑ์ที่ต้องมีความสวยงาม เพื่อให้รู้สึกว่าอยากจะใช้งาน 3.ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย 4.สินค้าต้องมีความเป็นตัวตน มีการออกสินค้าที่หลากหลาย 5.ความปลอดภัยของสินค้า 6.การติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้ทุกที่ทุกเวลา “
ล่าสุดบริษัทแม่จากประเทศสิงคโปร์ ได้ทุ่มงบมากกว่า 100 ล้านบาท ลงทุนวางระบบไอที เพื่อรองรับกับการทำดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง จะทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น คาดว่าจะครอบคลุมและแล้วเสร็จในอีก 1 ปีข้างหน้านี้ สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก มากกว่าปีที่ผ่านมา จากปัจจุบันแบรนด์ซุปไก่สกัดเป็นผู้นำตลาดซุปไก่สกัดครองส่วนแบ่ง 90% จากมูลค่าตลาด 4,000 ล้านบาท และรังนกมีส่วนแบ่ง 60-65% จากมูลค่า 2,500-3,000 ล้านบาท
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิก จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ซุปไก่สกัด กล่าวว่า จากสภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก ทั้งสภาพอากาศที่หนาวจัดและนานหลายประเทศ และล่าสุดเกิดที่ประเทศไทยทั้งหนาว ฝนตก และร้อน และเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น
อีกทั้งปัจจัยบวกจากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีเม็ดเงินสะพัดหลายอุตสาหกรรม ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ผลักดันให้ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปีนี้มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
บริษัททุ่มงบ 30 ล้านบาท แตกไลน์แบรนด์มัลติ นิวเทรียนท์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ผสมซุปไก่สกัด โดยมีสารสกัดจากผักและผลไม้ 5 ชนิด และกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่รวม ซึ่งนับว่าเป็นการเข้าสู่เซ็กเมนต์ใหม่ของแบรนด์และทำให้มีสินค้าครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ โดยได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ และจัดกิจกรรมการตลาด
แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดเม็ดมูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีหลายเซกเมนต์ ทั้ง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียม เกลือแร่ ซึ่งจากการทำตลาดเชิงรุกบริษัทตั้งเป้ายอดขายตัวใหม่นี้ในช่วง 2 ปี 100 ล้านบาท คิดเป็น 10-20% รายได้แบรนด์ซุปไก่สกัดชนิดเม็ด จากปัจจุบันแบรนด์เม็ดมีสัดส่วนรายได้ 5% ของรายได้รวม
“ที่ผ่านมาการทำตลาดนักการตลาด จะคำนึงด้านประชากรศาสตร์ แบ่งตาม เพศ อายุ แต่การทำตลาดจากนี้ต้องคำนึงถึง 6 เทรนด์ที่เกิดขึ้น 1.พฤติกรรรมของผู้บริโภคทั่วโลกใส่ใจสุขภาพมากขึ้น 2.บรรจุภัณฑ์ที่ต้องมีความสวยงาม เพื่อให้รู้สึกว่าอยากจะใช้งาน 3.ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย 4.สินค้าต้องมีความเป็นตัวตน มีการออกสินค้าที่หลากหลาย 5.ความปลอดภัยของสินค้า 6.การติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้ทุกที่ทุกเวลา “
ล่าสุดบริษัทแม่จากประเทศสิงคโปร์ ได้ทุ่มงบมากกว่า 100 ล้านบาท ลงทุนวางระบบไอที เพื่อรองรับกับการทำดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง จะทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น คาดว่าจะครอบคลุมและแล้วเสร็จในอีก 1 ปีข้างหน้านี้ สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก มากกว่าปีที่ผ่านมา จากปัจจุบันแบรนด์ซุปไก่สกัดเป็นผู้นำตลาดซุปไก่สกัดครองส่วนแบ่ง 90% จากมูลค่าตลาด 4,000 ล้านบาท และรังนกมีส่วนแบ่ง 60-65% จากมูลค่า 2,500-3,000 ล้านบาท
