ASTVผู้จัดการรายวัน - “แสนสิริ” ปรับแผนบริหารงบการตลาด รับมือมาตรฐานบัญชีใหม่ โยกงบคอนโดฯตลาดบน ปั้นตลาดคอนโดฯระดับกลาง-ล่าง พร้อมรวมศูนย์งบทำตลาดแนวราบ เพื่อเพิ่มประสิทธิ์ภาพในการบริหารจัดการ เปิดลุคส์ใหม่การขายผ่านระบบโซเชียล คอมเมิร์ซ อัดแคมเปญพิเศษ “ยิ่งคลิ๊ก..มูลค่ายิ่งเพิ่ม” คลิ๊ก1 ครั้ง เพิ่มส่วนลด 100บาท
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่าแผนการทำตลาดปีนี้ เน้นความสำคัญกับการบริหารงบประมาณด้านการตลาดมากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ ส่งผลต่อการรับรู้รายได้ของบริษัท จากเดิมที่สามารถรับรู้รายได้ตามความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง เป็นการรับรู้รายได้เมื่อส่งมอบบ้านหรือโอนบ้านให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ กลุ่มโครงการที่ต้องให้ความสำคัญคือ กลุ่มคอนโดมิเนียมระดับกลาง เป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญด้านการตลาด ต้องมีการศึกษาและจัดเก็บข้อมูลมากว่าตลาดคอนโดฯระดับบน โดยอาจจะโยกงบการตลาดในโครงการระดับบนมาทำตลาดในระดับกลางมากขึ้น
ส่วนโครงการคอนโดฯตลาดระดับบนนั้นหากเป็นโครงการที่มีทำเลที่ตั้ง จำนวนคู่แข่ง และการกำหนดราคาที่เข้ากับสูตรสำเร็จที่บริษัทกำหนดไว้ จะมีการตัดลดในส่วนของงบประมาณด้านการตลาดลง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการรับรู้รายได้ที่ยืดออกไปจากมาตรฐานบัญชีใหม่
ส่วนโครงการแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ รูปแบบการตลาดจะไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก แต่อาจจะมีการต่อยอดการทำตลาดจากปีที่ผ่านมาในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ จะมีการดึงงบมาทำตลาดแบบรวม ต่างจากในอดีตที่แต่ละโครงการจะดำเนินการเอง
“ แผนการตลาดทั้งหมด จะช่วยให้การใช้จ่ายเงินในด้านการตลาด สอดคล้องกับงบที่บริษัทกำหนดไว้ คือ ในแต่ละปีประมาณ 3-4% ของยอดรายได้ทังปี”
ล่าสุด แสนศิริ ได้นำที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ทุกประเภท จำนวน 132 ยูนิต จาก 17 โครงการ มูลค่า 723 ล้านบาท จัดแคมเปญ ในรูปแบบการตลาดแบบ ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ผ่านระบบโซเซียล คอมเมิร์ซ ค้นหาบ้านพร้อมอยู่ของแสนสิริ ภายใต้เว็บไซต์ “Instant Living” (www.sansiri.com/instantliving) ภายใต้แคมเปญ “ยิ่งคลิ๊ก..มูลค่ายิ่งเพิ่ม” เนื่องจากมีลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้านของแสนสิริ จากการชมเว็บไซต์ กว่า 50% ซึ่งในปีนี้ จะมีการต่อยอดทางการตลาดผ่านระบบดังกล่าว
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่าแผนการทำตลาดปีนี้ เน้นความสำคัญกับการบริหารงบประมาณด้านการตลาดมากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ ส่งผลต่อการรับรู้รายได้ของบริษัท จากเดิมที่สามารถรับรู้รายได้ตามความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง เป็นการรับรู้รายได้เมื่อส่งมอบบ้านหรือโอนบ้านให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ กลุ่มโครงการที่ต้องให้ความสำคัญคือ กลุ่มคอนโดมิเนียมระดับกลาง เป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญด้านการตลาด ต้องมีการศึกษาและจัดเก็บข้อมูลมากว่าตลาดคอนโดฯระดับบน โดยอาจจะโยกงบการตลาดในโครงการระดับบนมาทำตลาดในระดับกลางมากขึ้น
ส่วนโครงการคอนโดฯตลาดระดับบนนั้นหากเป็นโครงการที่มีทำเลที่ตั้ง จำนวนคู่แข่ง และการกำหนดราคาที่เข้ากับสูตรสำเร็จที่บริษัทกำหนดไว้ จะมีการตัดลดในส่วนของงบประมาณด้านการตลาดลง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการรับรู้รายได้ที่ยืดออกไปจากมาตรฐานบัญชีใหม่
ส่วนโครงการแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ รูปแบบการตลาดจะไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก แต่อาจจะมีการต่อยอดการทำตลาดจากปีที่ผ่านมาในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ จะมีการดึงงบมาทำตลาดแบบรวม ต่างจากในอดีตที่แต่ละโครงการจะดำเนินการเอง
“ แผนการตลาดทั้งหมด จะช่วยให้การใช้จ่ายเงินในด้านการตลาด สอดคล้องกับงบที่บริษัทกำหนดไว้ คือ ในแต่ละปีประมาณ 3-4% ของยอดรายได้ทังปี”
ล่าสุด แสนศิริ ได้นำที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ทุกประเภท จำนวน 132 ยูนิต จาก 17 โครงการ มูลค่า 723 ล้านบาท จัดแคมเปญ ในรูปแบบการตลาดแบบ ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ผ่านระบบโซเซียล คอมเมิร์ซ ค้นหาบ้านพร้อมอยู่ของแสนสิริ ภายใต้เว็บไซต์ “Instant Living” (www.sansiri.com/instantliving) ภายใต้แคมเปญ “ยิ่งคลิ๊ก..มูลค่ายิ่งเพิ่ม” เนื่องจากมีลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้านของแสนสิริ จากการชมเว็บไซต์ กว่า 50% ซึ่งในปีนี้ จะมีการต่อยอดทางการตลาดผ่านระบบดังกล่าว