โออิชิ ลั่นปี 54 บุกต่างประเทศ เล็งอาศัยเครือข่ายเบียร์ช้างปูทาง อัด 500 ล้านบาทลุยตอกย้ำบัลลังก์ชาเขียว อัดกลยุทธ์ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ต้นปี เปิดแอพพลิเคชั่นเกม “OISHI SHAKE ME TO JAPAN” ขยายฐานคนรุ่นใหม่ ลั่นทุ่มงบมากกว่า 30 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญหน้าร้อน หวังสิ้นปีรายได้รวมโต 25% กวาด 11,000 ล้านบาท
นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทวางแผนรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้เครือข่ายการทำตลาดภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ หรือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ช้างซึ่งมีส่งออกมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ ที่ ประเทศอังกฤษ และอเมริกา ฯลฯ ขณะนี้กำลังรอให้การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีการบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling) ที่ นวนคร แล้วเสร็จ จะส่งผลให้กำลังเพียงพอรองรับแผนส่งออกและการทำตลาดในประเทศ
แผนการตลาดในประเทศปีนี้ บริษัทได้ทุ่มงบ 500ล้านบาท หรือ 10% ของยอดขาย ดำเนินการตลาดเชิงรุกประเดิมต้นปี ด้วยใช้กลยุทธ์ชูดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงไลฟ์สไตล์และสร้างความผูกพันกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น มากกว่าการใช้แมสมีเดียซึ่งเป็นเพียงสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และสอดรับกับอัตราการเติบโตของกระแสของการใช้เฟซบุคของคนไทย มีผู้สมัครเป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคน รวมถึงการใช้ไอโฟน 1.5 ล้านยูนิต และมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือกว่า 18 ล้านคน
สำหรับปีนี้บริษัทได้ใช้งบการตลาดบนสื่อดิจิตอล 5% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นเกม”OISHI SHAKE ME TO JAPAN” ลงบนเฟซบุค และปีนี้ได้ขยายไปสู่แพลตฟอร์มไอโฟน ไอแพด และแอนดรอย โดยนำ QR โค้ด บนกล่องยูเอชที เพื่อนำไปเล่นเกมออนไลน์ คาดว่าจะมีผู้เข้ามาสมัครเล่น 1 ล้านคน จากปีที่ผ่านมา มีผู้สมัคร 3 แสนคน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้า 1.5ล้านคน ทั้งนี้ปัจจัยที่เลือกบรรจุภัณฑ์ยูเอชที เพื่อขยายฐานลูกค้า 8-12 ปี และในปีที่ผ่านมาบรรจุภัณฑ์ยูเอชทีก็เติบโต 45% โดยมีสัดส่วนยอดขาย 30%
“การรุกตลาดในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์การเป็นด้านนวัตกรรมและไลฟ์สไตล์ของแบรนด์ และสร้างฐานลูกค้าอายุเด็กลงมา เนื่องจากโออิชิอยู่ในตลาดมานาน ลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 30 ปีขึ้นไป”
นายแมทธิว กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมทุ่มงบมากกว่า 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญการตลาดรับฤดูร้อนปีนี้ที่กำลังมาถึง พร้อมกับเปิดตัวสินค้าใหม่ 2-3 รายการ โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการเครื่องดื่ม สำหรับสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 8,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโต 30% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการเติบโตมาจากการทำแคมเปญการตลาดในช่วงหน้าร้อนของโออิชิ การเปิดตัวสินค้า และการทำตลาดในช่องทางออนไลน์ และปีนี้คาดว่าจะรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 65%
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าโต 25% หรือมีรายได้ 11,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น กลุ่มเครื่องดื่มมีรายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมปีที่ผ่านมาโต 29% แบ่งเป็น กลุ่มเครื่องดื่มรายได้เกือบ 5,000 ล้านบาท เติบโต 34% และกลุ่มอาหารกว่า 5,000 ล้านบาท เติบโต 24% ขณะที่การรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีนี้ผลักดันยอดขายเพิ่มจาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเป้าหมายการเติบโตปีนี้จะน้อยกว่า แต่มั่นใจว่าด้วยนวัตกรรมและการแบรนด์ที่ครองใจกลุ่มผู้บริโภค จะผลักดันให้ทั้งเครือเติบโตต่อเนื่อง
นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทวางแผนรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้เครือข่ายการทำตลาดภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ หรือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ช้างซึ่งมีส่งออกมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ ที่ ประเทศอังกฤษ และอเมริกา ฯลฯ ขณะนี้กำลังรอให้การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีการบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling) ที่ นวนคร แล้วเสร็จ จะส่งผลให้กำลังเพียงพอรองรับแผนส่งออกและการทำตลาดในประเทศ
แผนการตลาดในประเทศปีนี้ บริษัทได้ทุ่มงบ 500ล้านบาท หรือ 10% ของยอดขาย ดำเนินการตลาดเชิงรุกประเดิมต้นปี ด้วยใช้กลยุทธ์ชูดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงไลฟ์สไตล์และสร้างความผูกพันกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น มากกว่าการใช้แมสมีเดียซึ่งเป็นเพียงสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และสอดรับกับอัตราการเติบโตของกระแสของการใช้เฟซบุคของคนไทย มีผู้สมัครเป็นสมาชิกไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคน รวมถึงการใช้ไอโฟน 1.5 ล้านยูนิต และมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือกว่า 18 ล้านคน
สำหรับปีนี้บริษัทได้ใช้งบการตลาดบนสื่อดิจิตอล 5% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นเกม”OISHI SHAKE ME TO JAPAN” ลงบนเฟซบุค และปีนี้ได้ขยายไปสู่แพลตฟอร์มไอโฟน ไอแพด และแอนดรอย โดยนำ QR โค้ด บนกล่องยูเอชที เพื่อนำไปเล่นเกมออนไลน์ คาดว่าจะมีผู้เข้ามาสมัครเล่น 1 ล้านคน จากปีที่ผ่านมา มีผู้สมัคร 3 แสนคน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้า 1.5ล้านคน ทั้งนี้ปัจจัยที่เลือกบรรจุภัณฑ์ยูเอชที เพื่อขยายฐานลูกค้า 8-12 ปี และในปีที่ผ่านมาบรรจุภัณฑ์ยูเอชทีก็เติบโต 45% โดยมีสัดส่วนยอดขาย 30%
“การรุกตลาดในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์การเป็นด้านนวัตกรรมและไลฟ์สไตล์ของแบรนด์ และสร้างฐานลูกค้าอายุเด็กลงมา เนื่องจากโออิชิอยู่ในตลาดมานาน ลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 30 ปีขึ้นไป”
นายแมทธิว กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมทุ่มงบมากกว่า 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญการตลาดรับฤดูร้อนปีนี้ที่กำลังมาถึง พร้อมกับเปิดตัวสินค้าใหม่ 2-3 รายการ โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการเครื่องดื่ม สำหรับสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 8,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโต 30% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการเติบโตมาจากการทำแคมเปญการตลาดในช่วงหน้าร้อนของโออิชิ การเปิดตัวสินค้า และการทำตลาดในช่องทางออนไลน์ และปีนี้คาดว่าจะรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 65%
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าโต 25% หรือมีรายได้ 11,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น กลุ่มเครื่องดื่มมีรายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมปีที่ผ่านมาโต 29% แบ่งเป็น กลุ่มเครื่องดื่มรายได้เกือบ 5,000 ล้านบาท เติบโต 34% และกลุ่มอาหารกว่า 5,000 ล้านบาท เติบโต 24% ขณะที่การรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีนี้ผลักดันยอดขายเพิ่มจาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเป้าหมายการเติบโตปีนี้จะน้อยกว่า แต่มั่นใจว่าด้วยนวัตกรรมและการแบรนด์ที่ครองใจกลุ่มผู้บริโภค จะผลักดันให้ทั้งเครือเติบโตต่อเนื่อง