xs
xsm
sm
md
lg

SITHAIปีนี้ขอโกยรายได้6.7พันล. เมินQ1หดเหตุเบรกรับออร์เดอร์ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ หวังปีนี้โกยรายได้ 6,700 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 17 % จากปี 53 เชื่อยอดขายรวมสูงขึ้น อ่อยแม้ผลงานไตรมาสแรกอาจหดลงจากปีก่อนเพราะไม่ได้รับออร์เดอร์ใหม่เข้ามา เหตุต้นทุนวัตถุดิบพลาสติกแพงและปรับราคาขายไม่ได้ มั่นใจไตรมาส 2 เกินคาดหลังรับงานเพิ่มและปรับราคาสินค้าหลังต้นทุนพุ่ง เผยเบรกเทงบขยายในต่างแดน เพราะยังไม่มั่นใจในเศรษฐกิจทั่วโลก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAI เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 6,700 ล้านบาท จากปี 53 ที่ทำไว้ 5,711 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 17% ซึ่งเป็นผลจากยอดขายที่เติบโตขึ้นจากยอดขายที่มากขึ้นตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งตลาดที่เติบโตดีอย่างอินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ถือว่าเติบโตสูงมาก

สำหรับเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่นที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเนื่องจากการผลิตเป็นสินค้าประเภทเมลามีน แต่ก็อาจกระทบบ้างในส่วนของการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก เพราะหากราคาน้ำมันยังขยับขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเกิดระเบิดนั้นทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ และย่อมต้องส่งผลต่อราคาพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ได้จากการผลิตน้ำมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าปลายปีที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้รับออร์เดอร์ชิ้นส่วนพลาสติกเต็มออร์เดอร์

ดังนั้น จึงมีผลกระทบต่อผลงานไตรมาสแรกปีนี้ของ SITHAI ที่อาจต่ำกว่าไตรมาสแรกปี 53 เพราะราคาพลาสติกที่เป็นวัตถดุิบนั้น ราคาปรับเพิ่มจาก 40 บาท มาเป็น 60 บาท ขณะที่บริษัทไม่อาจปรับราคาได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 10% ขณะที่ไตรมาสแรกปี 53 นั้นผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้น 10% และเมื่อมีเหตุความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้นบวกกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีทิศทางขาขึ้นย่อมทำให้ราคาสินค้าที่ได้จากการผลิตน้ำมันสูงตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

" แต่ผมมั่นใจว่าผลงานของเราไตรมาส 2 จะมาแรง หลังจากที่ต้นทุนสูงมาระยะหนึ่ง เราคงต้องปรับราคาขายไปอีก 5-10% แต่โดยเฉลี่ยจะปรับที่ 7% ตามราคาต้นทุนที่สูงขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี ซึ่งทำให้ไตรมาสแรกปีนี้เป็นช่วงที่เรารอจังหวะและดูอะไรหลายอย่างประกอบ เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ยังอึมครึมและ ราคาพลาสติกขยับเพิ่้มทำให้ปลายปี 53 และมาถึงช่วงต้นปีนี้เราไม่รับออร์เดอร์ใหม่ ๆ ในช่วงที่ผ่านมา เพราะไม่อยากแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจึงกระทบต่อรายได้ที่จะเข้ามาในไตรมาสแรก "

โดยปีนี้ SITHAI ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,400 ล้านบาท ส่วนใหญ่ 1 พันล้านบาทจะใช้ในการขยายงานในประเทศ ส่วนอีก 400 ล้านบาท จะใช้ขยายงานในต่างประเทศ ซึ่งจากเดิมที่จะใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท อาจชะลอไว้ก่อนเนื่องจากค่าเงินด่องที่ลดลง และที่อินเดียอีก 250 ล้านบาท อาจจะต้องชะลอลงทุนไว้ก่อน เพราะเหตุการณ์หลายอย่างที่ยังประเมินไม่ได้

แม้ว่าก่อนหน้านี้ SITHAI ใช้แผนย่นเวลาในการผลิตสินค้าและสร้างรายได้ให้บริษัทเร็วขึ้นแทนการตั้งโรงงานผลิตเอง ด้วยการเข้าซื้อกิจการแทนเพราะใช้เวลาคืนทุนเร็วกว่า ซึ่งการเข้าไปลุยอินเดียเป็นผลจากลูกค้าในอินเดียมีสูง บวกกับประชากรในประเทศดังกล่าวหนาแน่นมาก และจากการเข้าไปตั้งสำนักงานขายในอินเดียก็พบออร์เดอร์มีเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุให้บริษัทเข้าไปลงทุนดังกล่าว แต่โรงงานล้มละลายที่ซื้อมาก็ต้องเพิ่้มเครื่องจักรเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งโรงงานนี้มีเครื่องจักรอยู่ 324 เครื่อง และซื้อมาเพิ่มอีก 78 เครื่องด้วย
การใช้ทุน 40 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการขายในประเทศ 70% และที่เหลือ 30% เป็นการส่งออก ซึ่งอินเดียก็เป็นตลาดที่สำคัญ เพราะปีที่ผ่านมา ทำรายได้ให้ SITHAI ถึง 100 ล้านบาท และยังผลิตเพื่อรองรับการความต้องการใช้ในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ สินค้าที่บริษัทผลิตนั้นมีกำไรขั้นต้น
( กรอสมาร์จิ้น ) เพิ่มขึ้นอีก 1% จากปีก่อนที่มีกรอสมาร์จิ้น 20% ขยับเพิ่มเป็น 21%

นายสนั่นกล่าวถึงธุรกิจขายตรงแบบ MLM ที่เป็นสายธุรกิจใหม่ เน้นสินค้าที่เป็นอุปโภคและบริโภคอย่างเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิวและอาหารเสริม ซึ่งบริษัทมุ่งขายมาได้กว่า 3 ปีแล้วนั้น คาดว่าจะทำรายได้ถึง 300 ล้านบาท ซึ่้งบริษัทตั้งเป้าว่าในอีกไม่กี่ปีนี้จะทำเงินได้แตะ 1 พันล้านบาทได้ และยังมีแผนที่จะตั้งเป็นบริษัทเพื่้อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอีกด้วย

" ธุรกิจนี้ของผมไปได้ดี และอีก 4 ปีข้างหน้าก็น่าจะเห็นอะไรเพิ่มแล้ว ส่วนเรื่องการนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ก็เป็นแผนที่คิดไว้ด้วย รอเวลาและโอกาสที่เหมาะสมครับ "
กำลังโหลดความคิดเห็น