ตลาดขายตรงไทยเนื้อหอม ต่างชาติเล็งบุกเพียบ เผยสองยักษ์จากอเมริกาบุกไทยแล้ว “โมนาวี” ลุยเองตั้งสำนักงาน ด้าน “วอลลารา” ดึง “โฆสิต-ยุวดี” ร่วมปั้น คนวงการชี้หวั่นปัญหาตามมากรณีแย่งซื้อตัวแม่ทีม-ผู้บริหาร
นายบัญชา เหมินทคุณ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการขายตรงทั้งชั้นเดียวและหลายชั้นรายใหญ่ของต่างประเทศ ต่างก็มีความสนใจที่จะขยายธุรกิจเข้ามาลงทุนในไทย ทั้งจากอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่บริษัทจากประเทศเอเชียด้วยกันเองอย่างมาเลเซีย ก็อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดไทยเช่นกัน ที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดขายตรงไทย ที่มีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยแล้วตลาดขายตรงในไทยมีการเติบโตระดับ 10% ทุกปี จากมูลค่ตลาดรวมมากกว่า 80,000 ล้านบาท
ประกอบกับธุรกิจขายตรงในไทย ยังเปิดกว้างโดยสังเกตได้จากมีทั้งผู้ประกอบการของไทยเองที่ล้วนก็เป็นรายใหญ่ ส่วนบริษัทต่างชาติก็มีเช่นกันแต่ก็ยังไม่มากนัก ทำให้ยังพอมีช่องว่างเข้ามารุกตลาดได้ ซึ่งในส่วนของคนไทยก็มีกระแสข่าวว่ามกลุ่มทุนใหญ่เตรียมที่จะรุกธุรกิจขายตรงเช่นกันอย่างน้อย 2-3 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เปิดตัวไปแล้ว เช่น กลุ่มมาบุญครอง
แต่ทั้งนี้ แนวทางของบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจในไทย ต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการให้สอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งการนำสินค้าที่จะเข้าสู่ระบบขายตรงต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วขายตรงของต่างประเทศที่สนใจตลาดไทยจะเน้นพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สกินแคร์ เพอร์ชันนัลแคร์ เป็นหลัก
แหล่งข่าววงการขายตรงรายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การที่บริษัทต่างชาติเข้ามามากก็ดีช่วยทำให้ตลาดเติบโตขึน้ แต่ขณะเดียวกัน ปัญหาที่จะตามมา ก็คือ การซื้อตัวผู้บริหารระดับสูงและการโยกย้ายค่ายของแม่ทีม เพราะตลาดมีความต้องการมากขึ้น เพราะเมื่อบริษัทใหม่เริ่มธุรกิจใหม่ก็ต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีสายสัมพันธ์กับช่องทาง และลูกค้าที่ดีอยู่แล้วเป็นใบเบิกทาง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างค่าตอบแทนและอินเซนทีฟได้
สองยักษ์อเมริกาบุกไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีบริษัทขายตรงรายใหญ่ต่างชาติได้เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว บางรายอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัท ฟอร์มทีมงาน บางรายก็พร้อมที่จะทำธุรกิจแล้ว ส่วนบางรายก็เริ่มทำธุรกิจไปก่อนแล้วอย่างเงียบๆรอจังหวะเวลาดีๆ เพื่อที่จะเปิดตัวเป็นทางการ
ทั้งนี้ บริษัทที่มีความเคลื่อนไหวแล้ว เช่น บริษัท โมนาวี จากอเมริกา เน้นสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยบริษัทแม่เข้ามาลงทุนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานเรื่องกฎหมายและจดทะเบียนบริษัท นอกจากนั้น ยังมีบริษัท ยูซาน่า จากอเมริกาเช่นกัน ที่แม้จะยังไม่เข้ามาแต่ก็อยู่ระหว่างศึกษาเช่นกัน
อีกรายใหญ่คือ บริษัท วอลลารา (VOLLARA ) ของอเมริกา ก็เข้ามาเมืองไทยจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ บริษัท วอลลารา (ปแระเทศไทย) จำกัด โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจ คือ นายโฆสิต สุวินิจจิต ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ ละ นางยุวดี บุญครอง เป็นผู้อำนวยการบริษัท เพื่อบุกตลาดขายตรงเป็นครั้งแรกในไทย ด้วยการชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์สุดยอดเทคโนโลยีมาตรฐานองค์การนาซา
ทั้งนี้ บริษัท วอลารา เป็นธุรกิจในเครือข่ายขางตรงอันดับที่ 39 ของโลก ที่อยู่ในเครือข่าย Aerus Holding ที่มียอดขายรวมกันมากกว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี ตลอดจนมีสินค้าเทคโนโลยี แอคทีฟเพียว ที่ได้รับการคิดค้นพัฒนาครั้งแรกในโครงการอวกาศองค์การนาซา เป็นธุรกิจเครือข่ายพาณิชย์อิเลกทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ผ่านอี-คอมเมิร์ซ ทำตลาดออนไลน์ทั่วโลก โดยบริษัทจะเป็นคนส่งสินค้าเองและจ่ายผลตอบแทนแบบ mlm ภายใต้ชื่อ vollara
นายบัญชา เหมินทคุณ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการขายตรงทั้งชั้นเดียวและหลายชั้นรายใหญ่ของต่างประเทศ ต่างก็มีความสนใจที่จะขยายธุรกิจเข้ามาลงทุนในไทย ทั้งจากอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่บริษัทจากประเทศเอเชียด้วยกันเองอย่างมาเลเซีย ก็อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดไทยเช่นกัน ที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดขายตรงไทย ที่มีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยแล้วตลาดขายตรงในไทยมีการเติบโตระดับ 10% ทุกปี จากมูลค่ตลาดรวมมากกว่า 80,000 ล้านบาท
ประกอบกับธุรกิจขายตรงในไทย ยังเปิดกว้างโดยสังเกตได้จากมีทั้งผู้ประกอบการของไทยเองที่ล้วนก็เป็นรายใหญ่ ส่วนบริษัทต่างชาติก็มีเช่นกันแต่ก็ยังไม่มากนัก ทำให้ยังพอมีช่องว่างเข้ามารุกตลาดได้ ซึ่งในส่วนของคนไทยก็มีกระแสข่าวว่ามกลุ่มทุนใหญ่เตรียมที่จะรุกธุรกิจขายตรงเช่นกันอย่างน้อย 2-3 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เปิดตัวไปแล้ว เช่น กลุ่มมาบุญครอง
แต่ทั้งนี้ แนวทางของบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจในไทย ต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการให้สอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้งการนำสินค้าที่จะเข้าสู่ระบบขายตรงต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วขายตรงของต่างประเทศที่สนใจตลาดไทยจะเน้นพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สกินแคร์ เพอร์ชันนัลแคร์ เป็นหลัก
แหล่งข่าววงการขายตรงรายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า การที่บริษัทต่างชาติเข้ามามากก็ดีช่วยทำให้ตลาดเติบโตขึน้ แต่ขณะเดียวกัน ปัญหาที่จะตามมา ก็คือ การซื้อตัวผู้บริหารระดับสูงและการโยกย้ายค่ายของแม่ทีม เพราะตลาดมีความต้องการมากขึ้น เพราะเมื่อบริษัทใหม่เริ่มธุรกิจใหม่ก็ต้องการผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีสายสัมพันธ์กับช่องทาง และลูกค้าที่ดีอยู่แล้วเป็นใบเบิกทาง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างค่าตอบแทนและอินเซนทีฟได้
สองยักษ์อเมริกาบุกไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีบริษัทขายตรงรายใหญ่ต่างชาติได้เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว บางรายอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัท ฟอร์มทีมงาน บางรายก็พร้อมที่จะทำธุรกิจแล้ว ส่วนบางรายก็เริ่มทำธุรกิจไปก่อนแล้วอย่างเงียบๆรอจังหวะเวลาดีๆ เพื่อที่จะเปิดตัวเป็นทางการ
ทั้งนี้ บริษัทที่มีความเคลื่อนไหวแล้ว เช่น บริษัท โมนาวี จากอเมริกา เน้นสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยบริษัทแม่เข้ามาลงทุนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานเรื่องกฎหมายและจดทะเบียนบริษัท นอกจากนั้น ยังมีบริษัท ยูซาน่า จากอเมริกาเช่นกัน ที่แม้จะยังไม่เข้ามาแต่ก็อยู่ระหว่างศึกษาเช่นกัน
อีกรายใหญ่คือ บริษัท วอลลารา (VOLLARA ) ของอเมริกา ก็เข้ามาเมืองไทยจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ บริษัท วอลลารา (ปแระเทศไทย) จำกัด โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจ คือ นายโฆสิต สุวินิจจิต ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ ละ นางยุวดี บุญครอง เป็นผู้อำนวยการบริษัท เพื่อบุกตลาดขายตรงเป็นครั้งแรกในไทย ด้วยการชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์สุดยอดเทคโนโลยีมาตรฐานองค์การนาซา
ทั้งนี้ บริษัท วอลารา เป็นธุรกิจในเครือข่ายขางตรงอันดับที่ 39 ของโลก ที่อยู่ในเครือข่าย Aerus Holding ที่มียอดขายรวมกันมากกว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี ตลอดจนมีสินค้าเทคโนโลยี แอคทีฟเพียว ที่ได้รับการคิดค้นพัฒนาครั้งแรกในโครงการอวกาศองค์การนาซา เป็นธุรกิจเครือข่ายพาณิชย์อิเลกทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ผ่านอี-คอมเมิร์ซ ทำตลาดออนไลน์ทั่วโลก โดยบริษัทจะเป็นคนส่งสินค้าเองและจ่ายผลตอบแทนแบบ mlm ภายใต้ชื่อ vollara